×

ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวก ขานรับกำไรภาคธุรกิจฟื้นตัวในไตรมาสแรก

23.04.2024
  • LOADING...
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ

บรรยากาศตลาดหุ้นวอลล์สตรีทของสหรัฐฯ เปิดตลาดต้อนรับสัปดาห์ใหม่ในช่วงปลายเดือนเมษายนด้วยความสดใส โดยมีการปรับตัวดีดขึ้นมาหลังจากเกิดแรงเทขายมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งได้อานิสงส์จากรายงานผลประกอบการภาคเอกชนที่ฟื้นตัวขึ้นมาได้ค่อนข้างดีเกินคาด ขณะที่บรรดานักลงทุนต่างตั้งความหวังว่าหุ้นในเทคโนโลยีจะสามารถตอบสนองความคาดหวังในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่เพิ่มมากขึ้น 

 

รายงานระบุว่า มีบริษัทประมาณ 180 แห่งใน S&P 500 ซึ่งคิดเป็นมูลค่าหลักทรัพย์ตามราคาตลาดมากกว่า 40% มีกำหนดเปิดเผยรายงานผลการดำเนินงานในรอบสัปดาห์นี้ โดย Bloomberg Intelligence ระบุว่า หุ้นในกลุ่ม ‘Magnificent Seven’ ถือเป็นหุ้นที่มีการจับตามองมากที่สุด ท่ามกลางการคาดการณ์ว่าหุ้นนางฟ้าทั้ง 7 นี้จะมีผลกำไรเพิ่มขึ้นเกือบ 40% จากปีที่แล้ว ขณะเดียวกัน บริษัทเอกชนอื่นๆ ก็มีแนวโน้มฟื้นตัวจากรายได้ที่เพิ่มเข้ามา กระนั้น ภาพรวมการลงทุนยังคงเต็มไปด้วยความระมัดระวัง เนื่องจากยังมีปัจจัยกดดันจากความขัดแย้งในเชิงภูมิรัฐศาสตร์ในปัจจุบัน บวกกับสัญญาณจากธนาคารกลางสหรัฐฯ หรือ Fed ที่ระบุว่าจะไม่เร่งรีบในการปรับลดอัตราดอกเบี้ย

 

Matt Maley แห่ง Miller Tabak + Co. กล่าวว่า “แค่เอาชนะประมาณการรายได้ที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้อย่างเป็นเอกฉันท์ไม่เพียงพอ นักลงทุนจะต้องดูคำแนะนำที่มากกว่านี้ หากจะต้องตัดสินว่าตลาดหุ้นวอลล์สตรีทกลับมาฟื้นตัวได้อีกครั้งแล้วหรือไม่”

 

ด้านนักกลยุทธ์ของบรรดาสถาบันการเงินชั้นนำในวอลล์สตรีทส่วนหนึ่ง ยังคงจับตารอดูว่าการฟื้นตัวของภาคเอกชนจะสามารถทำให้ตลาดโดยรวมมีแนวโน้มแข็งแกร่งมากน้อยเพียงใด แต่ Mislav Matejka หุ้นส่วนของ JPMorgan Chase & Co. ชี้ว่า แนวโน้มการฟื้นตัวทางบวกขณะนี้กำลังมีปัจจัยน่าเป็นห่วง จากอัตราเงินเฟ้อที่ร้อนแรง ค่าเงินดอลลาร์ที่แข็งค่าขึ้น และความตึงเครียดทางภูมิรัฐศาสตร์

 

นอกจากนี้ เกือบ 2 ใน 3 ของผู้ตอบแบบสอบถาม 409 รายในการสำรวจ Markets Live Pulse ของ Bloomberg กล่าวว่า ตนเองคาดหวังว่าผลประกอบการจะช่วยเสริมเกณฑ์มาตรฐานตราสารทุนของสหรัฐฯ นั่นคือการโหวตความเชื่อมั่นเพื่อผลกำไรสูงสุด (The Highest Vote of Confidence for Profits) นับตั้งแต่การสำรวจ

 

ทั้งนี้ ดัชนี S&P 500 ทะลุ 5,000 จุด เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา (22 เมษายน) ขณะที่ดัชนี Nasdaq 100 เพิ่มขึ้น 1% โดยได้อานิสงส์จากหุ้น NVIDIA ผู้นำในอุตสาหกรรมชิป เซมิคอนดักเตอร์ และ Apple 

 

วันเดียวกันมีรายงานว่า ราคาหุ้นของบริษัท Tesla บริษัทรถยนต์ไฟฟ้ารายใหญ่ของสหรัฐฯ ร่วงลงอย่างหนัก หลังบริษัทประกาศลดราคารถยนต์ในหลายประเทศ ท่ามกลางการทำสงครามราคากับคู่แข่งจากจีน โดยหุ้น Tesla ขณะนี้ปรับตัวลดลงติดต่อกันเป็นวันที่ 7 แล้ว ทำให้ราคาหุ้น Tesla แตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนมกราคม ปี 2023 

 

หุ้น Tesla ที่ลดลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 15 เดือนนี้ มีขึ้นก่อนที่บริษัทจะประกาศผลประกอบการประจำไตรมาสแรกในรอบสัปดาห์นี้ ท่ามกลางการคาดการณ์ของวอลล์สตรีทที่มองว่ารายได้ของ Tesla น่าจะปรับลดลง หลังบริษัทประกาศปรับลดราคาจำหน่ายรถยนต์ในสหรัฐฯ, จีน, ยุโรป, ตะวันออกกลาง และแอฟริกา เพื่อกระตุ้นยอดขายที่ลดลง

 

ขณะเดียวกัน รายงานระบุว่าราคาหุ้น Tesla ยังถูกกระทบจากการที่บริษัทเรียกคืน Cybertruck จำนวน 3,878 คันในสหรัฐฯ เนื่องจากมีปัญหาคันเร่งค้าง ซึ่งอาจเพิ่มความเสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ

 

ทั้งนี้ หุ้น Tesla เมื่อวันจันทร์ที่ 22 เมษายน ปรับตัวลดลง 3.4% ปิดตลาดที่ 142.05 ดอลลาร์สหรัฐต่อหุ้น ส่งผลให้นับตั้งแต่ต้นปีที่ผ่านมา หุ้นของ Tesla ปรับตัวลดลงไปแล้ว 43% กลายเป็นหุ้นที่มีผลงานแย่สุดเป็นอันดับที่สองในกลุ่ม S&P 500

 

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising