สำนักข่าว Reuters รายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ กำลังพิจารณาประกาศใช้มาตรการคว่ำบาตรเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีน 14 คน เพื่อลงโทษฐานมีส่วนเกี่ยวข้องกับการตัดสิทธิ์นักการเมืองฝ่ายค้านฮ่องกง 4 คนให้พ้นสภาพ ส.ส.
รายงานเอ็กซ์คลูซีฟนี้อ้างอิงข้อมูลจากแหล่งข่าว 3 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ที่ใกล้ชิดกับประเด็นนี้แต่ไม่ประสงค์ออกนาม โดยระบุว่าบุคคลที่จะถูกคว่ำบาตร อาทิ การอายัดทรัพย์สินและคว่ำบาตรทางการเงิน จะครอบคลุมทั้งเจ้าหน้าที่รัฐบาลจีนในฮ่องกงและจีนแผ่นดินใหญ่
แต่แหล่งข่าวทั้งสามไม่ได้เปิดเผยรายชื่อหรือตำแหน่งของบุคคลที่จะเผชิญการคว่ำบาตรระลอกใหม่ ระบุเพียงว่าการประกาศมาตรการอาจมีขึ้นเร็วสุดในวันนี้ (7 ธันวาคม) หรือล่าช้าไปจนถึงปลายสัปดาห์นี้
รัฐบาลภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ พยายามใช้ช่วงเวลาที่เหลืออยู่ในทำเนียบขาวอีกไม่กี่สัปดาห์ เพิ่มการกดดันรัฐบาลจีน ก่อนที่ โจ ไบเดน จะขึ้นสาบานตนรับตำแหน่งในวันที่ 20 มกราคมปีหน้า
อย่างไรก็ดี Reuters ได้ติดต่อกระทรวงการต่างประเทศและทำเนียบขาวเพื่อขอความชัดเจนในเรื่องนี้ แต่ยังไม่ได้รับคำตอบ
เมื่อเดือนที่แล้ว (พฤศจิกายน) รัฐบาลเขตปกครองพิเศษฮ่องกงที่หนุนโดยจีนแผ่นดินใหญ่ ได้ปลด ส.ส. ฝ่ายค้าน 4 คนออกจากสมาชิกภาพ หลังรัฐบาลจีนผ่านกฎหมายเพิ่มอำนาจให้ฮ่องกงควบคุมบุคคลที่มีแนวคิดเห็นต่างได้ ส่งผลให้นักการเมืองฝ่ายค้านที่สนับสนุนประชาธิปไตยรวมตัวกันลาออกจากการเป็น ส.ส. เป็นจำนวนมาก
ความเคลื่อนไหวนี้สร้างความวิตกในชาติตะวันตกไม่น้อย โดย ‘ห้าภาคีหน่วยข่าวกรอง’ ประกอบด้วย ออสเตรเลีย สหราชอาณาจักร แคนาดา นิวซีแลนด์ และสหรัฐฯ แถลงการณ์ร่วมกันว่าการกระทำของจีนเข้าข่ายการกวาดล้างแนวคิดที่เห็นต่าง และเรียกร้องให้จีนยกเลิกนโยบายนี้
โรเบิร์ต โอไบรอัน ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงทำเนียบขาว กล่าวเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า การถอนสมาชิกภาพ ส.ส. ฝ่ายค้าน แสดงให้เห็นว่า ‘หลักการหนึ่งประเทศสองระบบ’ ที่รับรองอำนาจปกครองตนเองของฮ่องกง นับแต่สหราชอาณาจักรมอบฮ่องกงคืนให้จีนเมื่อปี 1977 “เป็นเพียงใบปะหน้าเท่านั้น” พร้อมให้คำมั่นว่าสหรัฐฯ จะดำเนินการตอบโต้
เมื่อเดือนตุลาคม กระทรวงต่างประเทศสหรัฐฯ เตือนสถาบันการเงินระหว่างประเทศที่ทำธุรกิจกับบุคคลที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการกวาดล้างผู้ประท้วงและนักเคลื่อนไหวเรียกร้องประชาธิปไตยในฮ่องกงว่าอาจจะถูกคว่ำบาตรทางการเงินที่รุนแรงขึ้น
ปัจจุบันรัฐบาลสหรัฐฯ ได้ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับ แคร์รี ลัม ผู้บริหารสูงสุดฮ่องกง รวมถึงผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติคนเก่าและคนปัจจุบัน และเจ้าหน้าที่ระดับสูงอีกหลายคน โทษฐาน ‘บั่นทอนเสรีภาพและกวาดล้างการขับเคลื่อนประชาธิปไตยในฮ่องกง’
ไม่เพียงเท่านั้น เมื่อเดือนพฤศจิกายน กระทรวงต่างประเทศและกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ใช้มาตรการคว่ำบาตรกับเจ้าหน้าที่จีนเพิ่มเติมอีก 4 คน ทั้งในรัฐบาลและหน่วยงานด้านความมั่นคงของฮ่องกง โดยสั่งห้ามไม่ให้เดินทางเข้าสหรัฐฯ และอายัดทรัพย์สินของพวกเขาที่มีอยู่ในสหรัฐฯ
สำหรับรัฐบาลสหรัฐฯ ชุดใหม่ภายใต้การนำของ โจ ไบเดน ประเด็นเรื่องฮ่องกง ถือเป็นหนึ่งในความท้าทายที่สุดเพื่อต้านทานรัฐบาลจีน ท่ามกลางความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่อยู่ในจุดต่ำสุดในรอบหลายทศวรรษ จากข้อพิพาทมากมายทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และประเด็นสิทธิมนุษยชนที่เกิดขึ้นในช่วงปีหลังๆ ของรัฐบาลทรัมป์
ทั้งนี้ไบเดนให้คำมั่นว่าจะแข็งกร้าวกับจีนและประเทศอื่นๆ ให้มากกว่าสมัยของทรัมป์เสียอีก โดยเฉพาะต่อกรณีการละเมิดสิทธิมนุษยชน ดังนั้นจึงต้องจับตาว่าเมื่อสาบานตนรับตำแหน่งแล้วไบเดนจะตอบโต้การกวาดล้างนักการเมืองฝั่งประชาธิปไตยในฮ่องกงอย่างไร
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง: