โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา ประกาศเดินหน้าเก็บภาษีนำเข้าอย่างเด็ดขาด แม้ทั่วโลกจะวิตกถึงผลกระทบทางเศรษฐกิจและตลาดหุ้นจะดิ่งหนัก โดยทรัมป์เน้นย้ำว่า การเก็บภาษีเป็น ‘ยาขมที่จำเป็น’ เพื่อฟื้นฟูเศรษฐกิจและดึงการลงทุน-การจ้างงานกลับคืนสู่สหรัฐฯ
ตลาดหุ้นทั่วโลกทรุดหนัก หลังประกาศมาตรการขึ้นภาษีนำเข้าระลอกใหม่ โดย JP Morgan คาดว่า มีโอกาส 60% ที่สหรัฐฯ และโลกจะเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย เพราะมาตรการภาษีทรัมป์ 2.0
ขณะที่ทรัมป์และทีมเศรษฐกิจสหรัฐฯ ปฏิเสธความเสี่ยงที่เศรษฐกิจจะถดถอย พร้อมระบุว่า มาตรการทางด้านภาษีช่วยสร้างอำนาจต่อรองให้กับสหรัฐฯ ซึ่งขณะนี้มีอย่างน้อย 50 ประเทศติดต่อมาขอเจรจาการค้าในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา โดยสหรัฐฯ จะยังคงเดินหน้ามาตรการภาษีตอบโต้ (Reciprocal Tariffs) ต่อบรรดาประเทศคู่ค้าที่สหรัฐฯ มองว่ามีการปฏิบัติที่ไม่เป็นธรรม ในวันที่ 9 เมษายนนี้
สก็อตต์ เบสเซนต์ รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ และ ฮาวเวิร์ด ลัตนิก รัฐมนตรีพาณิชย์ ออกมาปกป้องนโยบายการค้าที่มุ่งปกป้องอเมริกาของทรัมป์ พร้อมระบุว่า มาตรการทางด้านภาษีเหล่านี้คือความพยายามใน ‘การรีเซ็ต’ ระบบการค้าโลก โดยยืนยันว่าจะไม่มีการเลื่อนจัดเก็บภาษีนำเข้าแต่อย่างใด
ท่าทีของรัฐบาลทรัมป์ 2.0 ทำให้แรงกดดันทางการเมืองพุ่งสูงขึ้นอย่างมาก เริ่มมีผู้ชุมนุมประท้วงต่อต้านแนวทางการบริหารประเทศของทรัมป์ออกมาเคลื่อนไหวบนท้องถนน ขณะที่ เจอโรม พาวเวลล์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (Fed) เตือนว่า มาตรการทางภาษีเหล่านี้อาจทำให้เกิดภาวะเงินเฟ้อสูงขึ้นและการเติบโตชะลอตัว
ภาพ: Andrew Harnik / Getty Images
อ้างอิง: