×

ตำรวจรัฐสภาสหรัฐฯ เสียชีวิต 1 นาย จากเหตุคนขับรถพุ่งชนแนวกั้นเขต US Capitol

โดย THE STANDARD TEAM
03.04.2021
  • LOADING...
ตำรวจรัฐสภาสหรัฐ

เกิดเหตุคนขับรถยนต์พุ่งชนแผงกั้นรักษาความปลอดภัยที่บริเวณอาคารรัฐสภาของสหรัฐฯ หรือ US Capitol ในวอชิงตัน ดี.ซี. ส่งผลให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเสียชีวิตหนึ่งนาย และอีกหนึ่งนายได้รับบาดเจ็บ นับเป็นเหตุโจมตีร้ายแรงล่าสุดซึ่งเกิดขึ้นที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ หลังจากเหตุการณ์จลาจลสะเทือนขวัญชาวอเมริกันเมื่อเดือนมกราคมที่ผ่านมา

 

รายงานระบุว่า เมื่อเวลาประมาณ 13.00 น. ของวันศุกร์ที่ 2 เมษายน ตามเวลาท้องถิ่น ระบบแจ้งเตือนของตำรวจรัฐสภาได้ส่งอีเมลไปยังสมาชิกสภานิติบัญญัติและเจ้าหน้าที่ของสภา โดยสั่งให้ทุกคนอยู่ห่างจากประตูและหน้าต่าง เนื่องจากอาคารรัฐสภาถูกคุกคาม ส่วนคนที่อยู่ภายนอกอาคารถูกสั่งให้หาที่หลบภัย

 

ระบบได้ส่งข้อความเตือนดังกล่าวหลังเกิดเหตุชายคนหนึ่งขับรถยนต์สีน้ำเงินพุ่งเข้าใส่เจ้าหน้าที่ตำรวจ 2 นาย ซึ่งยืนประจำการอยู่ที่แนวกั้นทางทิศเหนือของอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ลงจากรถและวิ่งถือมีดเข้าใส่เจ้าหน้าที่ทั้งสอง ส่งผลให้ตำรวจ 1 ใน 2 ชักอาวุธปืนขึ้นมายิงใส่ ก่อนที่เจ้าหน้าที่ตำรวจทั้งสองนายจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาล 

 

โรเบิร์ต คอนที รักษาการผู้บัญชาการตำรวจนครบาลวอชิงตัน ดี.ซี. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวในระหว่างการแถลงข่าวว่า ผู้ก่อเหตุเสียชีวิตเมื่อเวลา 13.30 น. ตามเวลาท้องถิ่น โดยคาดว่าก่อเหตุเพียงลำพัง และเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่น่าจะเกี่ยวข้องกับการก่อการร้าย 

 

“ไม่ว่าการโจมตีจะเกิดขึ้นกับหน่วยงานใดหรือใครก็ตาม เรามีหน้าที่ที่จะต้องสืบหาสาเหตุ และเราจะทำเช่นนั้น” คอนทีกล่าว

 

ด้าน โยกานันดา พิตต์แมน รักษาการผู้บัญชาการตำรวจรัฐสภา กล่าวว่า “ฉันขอแจ้งให้ทราบด้วยหัวใจที่หนักอึ้งว่า เจ้าหน้าที่นายหนึ่งของเราเสียชีวิตเนื่องจากอาการบาดเจ็บ”

 

ในแถลงการณ์ต่อมา พิตต์แมนได้เผยว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจที่เสียชีวิตมีชื่อว่า วิลเลียม บิลลี อีแวนส์ ซึ่งอยู่ในสังกัดตำรวจรัฐสภามานาน 18 ปี 

 

แหล่งข่าวเปิดเผยกับ CBS News ว่า ผู้ก่อเหตุมีชื่อว่า โนอาห์ กรีน วัย 25 ปีจากรัฐอินดีแอนา ซึ่งจากการสืบสวนไม่พบข้อมูลเกี่ยวกับผู้ก่อเหตุรายนี้ในฐานข้อมูลของตำรวจมาก่อน

 

รายงานระบุว่า กรีนได้โพสต์ข้อความบน Facebook เมื่อช่วงกลางเดือนมีนาคม ระบุว่า เขาเพิ่งออกจากงานเมื่อไม่นานมานี้ “ส่วนหนึ่งเป็นเพราะความทุกข์จากโรคภัยไข้เจ็บ แต่ท้ายที่สุดคือเพื่อค้นหาการเดินทางทางจิตวิญญาณ” เขาเสริมว่า เขาต้องทนทุกข์ทรมานกับผลข้างเคียงของยาที่เขาเสพเข้าไปโดยไม่รู้ตัว และยังได้เขียนบรรยายเกี่ยวกับความสนใจของเขาที่มีต่อองค์กรศาสนา Nation of Islam  

 

อย่างไรก็ดี ตอนนี้ข้อความดังกล่าวถูกลบไปแล้ว โดยแถลงการณ์ของ Facebook ระบุว่า เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นนั้นเข้าข่ายนโยบายบุคคลและองค์กรที่เป็นอันตราย ซึ่งหมายความว่าบัญชี Facebook และ Instagram ของกรีนจะถูกลบออก รวมไปถึงเนื้อหาใดๆ ก็ตามที่ยกย่องคนร้าย

 

ทั้งนี้ เหตุการณ์โจมตีวานนี้นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงครั้งที่ 2 ในเวลาไม่ถึง 3 เดือนหลังจากที่เกิดเหตุการณ์จลาจลที่อาคารรัฐสภาสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 6 มกราคม โดยนับตั้งแต่เกิดเหตุโศกนาฏกรรมครั้งก่อน อาคารรัฐสภาได้กลายเป็นเหมือนป้อมปราการที่ล้อมไปด้วยลวดหนาม รั้วเหล็ก และการรักษาความปลอดภัยขั้นสูง 

 

เนื่องด้วยขณะนี้สภาคองเกรสไม่ได้อยู่ในสมัยการประชุม นักการเมืองส่วนใหญ่จึงไม่ได้อยู่ที่อาคารรัฐสภาในช่วงที่เกิดเหตุการณ์โจมตี โดยเจ้าหน้าที่ของรัฐสภาสหรัฐฯ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวของ BBC ว่า รู้สึกโชคดีที่อยู่บ้าน แต่ก็กังวลที่จะต้องกลับไปทำงานหลังจากวันหยุดอีสเตอร์ พร้อมกล่าวว่า เป็นเรื่องน่ากลัวที่สถานที่ทำงานของตนเองถูกโจมตีถึง 2 ครั้งในช่วงเวลาสั้นๆ เพราะแม้จะมีการรักษาความปลอดภัยเพิ่มขึ้น แต่เหตุการณ์ที่นำไปสู่การเสียชีวิตของเจ้าหน้าที่ก็ยังคงเกิดขึ้น

 

ประธานาธิบดี โจ ไบเดน ของสหรัฐฯ กล่าวว่ารู้สึก “ใจสลายที่ได้ทราบข่าวการโจมตีรุนแรง” พร้อมทั้งแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวของเจ้าหน้าที่อีแวนส์ และทุกคนที่เสียใจกับการสูญเสียของเขา และระบุว่า เขาได้สั่งลดธงครึ่งเสาที่ทำเนียบขาว

 

ด้าน แนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ กล่าวว่า “อเมริกาโศกเศร้า” และกล่าวว่า นายตำรวจอีแวนส์คือผู้พลีชีพเพื่อประชาธิปไตยของเรา

 

ขณะที่ ชัค ชูเมอร์ ผู้นำเสียงข้างมากในวุฒิสภาจากพรรคเดโมแครต ระบุว่า รู้สึกเสียใจอย่างมาก และรู้สึกเป็นหนี้บุญคุณตำรวจรัฐสภา 

 

เช่นเดียวกับ มิตช์ แมคคอนเนลล์ ผู้นำเสียงข้างน้อยในวุฒิสภาจากพรรครีพับลิกัน ที่ออกมาแสดงความเสียใจผ่านข้อความ พร้อมระบุว่า เขาขอสวดภาวนาให้แก่ทุกคนที่ถูกโจมตี

 

ภาพ: Amanda Andrade-Rhoades / For The Washington Post via Getty Images

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

อ้างอิง: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising