วานนี้ (31 กรกฎาคม) รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มโจมตีเมืองมิโคลาอีฟ ซึ่งเป็นเมืองท่าที่อยู่ทางตอนใต้ของยูเครน ส่งผลให้ โอเลกซี วาดาตูร์สกี วัย 74 ปี มหาเศรษฐีผู้ส่งออกธัญพืชรายใหญ่ที่สุดของยูเครน และภรรยาของเขา เสียชีวิต ณ บ้านพักส่วนตัว
วาดาตูร์สกีเป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของบริษัทนิบูลอน ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ที่เมืองมิโคลาอีฟ โดยเป็นบริษัทยักษ์ใหญ่ที่เชี่ยวชาญด้านการผลิตและส่งออกข้าวสาลี ข้าวบาร์เลย์ และข้าวโพด อีกทั้งยังมีกองเรือและอู่ต่อเรือเป็นของตนเองด้วย โดยวาดาตูร์สกีเป็นหนึ่งในมหาเศรษฐีที่ร่ำรวยที่สุดของยูเครน ซึ่ง Forbes เคยประเมินเมื่อปี 2021 ว่าเขามีทรัพย์สินรวมมูลค่ากว่า 430 ล้านดอลลาร์สหรัฐ อีกทั้งยังเคยได้รับรางวัล ‘วีรบุรุษแห่งยูเครน’ ด้วย
ด้านประธานาธิบดี โวโลดิเมียร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน กล่าวว่า การเสียชีวิตของวาดาตูร์สกีเป็น ‘ความสูญเสียครั้งใหญ่สำหรับยูเครน’ เนื่องจากนักธุรกิจรายนี้เป็นผู้บุกเบิกการพัฒนาแวดวงเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมการต่อเรือ ซึ่งนำมาสู่ความเจริญรุ่งเรืองในภูมิภาค และเขากำลังอยู่ระหว่างการจัดตั้งตลาดธัญพืชยุคใหม่ ซึ่งเชื่อมโยงกับเครือข่ายท่าเรือถ่ายลำสินค้าและโรงเก็บเมล็ดพืชของยูเครน
ขณะเดียวกันที่ปรึกษาของเซเลนสกีระบุว่า เขาเชื่อว่ารัสเซียจงใจมุ่งเป้าโจมตีวาดาตูร์สกี เพราะหนึ่งในขีปนาวุธที่รัสเซียยิงมานั้นพุ่งเข้าใส่ห้องนอนของเขาพอดิบพอดี
นอกจากนี้เซเลนสกียังกล่าวด้วยว่า ยูเครนอาจสามารถเก็บเกี่ยวธัญพืชได้เพียงครึ่งหนึ่งจากระดับปกติในปีนี้ แต่ยูเครนจะยังพยายามแสวงหาหนทางในการส่งออกธัญพืชต่อไปเพื่อบรรเทาวิกฤตอาหารโลก ซึ่งเกิดขึ้นหลังจากที่รัสเซียตัดสินใจบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา ขณะทางการตุรกีคาดการณ์ว่า เรือส่งออกธัญพืชลำแรกของยูเครนจะสามารถออกเดินทางได้ในวันนี้
โอเล็กซานเดอร์ เซนเควิช นายกเทศมนตรีเมืองมิโคลาอีฟ เปิดเผยว่า รัสเซียได้ยิงขีปนาวุธถล่มเมืองมากกว่า 12 ลูก พร้อมระบุว่า การโจมตีวานนี้เป็นการโจมตีครั้งรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ที่รัสเซียส่งทหารเข้ามา ส่งผลให้บ้านเรือนและโรงเรียนได้รับความเสียหายหลายแห่ง ขณะที่มีประชาชนได้รับบาดเจ็บ 3 ราย
ภาพ: Reuters
อ้างอิง: