เวียดนามจ่อผ่อนปรนกฎหมายเมาแล้วขับในต้นปี 2025 หลังผู้ผลิตเบียร์โวย ตั้งแต่กฎหมายนี้บังคับใช้ ชาวเวียดนามที่เคยขึ้นชื่อว่าดื่มเบียร์มากกว่าประเทศอื่นในเอเชียกลับกังวลมากจนดื่มเบียร์น้อยลง กระทบยอดขายเบียร์อย่างหนัก
Nikkei Asia รายงานว่า นับตั้งแต่รัฐบาลเวียดนามบังคับใช้กฎหมายเมาแล้วขับอย่างเคร่งครัดในปี 2020 เพื่อลดการเกิดอุบัติเหตุและการเสียชีวิตบนท้องถนน เนื่องจากในปี 2019 ชาวเวียดนามเสียชีวิตบนท้องถนน 30 คนต่อประชากร 1 แสนคน ซึ่งนับว่ามากที่สุดในภูมิภาคอาเซียน
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- Heineken ยอมแพ้! ปิดโรงเบียร์เวียดนาม สู้เศรษฐกิจทรุด-ภาษีพุ่งไม่ไหว
- ฟองที่เริ่มเจือจางของ Sabeco ผู้ผลิตเบียร์ยักษ์ใหญ่ของเวียดนาม และหนึ่งในธุรกิจเครือไทยเบฟ
- ‘เบียร์ไร้แอลกอฮอล์’ ทางเลือกใหม่ของคนรักสุขภาพโตทั่วโลก ค่ายยักษ์ทุ่มทุนชิงส่วนแบ่งตลาด
ทั้งนี้ กฎหมายดังกล่าวส่งผลกระทบต่อตลาดเบียร์ แม้ประชากรเวียดนามดื่มเบียร์มากกว่าประเทศอื่นๆ ในเอเชีย แต่จากตัวเลขสถิติ Statista ยอดขายเบียร์ในเวียดนามเมื่อปี 2020 ร่วงลงกว่า 25% จากปีก่อนหน้า (YoY) เหลือ 5.8 พันล้านดอลลาร์ (ราว 1.91 แสนล้านบาท) ซึ่งประเมินว่าตัวเลขยอดขายไม่มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นลากยาวไปจนถึงปี 2030
แม้ที่ผ่านมาธุรกิจเครื่องดื่มแอลกอฮอล์พยายามปรับตัวเพิ่มยอดขายด้วยการออกคูปองเรียกรถหรือให้พนักงานที่ร้านขับรถพาลูกค้ากลับบ้าน และหันมาเปิดตัวเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์ แต่ก็ไม่สำเร็จในแง่ของยอดขาย
ทำให้อุตสาหกรรมเครื่องดื่มแอลกอฮอล์เรียกร้องให้ภาครัฐผ่อนปรนข้อกฎหมายลงในช่วงฤดูร้อน ซึ่งสอดรับกับสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรบางส่วนที่มองว่านโยบายดังกล่าวเข้มงวดเกินไป
กระทั่งเมื่อไม่นานมานี้ กระทรวงความมั่นคงของรัฐได้ออกประกาศร่างพระราชกฤษฎีกาใหม่ เตรียมผ่อนปรนการบังคับใช้กฎหมายปรับโทษลดลง โดยผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ หากมีความเข้มข้นของแอลกอฮอล์ในเลือด หรือ BAC ต่ำกว่า 0.05% จะถูกปรับสูงสุดไม่เกิน 6 แสนดอง (ราว 790 บาท) ลดลงจากปัจจุบันที่ถูกปรับอยู่ที่ 3 ล้านดอง (ราว 4,000 บาท)
โดยร่างพระราชกฤษฎีกาฉบับใหม่จะมีผลบังคับใช้ในวันที่ 1 มกราคม 2025 ซึ่งใช้ระบบหักคะแนนผู้ขับขี่ครั้งละ 1 คะแนนในแต่ละครั้งที่ฝ่าฝืนกฎจราจร และหากถูกหักคะแนนทั้งหมด 12 คะแนนจะถูกยึดใบขับขี่
ด้าน Nguyen Thi Quynh Nhu ผู้จัดการของสำนักงานกฎหมาย Eruditus Legal กล่าวว่า สิ่งที่น่าสนใจที่สุดคือข้อเสนอในการลดค่าปรับให้ผู้ขับขี่ที่มีระดับแอลกอฮอล์ในเลือดต่ำที่สุด เพื่อให้สอดคล้องกับความรุนแรงของการกระทำความผิด
จากเดิมกฎหมายจะลงโทษทันทีที่พบว่าผู้ขับขี่มีปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเพียงเล็กน้อย ทำให้ชาวเวียดนามบางส่วนกลัวว่าการกินผลไม้หมักดองอาจทำให้ผิดกฎหมายเมาแล้วขับได้
อีกหนึ่งผลพวงของนโยบายคือเจ้าหน้าที่ยึดรถจักรยานยนต์ในเมืองโฮจิมินห์ได้กว่าแสนคัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ระบุว่า ผู้ที่เมาแล้วขับเลือกทิ้งรถจักรยานยนต์ของตัวเองเพื่อเลี่ยงการจ่ายค่าปรับ
อย่างไรก็ตาม จากข้อมูลล่าสุดขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี 2021 เวียดนามมีผู้เสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนมากเป็นอันดับ 3 ของภูมิภาคอาเซียน เจ้าหน้าที่ไม่เพียงแต่จับกุมผู้เมาแล้วขับเท่านั้น แต่ยังจับกุมผู้มีพฤติกรรมการขับขี่ที่ไม่ดี เช่น การขับรถบนทางเท้า และการบังคับรถด้วยเท้าข้างเดียวที่กำลังเป็นกระแสบน TikTok ด้วยเช่นกัน
อ้างอิง:
