×

ทำไมวันหนึ่งผิวดี วันหนึ่งผิวดับ? มาทำความรู้จักวงจรผิวกัน

23.12.2019
  • LOADING...
วงจรผิว

HIGHLIGHTS

4 MINS. READ
  • วงจรผิวนั้นมีระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 28 วัน อาจน้อยหรือมากต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่รู้ไหมว่าในช่วง 28 วันนี้ก็ยังแบ่งออกเป็น 3 ช่วงย่อยๆ ที่ส่งผลให้ผิวมีสภาพชุ่มชื้น แห้ง มัน หรือเป็นสิวได้ต่างกันไปตามวาระ จึงเหมาะกับการดูแลที่ต่างกัน

เคยสงสัยกันไหม เหตุใดบางช่วงผิวเราก็สวยโกลวเป็นพิเศษ แต่บางช่วงก็มันมากหรือแห้งผากเหลือเกิน หรือไม่จู่ๆ สิวก็บุกในข้ามคืน ทำเอาตื่นมากลุ้ม ทั้งที่เราก็ดูแลผิวอย่างดีเหมือนเดิมทุกประการ บางคนก็ขอตอบว่าทำใจเถิด เพราะนี่คือการทำงานของรอบเดือน ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนตามประสาธรรมชาติของผู้หญิงเราที่มันช่างซับซ้อนกว่าของผู้ชาย ว่าแต่ลึกๆ แล้วฮอร์โมนเหล่านี้ส่งผลต่อผิวแต่ละช่วงอย่างไรบ้าง และควรเตรียมรับมืออย่างไร เราขอพาไปเจาะลึกกันถึงเรื่องของวงจรผิวแต่ละช่วงกัน

 

 

วงจรผิวและฮอร์โมนหลัก

วงจรผิวนั้นมีระยะเวลาเฉลี่ยประมาณ 28 วัน อาจน้อยหรือมากต่างกันไปในแต่ละบุคคล แต่รู้ไหมว่าในช่วง 28 วันนี้ก็ยังแบ่งออกเป็น 3 ช่วงย่อยๆ ที่ส่งผลให้ผิวมีสภาพชุ่มชื้น แห้ง มัน หรือเป็นสิวได้ต่างกันไปตามวาระ ดังนั้นแปลว่าหากเราดูแลผิวด้วยสกินแคร์หรือขั้นตอนเหมือนเดิมทุกวันก็มีโอกาสสูงที่สกินแคร์ไม่ได้ตอบโจทย์สภาพผิวช่วงนั้นๆ ซึ่งทางแก้ไขง่ายๆ ตามผู้เชี่ยวชาญแนะนำคือเริ่มจากทำความเข้าใจวงจรผิวแต่ละช่วง หมั่นสังเกตว่าผิวเราอยู่ในช่วงไหน และเลือกปรับใช้สกินแคร์ไปตามสภาพผิว 

 

“ข้อดีของการเรียนรู้วงจรผิวคือช่วยเตรียมให้ผิวทำงานได้สอดคล้องกับร่างกาย ส่งผลดีตรงที่จะช่วยลดแนวโน้มการเกิดสิว อาการระคายเคือง แห้ง มัน ตลอดจนเสริมให้ผิวซ่อมแซมตัวเองได้ดีขึ้นได้” ดร.เทอร์รี ลูง (Dr. Terry Loong) แพทย์ผิวหนังชั้นนำกล่าว 

 

นอกจากนี้การเข้าใจการทำงานพื้นฐานของฮอร์โมนสำคัญ 3 ชนิดก็ช่วยให้เข้าใจการทำงานของวงจรผิวแต่ละช่วงมากขึ้นด้วย “แต่ละวันเราจะรู้สึกอย่างไร สภาพหน้าตาสดใสไหม ก็ขึ้นอยู่กับฮอร์โมนหลัก 3 ตัวด้วยคือ เอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และเทสโทสเทอโรน ซึ่งทั้งสามทำงานประสานกันและมีระดับแตกต่างกันไปในแต่ละวันของรอบเดือน” ดร.รีเบกกา บูธ (Dr. Rebecca Booth) สูตินรีแพทย์ผู้เขียนหนังสือ The Venus Week: Discover the Powerful Secret of Your Cycle… At Any Age อธิบาย 

 

อ่านถึงตรงนี้ สรุปแล้วจะดูแลผิวอย่างไรดี ลองมาดูแนวทางตามหนังสือเล่มดังกล่าวที่เน้นการดูแลสุขภาพและความงามตามช่วงวงจรผิว 3 ช่วงกัน เพราะจะช่วยให้สาวๆ สวยเจิดราววีนัสได้ในทุกช่วงอย่างไม่ยากเกินกำลัง

 

 

Day 1-7: Menstruation, The Reset of the cycle

Hormones Hacks: เป็นช่วงประจำเดือนมา เริ่มนับตั้งแต่วันแรกที่มีประจำเดือน ด้วยระดับการทำงานของฮอร์โมนเอสโตรเจน โปรเจสเตอโรน และเทสโทสเทอโรนอยู่ในระดับต่ำพอๆ กัน ส่งผลให้ร่างกายรู้สึกเพลีย อัตราการเผาผลาญช้าลง บางคนจึงไม่สบาย ติดเชื้อง่ายในช่วงนี้ แต่พอเข้าวันที่ 3 ตั้งแต่ประจำเดือนมา ระดับฮอร์โมนเอสโตรเจนและเทสโทสเทอโรนจะค่อยๆ ไต่สูงขึ้น และส่งให้ภูมิต้านทานร่างกายดีขึ้น ทว่าในเรื่องของผิวนั้น ระดับเอสโตรเจนยังคงลดลง ส่งผลกระทบให้ร่างกายขาดน้ำง่าย และระดับการผลิตคอลลาเจน อิลาสติน และไฮยาลูโรนิกแอซิด ซึ่งเป็นสารหลักที่ทำให้ผิวดูชุ่มชื้นสดใสจะลดน้อยลงตามไปด้วยในช่วงนี้ จึงไม่น่าแปลกใจหากผิวจะดูหมองๆ แห้งๆ นอกจากนี้ผิวยังมีแนวโน้มเป็นสิวผดผื่นได้ง่ายด้วย

 

Skin Tips: เน้นทำความสะอาดผิวแบบล้างหน้า 2 ขั้นตอน แล้วเสริมความชุ่มชื้นให้ผิวเป็นพิเศษ เลือกมอยส์เจอไรเซอร์ที่เสริมการทำงานของคอลลาเจน หรือมอยส์เจอไรเซอร์ที่มีส่วนผสมของ Phytoestrogens ที่มีฮอร์โมนเอสโตรเจนตามธรรมชาติโดยสกัดจากพืชพวกเมล็ดถั่ว ที่สำคัญอย่าลืมดื่มน้ำมากๆ ลดชากาแฟที่มีกาเฟอีนลงสักหน่อย เพราะจะทำให้ผิวแห้งได้ง่าย ถ้างดน้ำตาลและแป้งได้จะดีมาก เพราะช่วงนี้จะไปกระตุ้นผิวให้เกิดสิวได้ง่าย

 

 

Skin Saver ตัวช่วยที่เหมาะสำหรับวงจรนี้

1. Skin Moisture Solution-Intense Rehydration Compound เซรั่มเติมความชุ่มชื้นให้ผิวผสมไฮยาลูโรนิกแอซิด (2,060 บาท) จาก Bobbi Brown

2. Nutritious Active-Tremella Hydra Fortifying Soufflé Crème มอยส์เจอไรเซอร์เนื้อเบาดุจน้ำ ผสาน Snow Mushroom ช่วยเติมน้ำให้ผิว และลดการระคายเคืองผิว (1,750 บาท) จาก Estée Lauder

 

 

Days 8-15: The Venus Week

Hormones Hacks: หลังประจำเดือนหมดไปจะเป็นช่วงไพรม์ไทม์เลยก็ว่าได้ ผิวจะดูสดใสและโกลวขึ้น เพราะระดับเอสโตรเจนและเทสโทสเทอโรนสูงขึ้น ระดับการเผาผลาญก็สูงตาม ระบบไหลเวียนเลือดทำงานดี ร่างกายรู้สึกมีพลัง และเนื่องจากช่วงปลายๆ ของวงจรจะเป็นช่วงไข่ตก หลายคนจึงรู้สึกมั่นใจและเซ็กซี่เป็นพิเศษ นับเป็นช่วงที่ออร่ามาสุดๆ ของเดือน 

 

Skin Tips: แม้วงจรธรรมชาติจะเอื้อให้ผิวดูสุขภาพดีอยู่แล้ว แต่ก็อย่าชะล่าใจหรือขี้เกียจขึ้นมา ให้หมั่นดูแลผิวโดยล้างทำความสะอาดทุกเช้าและก่อนนอน ทามอยส์เจอไรเซอร์และครีมกันแดดเพื่อช่วยรักษาสภาพผิวดีให้เนิ่นนานออกไป ที่สำคัญคือเนื่องจากเป็นช่วงที่ผิวดูดสารอาหารได้ดี จึงควรสครับผิวสัก 1-2 ครั้งต่อสัปดาห์เพื่อเคลียร์เดดเซลล์ จากนั้นเสริมทรีตเมนต์อย่างมาสก์เข้มข้นที่อัดแน่นด้วยสารให้ความชุ่มชื้นและแอนตี้ออกซิแดนต์เพื่อเตรียมเสบียงอาหารผิวสะสมไว้สำหรับวงจรถัดไป

 

 

Skin Saver ตัวช่วยที่เหมาะสำหรับวงจรนี้

3. Black Tea Firming Overnight Mask โอเวอร์ไนต์มาสก์เข้มข้นผสานชาดำหมัก ช่วยให้ความชุ่มชื้นยาวนานและปกป้องผิวจากอนุมูลอิสระ (1,410 บาท) จาก Fresh

4. Super Collagen Mask มาสก์เสริมความชุ่มชื้นผิว ผสานสารกระตุ้นคอลลาเจน (745 บาท) จาก Mario Badescu

 

 

Days 16- 18: The Minerva Phase

Hormones Hacks: เป็นช่วงหลังไข่ตก การทำงานของเอสโตรเจนกับเทสโทสเทอโรนจะลดต่ำลง ส่วนโปรเจสเทอโรนจะเข้ามาแทนที่ และด้วยเป็นฮอร์โมนเสริมในกรณีที่ร่างกายจะคาดคะเนไปว่าอาจมีการตั้งครรภ์ได้ ดังนั้นเราจะเหมือนเข้าโหมด Auto Sleep เพื่อเตรียมกกไข่ ทำให้รู้สึกเพลีย อยากพักผ่อนนอนหลับมากขึ้น และหิวเป็นพิเศษ หรือคุ้นๆ ว่าเป็นอาการที่สาวๆ มักรู้สึกช่วงประจำเดือนใกล้จะมาอีกแล้วนั่นเอง ขณะเดียวกันระดับการเผาผลาญจะช้าลง ส่งผลให้ร่างกายบวมอืดได้ง่าย เพราะระบบย่อยและระบบขับถ่ายทำงานติดขัดตามไปด้วย และแน่นอนว่าส่งผลให้ผิวดูบวม มีการสะสมของเสียใต้ผิว หม่นๆ หมองๆ กว่าเดิม และขับน้ำมันมากเกินไปด้วย

 

Skin Tips: แม้จะเป็นช่วงร่างกายเพลียก็ตาม แต่เคล็ดลับสำคัญที่ช่วยทั้งร่างกาย จิตใจ และผิวได้มากที่สุดช่วงนี้คือการออกกำลังกายเรียกเหงื่อสักหน่อย เลือกเป็นวิ่ง ปั่นจักรยาน โยคะโฟลว หรือว่ายน้ำ ที่ช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียน ขับถ่ายของเสีย บูสต์อารมณ์ให้แจ่มใสขึ้น และช่วยลดอาการบวมหรือของเสียคั่งค้างตามผิว ในส่วนของสกินแคร์ให้ใช้พื้นฐานตามปกติ แต่ต้องขจัดความมันและตั้งรับอาการสิวบุกในวงจรถัดไป โดยสามารถใช้สครับขัดผิว หรือเปลี่ยนจากโทนเนอร์ชุ่มชื้นมาเป็นโทนเนอร์ผสมแอซิดที่ช่วยผลัดผิว ทำความสะอาดรูขุมขนอย่างล้ำลึก รวมทั้งลดการสะสมของแบคทีเรีย นอกจากนี้แม้จะหิวโหยมาก แต่ควรพยายามเลี่ยงของหวาน อย่าสวาปามทุกอย่างที่ขวางหน้า

 

 

Skin Saver ตัวช่วยที่เหมาะสำหรับวงจรนี้

5. 8% Glycolic Solution Toner โทนเนอร์ผสาน Glycolic Acid 8% พร้อมด้วย Witch Hazel ที่ช่วยผลัดเซลล์ผิวเก่าอย่างอ่อนโยน (1,590 บาท) จาก Peter Thomas Roth

6. Glow Tonic To Go Exfoliating Toner Pads โทนเนอร์ในรูปแบบแผ่น ช่วยทำความสะอาดผิวล้ำลึกและขจัดเซลล์ผิวเก่า (710 บาท) จาก Pixi

 

ได้ข้อมูลตามข้างต้นแล้ว เดือนนี้อยากชวนสาวๆ มาลองกาปฏิทิน บันทึกไดอะรีผิวแต่ละช่วง แล้วปรับเปลี่ยนพฤติกรรมตลอดจนสกินแคร์ที่ใช้ให้เป็นไปตามวงจรผิวดูสักตั้ง เชื่อว่างานนี้มีแต่วันผิวดี ไม่มีดับแน่นอน

 

 

ภาพ: Shutterstock

พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising