รายงานของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติล่าสุดระบุว่า เกาหลีเหนือยังคงเดินทางพัฒนาและทดสอบโครงการอาวุธนิวเคลียร์ต่อไป ถือเป็นการท้าทายมาตรการคว่ำบาตรของสหประชาชาติอย่างชัดเจน
เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ได้รับรายงานว่า รัฐบาลเกาหลีเหนือได้จัดสร้างอาคารในไซต์งานของโครงการพัฒนานิวเคลียร์ใหม่ และมีความพยายามในการลักลอบขนส่งน้ำมันและขายอาวุธยุทโธปกรณ์ให้กับต่างประเทศ โดยเฉพาะประเทศลิเบีย เยเมน และซูดาน รวมถึงเคยมีรายได้จากการขายแร่เหล็กให้แก่จีน อินเดีย และชาติอื่นๆ อย่างต่อเนื่อง โดยมีรายได้มากกว่า 14 ล้านเหรียญสหรัฐ (ราว 465 ล้านบาท) ในช่วงเดือนตุลาคม ปี 2017 ถึงเดือนมีนาคม ปี 2018
แม้ว่าก่อนหน้านี้ คิมจองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือจะให้คำมั่นสัญญากับประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ ในการเดินหน้าเตรียมปลดอาวุธและยุติโครงการนิวเคลียร์ทั้งหมดแล้วก็ตาม ซึ่งผู้เชี่ยวชาญหลายฝ่ายมองว่าความพยายามในการลักลอบขายอาวุธนั้นเป็นไปเพื่อให้มาตรการคว่ำบาตรทางเศรษฐกิจของสหประชาชาติไร้ผล และเป็นช่องทางให้การเพิ่มเงินทุนที่จะนำไปพัฒนาโครงการอาวุธนิวเคลียร์
จนถึงขณะนี้รัฐบาลเกาหลีเหนือก็ยังไม่ออกมาแสดงท่าทีต่อรายงานฉบับนี้ของสหประชาชาติแต่อย่างใด
อ้างอิง: