×

จับตาแรงเหวี่ยงตลาดเงินโลกปีหน้า หลัง ‘Fed’ สวมบทเหยี่ยวเข้มนโยบายการเงิน ชู ‘หุ้นจีน’ ปีหน้าโดดเด่น

17.12.2021
  • LOADING...
Fed

ผลการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เมื่อคืนที่ผ่านมา (15 ธันวาคม) เป็นไปตามที่ตลาดเงินได้คาดการณ์เอาไว้ คือ Fed จะลดขนาดของมาตรการ QE เป็นเดือนละ 3 หมื่นดอลลาร์ พร้อมกับส่งสัญญาณว่าอาจปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายในปีหน้า 3 ครั้ง เพื่อสกัดเงินเฟ้อที่พุ่งขึ้นแรง

 

จิติพล พฤกษาเมธานันท์ นักกลยุทธ์การลงทุน บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุน (บลจ.) ยูโอบี กล่าวว่า แม้ตลาดเงินจะตอบรับข่าวดังกล่าวในเชิงบวกผ่านตลาดหุ้นทั่วโลกที่ปรับตัวขึ้นมา แต่เชื่อว่าหาก Fed ขึ้นดอกเบี้ย 3 ครั้งในปีหน้าจริง จะทำให้ตลาดหุ้นทั่วโลกปรับตัวลงแรงในปีหน้า 

 

“คิดว่าครั้งแรกที่ Fed ปรับขึ้นดอกเบี้ย ตลาดหุ้นทั่วโลก โดยเฉพาะสหรัฐฯ จะร่วงหนักทันที เพราะถ้าดูพื้นฐานของเศรษฐกิจแล้ว ระยะยาวแทบจะไม่เห็นการเติบโตเลย สะท้อนว่าการขึ้นดอกเบี้ยของ Fed เป็นเพียงการทำเพื่อดูแลเงินเฟ้อไม่ให้ขึ้นแรงเท่านั้น”

 

จิติพล กล่าวว่า ในแง่ของการลงทุนปีหน้า คงต้องเพิ่มความระมัดระวังในตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพราะอาจเห็นการปรับฐานลงมาแรงจากดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น โดยเฉพาะหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่ราคาหุ้นขึ้นไปค่อนข้างแรง แต่ผลดำเนินงานของหลายๆ บริษัทยังวิ่งตามไม่ทัน 

 

ส่วนตลาดที่น่าสนใจลงทุนในปีหน้า มองว่าหุ้นจีนมีโอกาสที่จะกลับมาโดดเด่นจากแนวโน้มเศรษฐกิจที่แม้การเติบโตชะลอลง แต่รัฐบาลจีนจะให้ความสำคัญกับด้านเสถียรภาพที่มากขึ้น ซึ่งส่งผลดีต่อหุ้นจีนด้วย ขณะเดียวกันปีหน้านักลงทุนจะให้ความสำคัญกับการลงทุนในธุรกิจที่เป็นพลังงานทางเลือกมากขึ้น ซึ่งหุ้นเหล่านี้มีเทรดอยู่ในตลาดจีนไม่น้อย เชื่อว่าจะเป็นกลุ่มที่นักลงทุนให้ความสนใจ

 

สำหรับตลาดหุ้นไทย ถือว่ามีความน่าสนใจพอประมาณ โดย บลจ.ยูโอบี ประเมินว่า ปีหน้าดัชนีหุ้นไทยมีโอกาสขึ้นไปแตะบริเวณ 1,700 จุด อีกทั้งบริษัทจดทะเบียนของไทยส่วนใหญ่อยู่ในกลุ่มที่น่าจะได้รับความสนใจในปีหน้าด้วย คือ หุ้นกลุ่มธนาคารพาณิชย์ และกลุ่มพลังงาน 

 

วิริยะชัย จิตตวัฒนรัตน์ รองผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน ไพรเวทเมเนจท์เม้นท์ ธนาคารกรุงไทย กล่าวว่า แม้ผลการประชุมของ Fed จะออกมาตามที่ตลาดคาด แต่การลงทุนในปีหน้าคงต้องเพิ่มความระมัดระวังในตลาดหุ้นที่มีอัตราส่วนราคาต่อกำไรต่อหุ้น (P/E) ที่ค่อนข้างสูง โดยเฉพาะตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่อย่างไรก็ตาม ธนาคารกรุงไทย ยังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในภาพรวมอยู่

 

“เรายังมีมุมมองเชิงบวกต่อตลาดหุ้นในภาพรวม แต่ก็ต้องระมัดระวังในตลาดที่มี P/E สูง มี Valuation ที่ค่อนข้างแพง เช่น ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เพียงแต่การลงทุนยังสามารถเลือกลงทุนเป็นรายกลุ่มหรือรายตัวได้อยู่”

 

วิริยะชัย กล่าวย้ำว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปีหน้ายังไปได้ แต่อาจต้องเลือกรายกลุ่ม เช่น กลุ่มธนาคารพาณิชย์ ซึ่งน่าจะได้อานิสงส์จากดอกเบี้ยที่เป็นขาขึ้น ทำให้มีรายได้จากส่วนต่างดอกเบี้ยเพิ่มมากขึ้นด้วย หรือกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่ ที่มีกำไรสม่ำเสมอ ส่วนหุ้นเทคโนโลยีขนาดเล็กอาจต้องระมัดระวัง โดยเฉพาะหุ้นที่มีค่า P/E สูงๆ

 

ส่วนตลาดหุ้นจีนในปีหน้า ถือว่ามีความน่าสนใจมาก เพราะตลาดหุ้นจีนในรอบปีที่ผ่านมาค่อนข้างปรับตัวขึ้นช้ากว่าตลาดอื่นๆ (Laggard) ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการจัดระเบียบภายในของรัฐบาลจีน ประกอบกับยังเผชิญปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ แต่ปีหน้าปัญหาเหล่านี้เริ่มคลี่คลายลง และความกังวลที่มีต่อตลาดอสังหาริมทรัพย์ในจีนก็เริ่มลดลงด้วย 

 


ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH

Twitter: twitter.com/standard_wealth

Instagram: instagram.com/thestandardwealth

Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising