×

‘VinFast’ จับมือ ‘Autonomy’ จัดหารถยนต์ไฟฟ้า 2,500 คันป้อนตลาดสหรัฐฯ

18.11.2022
  • LOADING...
VinFast

VinFast ซึ่งเป็นผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเวียดนามขยับครั้งใหญ่ ล่าสุดได้ผนึกความร่วมมือกับ Autonomy ซึ่งเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ให้เช่า เพื่อจัดหารถยนต์ 2,500 คันป้อนตลาดในสหรัฐอเมริกา

 

สถานีโทรทัศน์ Channel NewsAsia ของสิงคโปร์เปิดเผยว่า VinFast ผู้ผลิตรถยนต์ไฟฟ้าของเวียดนาม ได้บรรลุข้อตกลงกับ Autonomy บริการรถยนต์ให้เช่ากับสมาชิกในสหรัฐฯ เพื่อจัดหารถยนต์มากกว่า 2,500 คัน นับเป็นคำสั่งซื้อของ VinFast ที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ที่ก่อตั้งบริษัทมาจนถึงปัจจุบัน และยังเป็นส่วนหนึ่งของแผนการขยายตลาดเพิ่มเติมของทางบริษัท 


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


ทั้งนี้ VinFast ซึ่งได้ยุติการผลิตรถยนต์ที่ใช้น้ำมันไปเมื่อเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา กำลังเตรียมพร้อมที่จะเจาะตลาดสหรัฐฯ โดยหวังว่าจะสามารถแข่งขันกับผู้ผลิตรถยนต์ค่ายอื่นๆ และส่งมอบรถสปอร์ตยูทิลิตี้ชุดแรกจำนวน 5,000 คันไปยังสหรัฐฯ ในเดือนธันวาคมนี้ โดยในจำนวนนี้ 2,500 คันจะจัดส่งไปยัง Autonomy 

 

แถลงการณ์ร่วมของบริษัททั้งสองแห่งระบุว่า “VinFast จะเริ่มส่งมอบรถยนต์ไฟฟ้าให้กับทาง Autonomy ในอีก 12 เดือนข้างหน้า” 

 

VinFast ยังเปิดเผยอีกว่า ก่อนหน้านี้ในเดือนสิงหาคม ทาง Autonomy ได้สั่งซื้อครั้งแรกไปที่ 400 คัน 

 

ทั้งนี้ Autonomy คือบริการที่อนุญาตให้ผู้ใช้เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าคันใดคันหนึ่งแทนที่จะต้องหาซื้อให้เปลืองเงิน โดยเฉพาะค่าใช้จ่ายด้านการบำรุงรักษาและซ่อมแซมรถ ปัจจุบัน บริษัทกำลังเสนอการสมัครสมาชิก Tesla และกำลังวางแผนที่จะเพิ่มรถยนต์อีกหลายยี่ห้อ เช่น Rivian, Kia, Mercedes-Benz และ VinFast  

 

ขณะนี้ VinFast มียอดจองเกือบ 65,000 คันทั่วโลก และคาดว่าจะขาย EV ได้ 750,000 คันต่อปีภายในปี 2026

 

ย้อนกลับไปเมื่อเดือนมีนาคม VinFast กล่าวว่า จะสร้างโรงงานผลิตในนอร์ทแคโรไลนา ด้วยกำลังการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่คาดการณ์ไว้เบื้องต้นที่ 150,000 คันต่อปี ส่วนในเดือนกรกฎาคม ทางบริษัทได้คุยกับธนาคารเพื่อระดมทุนอย่างน้อย 4 พันล้านดอลลาร์สำหรับโครงการดังกล่าว 

 

ตามข้อมูลจากถ้อยแถลงระบุว่า ทาง VinFast กำลังวางแผนที่จะจัดแสดงรถยนต์ EV ใหม่สองรุ่น ได้แก่ VF 6 และ VF 7 ที่งานแสดงรถยนต์ในลอสแอนเจลิส ซึ่งจะมีขึ้นในสัปดาห์นี้

 

ด้านค่ายรถยนต์ยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ อย่าง General Motors หรือ GM ได้ออกมาคาดการณ์ว่ากำไรจากการขายรถยนต์ไฟฟ้าจะเทียบเท่ารถยนต์ที่ใช้น้ำมันได้ภายในปี 2025 นี้ ซึ่งนับได้ว่าเร็วกว่าที่กำหนดไว้หลายปี 

 

แมรี บาร์รา ซีอีโอของ GM กล่าวเมื่อวันพฤหัสบดี (17 พฤศจิกายน) ที่ผ่านมาว่า ปัจจัยที่สนับสนุนให้เกิดการคาดการณ์ในทางบวกนี้เป็นผลจากมาตรการจูงใจของรัฐบาลกลางภายใต้กฎหมายปรับลดอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งรวมถึงการคืนเงินสำหรับบริษัทที่ผลิต EV ในอเมริกาเหนือ เช่นเดียวกับผู้บริโภคและลูกค้ากลุ่มยานพาหนะที่ซื้อรถยนต์ไฟฟ้า


“ชัดเจนว่าเครดิตเหล่านี้จะช่วยนำไปสู่ยุคใหม่ของนวัตกรรมเทคโนโลยีและการสร้างงานที่จะบรรลุสิ่งที่ตั้งใจไว้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจของสหรัฐอเมริกา ดีสำหรับครอบครัวชาวอเมริกัน และดีต่อสิ่งแวดล้อม โดยทาง GM มีความพร้อมอย่างมาก” บาร์รากล่าวในระหว่างวันพบนักลงทุน

 

ด้าน พอล จาค็อบสัน CFO ของ GM กล่าวว่า แรงจูงใจดังกล่าวน่าจะเพิ่มอัตรากำไรในพอร์ตโฟลิโอ EV ของ GM อีก 5-7% โดยไม่ต้องมีมาตรการกระตุ้นจากรัฐบาลกลาง พร้อมคาดว่า GM จะเป็นหนึ่งในกลุ่มค่ายรถยนต์กลุ่มแรกๆ ของสหรัฐฯ ที่จะมีสิทธิ์ได้รับเครดิตภาษีผู้บริโภคมูลค่า 7,500 ดอลลาร์สหรัฐ ท่ามกลางข้อกำหนดในการจัดหาวัสดุแบตเตอรี่ EV ที่เข้มงวดขึ้น

 

ทั้งนี้ กำไรดังกล่าวคาดว่าจะช่วยเพิ่มรายได้ของ GM ในอัตรา 12% ต่อปีคิดเป็นมูลค่ามากกว่า 225,000 ล้านดอลลาร์ โดยจำนวนนี้เป็นรายได้จากรถ EV ที่ 50,000 ล้านดอลลาร์ภายในปี 2025 

 

ขณะนี้ บรรดานักลงทุนและนักวิเคราะห์ต่างรอฟัง GM ที่จะให้ความกระจ่างเกี่ยวกับแผนการทำกำไรระยะสั้นสำหรับรถยนต์ไฟฟ้า ตลอดจนแนวโน้มธุรกิจในช่วงที่อัตราดอกเบี้ยและอัตราเงินเฟ้อพุ่งสูงขึ้น รวมถึงการรับมือกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

 

ด้านหุ้นของ GM เมื่อวานนี้ ปิดตลาดเพิ่มขึ้นน้อยกว่าครึ่งเปอร์เซ็นต์เป็น 38.64 ดอลลาร์ต่อหุ้น โดยนับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา ราคาหุ้นของบริษัทลดลงแล้วรวม 34% เนื่องจากนักลงทุนกังวลว่า ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำจะส่งผลกระทบต่อความต้องการของผู้บริโภค

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X