×
SCB Omnibus Fund 2024

สองเจ้าหน้าที่ ‘Fed’ ส่งสัญญาณเตรียมขึ้นดอกเบี้ย มองเศรษฐกิจสหรัฐฯ ฟื้นตัวเร็ว-เงินเฟ้อเริ่มแตะเป้าหมาย

10.08.2021
  • LOADING...
USA Fed

ตัวแทนธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) ในแอตแลนตาและริชมอนด์ แสดงความเห็นกรณีแนวโน้มการปรับเปลี่ยนนโยบายของ Fed ซึ่งหมายรวมถึงการลดปริมาณการซื้อคืนพันธบัตร (QE) รายเดือนและการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย โดยทั้งสองเห็นตรงกันว่า ถ้าพิจารณาจากเศรษฐกิจสหรัฐฯ ที่เติบโตได้อย่างรวดเร็ว บวกกับแนวโน้มตลาดจ้างงานที่เป็นไปในทิศทางที่สดใส และอัตราเงินเฟ้อที่อยู่ในเป้าที่น่าพอใจ ทำให้มีความเป็นไปได้อย่างมากที่ Fed จะสามารถปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยได้เร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้

 

รายงานระบุว่า ตัวแทน Fed ทั้งสองต่างคาดการณ์ว่า Fed น่าจะลดปริมาณการ QE ได้ในช่วงไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ แต่ถ้าหากว่าตัวเลขการจ้างงานยังคงเติบโตได้ตามอัตราที่เป็นอยู่ในขณะนี้ การลดปริมาณ QE ก็น่าจะเกิดขึ้นได้ก่อนไตรมาส 4 ขณะเดียวกันทั้งสองยังเห็นตรงกันว่า เป้าหมายอัตราเงินเฟ้อ 2% ของ Fed ต่างบรรลุผลตั้งนานแล้ว ดังนั้น เมื่อ 1 ใน 2 เกณฑ์สำคัญ คือ ตลาดแรงงานและอัตราเงินเฟ้อ เป็นไปตามเงื่อนไขของเงื่อนไขการพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยของ Fed จึงมีความเป็นไปได้อย่างมากที่จะเกิดขึ้นภายในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

 

ความเห็นข้างต้นของสองเจ้าหน้าที่ Fed ถือเป็นการส่งสัญญาณว่าภายใน Fed ได้เริ่มมีการหารือถึงวิธีการและเงื่อนเวลาในการผ่อนคลายปริมาณการซื้อคืนพันธบัตรของตน รวมถึงพูดคุยแลกเปลี่ยนในรายละเอียดของเป้าเงินเฟ้อภายใต้กรอบการทำงานใหม่ โดย ราฟาเอล บอสติก ประธาน Fed แอตแลนตา กล่าวว่าดัชนีการใช้จ่ายผู้บริโภคหลัก หรือ Core Personal Consumption Expenditures (Core PCE) ในช่วง 5 ปี ได้แตะถึงระดับ 2% มาตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมาแล้ว ดังนั้น ในช่วงไตรมาส 4 Fed น่าจะเริ่มพิจารณาขึ้นอัตราดอกเบี้ยก่อนที่จะประกาศปรับขึ้นอย่างจริงจังในช่วงต้นปี 2022

 

ทั้งนี้ กรอบการทำงานใหม่ของ Fed ที่ได้รับการเปิดเผยเมื่อที่แล้วระบุชัดว่า Fed เห็นชอบที่จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับใกล้ 0% ต่อไปจนกว่าที่ตลาดแรงงานจะฟื้นตัวได้ในอัตราสูงสุด และเป้าเงินเฟ้อเติบโตได้ที่ 2% อย่างยั่งยืน

 

ในส่วนของตลาดงาน ความเห็นของประธาน Fed แอตแลนตา สอดคล้องกับประธาน Fed บอสตัน อีริก โรเซนเกรน ที่แสดงความเห็นระหว่างให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าว AP เมื่อวันที่ 9 สิงหาคมว่า ตลาดแรงงานสหรัฐฯ ยังสามารถขยายตัวได้อีกมาก และถ้าสามารถเติบโตในอัตราที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน ก็มีความเป็นไปได้ที่ Fed จะหันกลับมาใช้นโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นในช่วงฤดูใบไม้ร่วงปีนี้  

 

ข้ามฟากมาที่มหาอำนาจทางเศรษฐกิจแห่งภูมิภาคเอเชีย ที่ธนาคารกลางจีน (PBOC) ได้ออกมายืนยันผ่านรายงานการปฏิบัติการนโยบายการเงินประจำไตรมาสของปีนี้ที่ระบุว่า ทางธนาคารกลางจีนจะมุ่งเน้นการรักษาความยืดหยุ่นของนโยบายการเงิน เพื่อรักษาสภาพคล่องให้อยู่ในระดับที่สมเหตุสมผล เนื่องจากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจยังมีปัจจัยเปราะบางเพราะปัญหาการระบาดของไวรัสโควิด ทำให้การฟื้นตัวทางเศรษฐกิจของจีนยังไม่สมดุลเท่ากันในหลายภาคส่วน

 

ทั้งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า มีความเป็นไปได้ที่ธนาคารกลางจีนจะปรับลดสัดส่วนอัตราทุนสำรอง หรือ Reserve Requirement Ratio (RRR) ของบรรดาธนาคารอีกครั้งในปีนี้ หลังจากที่มีคำสั่งตัดลด RRR ครั้งล่าสุดมีผลบังคับใช้ไปเมื่อวันที่ 15 กรกฎาคมที่ผ่านมา

 

นอกจากเป้าหมายอยู่ที่การรักษาสภาพคล่องทางการเงินในระบบเพื่อส่งเสริมการฟื้นตัวเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนแล้ว ทางธนาคารกลางจีนยังมุ่งเดินหน้าส่งเสริมสนับสนุนความแข็งแกร่งของการพัฒนาตลาดการเงินในประเทศที่จะปกป้องผลประโยชน์ของนักลงทุนมากขึ้น รวมถึงให้การสนับสนุนเทคโนโลยี นวัตกรรม กิจการขนาดเล็ก และภาคอุตสาหกรรมการผลิต  

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising