×
SCB Omnibus Fund 2024

หุ้น ‘วอลล์สตรีท’ สดใส ลุ้นข่าวดีวัคซีนโควิด-19 ออกใช้ ธ.ค. นี้

โดย THE STANDARD TEAM
10.11.2020
  • LOADING...
หุ้น ‘วอลล์สตรีท’ สดใส ลุ้นข่าวดีวัคซีนโควิด-19 ออกใช้ ธ.ค. นี้

ดัชนีหลักในตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ เปิดตลาดรับสัปดาห์พุ่งทะยานทุบสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ หลัง Pfizer บริษัทยายักษ์ใหญ่ประกาศความสำเร็จในการทดสอบวัคซีนว่าได้ผลในการป้องกันโควิด-19 เกือบ 100%

 

รายงานระบุว่า เพียง 5 นาทีหลังเปิดตลาดซื้อขาย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น 5.4% มาอยู่ที่ 29,839.45 จุด โค่นสถิติสูงสุดเดิมเมื่อวันที่ 12 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ซึ่งอยู่ที่ 29,551.42 จุด

 

ด้านดัชนี S&P 500 ปรับตัวเพิ่มขึ้น 3.6% ทำสถิติสูงสุดระลอกใหม่แทนสถิติเดิมที่ทำไว้เมื่อวันที่ 2 กันยายน และดัชนีแนสแด็ก คอมโพสิต ปรับเพิ่มขึ้นทุบสถิติเช่นกัน ก่อนที่จะปรับลดลงมาแตะที่ 11,986.12 จุด เพิ่มขึ้น 0.4%

 

ความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นวอลล์สตรีทในวันนี้ได้รับแรงหนุนจากข่าวดีที่บริษ้ทผู้ผลิตยา Pfizer ประกาศข่าวดีเรื่องวัคซีนโควิด-19 ที่ทางบริษัทบรรลุผลสำเร็จในการผลิตวัคซีนได้ถึง 90% จุดประกายความหวังให้แก่นักลงทุนทั่วโลกที่เศรษฐกิจจะสามารถฟื้นฟูกลับมาได้เร็วขึ้น

 

Russ Mould ผู้อำนวยการด้านการลงทุนของ AJ Bell กล่าวว่า ข่าววัคซีนของ Pfizer เปรียบเสมือนสารอะดรีนาลีนที่กระตุ้นให้ตลาดเกิดความคึกคักมากขึ้น หลังจากผันผวนและซบเซามาอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่ช่วงต้นปี เพราะวิกฤตการระบาด

 

ขณะที่ Emmanuel Cau หัวหน้ากลยุทธ์หลักทรัพย์ประจำภูมิภาคยุโรปของ Barclays ระบุว่า ความก้าวหน้าของวัคซีนคือจุดเปลี่ยนสำคัญในการฟื้นฟูเศรษฐกิจโลกให้แข็งแกร่งและยั่งยืนในปีหน้า

 

ทั้งนี้ บริษัท Pfizer และบริษัท BioNTech สองผู้ผลิตยารายใหญ่ชั้นนำของโลก เปิดเผยว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ที่ร่วมกันพัฒนาขึ้นนี้ มีประสิทธิภาพในการรักษาโรคโควิด-19 โดยการทดสอบเห็นผลกว่า 90% แล้ว กระนั้นการทดสอบวัคซีนยังเหลืออีกหลายขั้นตอน และต้องใช้เวลาอีกสักระยะกว่าจะสามารถนำมาใช้จริงได้

 

โดยก่อนหน้านี้ บรรดานักวิทยาศาสตร์ต่างคาดหวังว่า วัคซีนต้านโควิด-19 ที่จะสามารถผลิตออกมาใช้ได้จะมีประสิทธิภาพอย่างน้อย 75% ขณะที่นายแพทย์แอนโทนี เฟาซี ผู้อำนวยการสถาบันภูมิแพ้และโรคติดต่อแห่งชาติสหรัฐฯ ในฐานะนายแพทย์ใหญ่ของคณะทำงานเฉพาะกิจด้านการควบคุมโควิด-19 ของทำเนียบขาวเคยระบุว่า แค่วัคซีนมีประสิทธิภาพ 50-60% ก็สามารถยอมรับได้แล้ว

 

อย่างไรก็ตาม จากการทดสอบจนถึงขณะนี้ ยังไม่พบประเด็นด้านความปลอดภัยที่น่าวิตกแต่อย่างใด โดย Pfizer และ BioNTech ตั้งเป้าที่จะยื่นจดทะเบียนต่อสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ (FDA) ภายในเดือนนี้ ทำให้มีความหวังที่จะได้รับการอนุมัติให้นำมาใช้ทั่วไปได้เร็วที่สุดในเดือนธันวาคม

 

โดยหากได้รับการอนุมัติอย่างเป็นทางการ ทางบริษัทจะสามารถผลิตวัคซีนได้มากถึง 50 ล้านโดสภายในปีนี้ ซึ่งเป็นปริมาณที่เพียงพอต่อการช่วยเหลือประชากร 25 ล้านคน ก่อนที่จะผลิตวัคซีนออกมาอีก 1,300 ล้านโดสภายในปีหน้า

 

นายแพทย์อัลเบิร์ต เบอร์ลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของบริษัท Pfizer แสดงความเชื่อมั่นว่า ความพยายามที่บรรลุผลของบริษัทถือเป็นความคืบหน้าทางการแพทย์ครั้งสำคัญที่สุดในรอบ 100 ปี

 

ขณะเดียวกัน ซีอีโอของ Pfizer ยังกล่าวอีกว่า ตนเองพร้อมที่จะเป็นคนแรกๆ ในการเข้ารับการฉีดวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 ที่ทางบริษัทร่วมพัฒนากับ BioNTech ของเยอรมนี เพื่อคลายความกังวลของผู้ที่ไม่มั่นใจเกี่ยวกับความปลอดภัยของวัคซีน เพียงแต่ไม่แน่ใจว่าด้วยช่วงอายุของตนที่ค่อนไปทางผู้สูงอายุจะเหมาะสมต่อการเป็นกลุ่มทดสอบวัคซีนหรือไม่

 

นอกจากจะสร้างความยินดีให้แก่นักลงทุนในตลาดแล้ว ความคืบหน้าของวัคซีนยังสร้างความหวังให้แก่บรรดาผู้เชี่ยวชาญ โดยส่วนใหญ่คาดหวังที่จะได้เห็นข้อมูลรายงานการทดสอบฉบับเต็มของทางบริษัท เนื่องจากยังมีประเด็นคำถาม อย่างประสิทธิภาพของวัคซีนว่ามีผลต่อเชื้อชาติหรืออายุหรือไม่ และวัคซีนใช้ระยะเวลานานเท่าไรในการสร้างภูมิคุ้มกัน

 

สำนักข่าวรอยเตอร์สรายงานว่า ทาง Pfizer หวังจะขอใช้อำนาจฉุกเฉินจากทางการสหรัฐฯ เพื่อทดสอบฉีดวัคซีนให้กับประชาชนอายุระหว่าง 16-85 ปี โดยที่ทาง Pfizer จะต้องจัดส่งข้อมูลด้านความปลอดภัยของวัคซีนจากการศึกษาจากผู้เข้าร่วมการทดสอบก่อนหน้าจำนวน 44,400 คน ซึ่งคาดว่ารายงานดังกล่าวจะเสร็จสิ้นในช่วงสัปดาห์ที่สามของเดือนพฤศจิกายน

 

กระนั้น เพียงไม่นานหลังจากที่ Pfizer เปิดเผยความคืบหน้าดังกล่าว ทางสหภาพยุโรป (EU) เปิดเผยว่าได้เตรียมลงนามในข้อตกลงซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวนหลายร้อยล้านโดสของ Pfizer ในเร็ววันนี้

 

ก่อนหน้านี้เมื่อเดือนกันยายน ทาง EU เพิ่งจะเสร็จสิ้นการเจรจาในเบื้องต้นเพื่อซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จำนวน 200 ล้านโดส และยังได้รับสิทธิ์ซื้อเพิ่มอีก 100 ล้านโดส โดยนอกจาก EU แล้ว ทั้งสหรัฐฯ อังกฤษ และญี่ปุ่นก็ได้ประกาศทำข้อตกลงในการซื้อวัคซีนต้านโควิด-19 จากบริษัท Pfizer

 

พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising