พรรคเดโมแครต กลับมาครองเสียงข้างมากในสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ได้เป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2010 โดยผลเอ็กซิตโพลคาดว่าพรรคจะสามารถกวาดที่นั่งในศึกเลือกตั้งกลางเทอมได้อย่างน้อย 23 ที่นั่ง รวมเป็น 218 ที่นั่ง เพื่อคานอำนาจกับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ในสภานิติบัญญัติในช่วง 2 ปีที่เหลือของการดำรงตำแหน่ง ส่วนในวุฒิสภา รีพับลิกันยังคงครองเสียงข้างมากตามเดิม โดยคาดว่าอาจได้เพิ่มอีก 4 ที่นั่ง รวมเป็น 55 ที่นั่ง
ภูมิทัศน์การเมืองในสหรัฐฯ เปลี่ยนแปลงไปอย่างมีนัยสำคัญ เมื่อพรรคเดโมแครตสามารถกวาดที่นั่ง ส.ส. ในเขตเลือกตั้งสำคัญได้เพิ่มเติม เช่น ในรัฐเพนซิลเวเนีย, นิวเจอร์ซีย์, เวอร์จิเนีย, มิชิแกน, แคนซัส และแคลิฟอร์เนีย ซึ่งเป็นเครื่องสะท้อนว่าชาวอเมริกันจำนวนมากอาจไม่พอใจผลงานของทรัมป์ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา หรือต้องการให้ทรัมป์ถูกคานอำนาจมากขึ้น
แนนซี เปโลซี ผู้นำเสียงข้างมากของพรรคเดโมแครต และว่าที่ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ประกาศชัยชนะในค่ำคืนที่ผ่านมา (6 พ.ย.) ว่า “วันพรุ่งนี้จะเป็นวันใหม่ของอเมริกา ส่วนวันนี้เป็นมากกว่าเรื่องราวของเดโมแครตและรีพับลิกัน แต่เป็นเรื่องของการฟื้นฟูระบบการถ่วงดุลอำนาจและตรวจสอบรัฐบาลทรัมป์ตามรัฐธรรมนูญของสหรัฐฯ”
คาดว่า ส.ส. เดโมแครตจะเดินหน้าตรวจสอบนโยบายด้านเศรษฐกิจของทรัมป์ รวมไปถึงกฎหมายภาษีที่เป็นข้อถกเถียง ตลอดจนให้การปกป้องกฎหมายประกันสุขภาพ หรือ เฮลธ์แคร์ ซึ่งเป็นผลงานชิ้นโบแดงของอดีตประธานาธิบดีบารัก โอบามา
ถึงแม้การถ่วงดุลในสภาคองเกรส จะทำให้เกิดความวิตกเกี่ยวกับการผลักดันนโยบายพัฒนาระบบสาธารณูปโภคต่างๆ ในประเทศ แต่นักวิเคราะห์มองว่า สองพรรคจะเปิดประตูความร่วมมือในด้านสาธารณสุข เช่น การปรับลดราคายา และการพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐาน
ส่วนประเด็นการผลักดันให้ถอดถอนทรัมป์ออกจากตำแหน่งนั้น ขึ้นอยู่กับผลการสอบสวนของโรเบิร์ต มุลเลอร์ ที่ปรึกษาพิเศษ หรือรายงานของคณะกรรมการตรวจสอบของเดโมแครตว่าทรัมป์มีส่วนรู้เห็นกับการแทรกแซงกิจการภายในของรัสเซียในช่วงการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ เมื่อ 2 ปีก่อนหรือไม่ แต่สำหรับเปโลซีแล้ว เธอต้องการให้ประเทศชาติเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน ณ เวลานี้
“ส.ส. และ ส.ว. เดโมแครตจะทำงานร่วมกันเพื่อหาทางออก และสร้างความเป็นเอกภาพในประเทศ เพราะเรามีความแตกแยกกันมามากพอแล้ว”
สำหรับวุฒิสภาซึ่งมีการชิงชัยกัน 35 ที่นั่งจากทั้งหมด 100 ที่นั่ง หรือ 1 ใน 3 นั้น ปรากฏว่า รีพับลิกันของทรัมป์ยังคงรักษาเก้าอี้ ส.ว. ในเขตฐานเสียงสำคัญได้เกือบทั้งหมด และได้เพิ่มจาก ส.ว. เดโมแครตอีกจำนวนหนึ่ง ทำให้พรรคยังคงครองเสียงข้างมากในสภาสูงได้ต่อไป และส่งผลให้การผลักดันนโยบายและกฎหมายสำคัญของทรัมป์ต่อไปนี้ยังคงมีความเป็นไปได้
ด้านทรัมป์ได้ทวีตขอบคุณชาวอเมริกันทุกคน โดยระบุว่าเป็นการเลือกตั้งที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก แม้ว่ารีพับลิกันจะสูญเสียเสียงข้างมากในสภาล่างก็ตาม
นอกจากสมาชิกสภาคองเกรสแล้ว ศึกเลือกตั้งกลางสมัยที่เพิ่งผ่านพ้นไปนี้ ยังมีการเลือกผู้ว่าการมลรัฐใน 36 รัฐด้วย ซึ่งผลการเลือกตั้งในรัฐน่าจับตา ปรากฏว่า รอน เดอซานติส จากรีพับลิกัน สามารถคว้าชัยเหนือแอนดรูว์ กิลลัม จากเดโมแครต ในการชิงชัยเก้าอี้ผู้ว่าฯ รัฐฟลอริดา ขณะที่ คริสตี โนเอ็ม สร้างประวัติศาสตร์หน้าใหม่ด้วยการเป็นผู้ว่าฯ หญิงคนแรกของรัฐเซาท์ดาโคตา
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
- www.cnbc.com/2018/11/06/midterm-election-results-democrats-and-republicans-fight-for-house-majority.html
- edition.cnn.com/2018/11/07/opinions/2018-election-results-mueller-investigation-honig/index.html
- www.independent.co.uk/news/world/americas/us-politics/midterms-2018/florida-election-results-live-senate-race-midterm-andrew-gillum-ron-desantis-governor-polls-a8621151.html