อดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และ คามาลา แฮร์ริส สองผู้สมัครชิงประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา เดินหน้าช่วงชิงคะแนนเสียงช่วงโค้งสุดท้ายก่อนที่การเลือกตั้งจะเปิดฉากขึ้นในวันที่ 5 พฤศจิกายน ด้วยการเลือกลงพื้นที่ใน Battleground State หรือรัฐสมรภูมิ ที่ยังไม่แน่ชัดว่าใครจะคว้าชัยชนะ
โดยทรัมป์ขึ้นปราศรัยหาเสียงช่วง 3 วันที่ผ่านมาที่เมืองเพรสคอตต์แวลลีย์ รัฐแอริโซนา ต่อด้วยเมืองโอ๊กส์ รัฐเพนซิลเวเนีย และล่าสุดที่นครแอตแลนตา รัฐจอร์เจีย ท่ามกลางกลุ่มผู้สนับสนุนจำนวนมากที่ไปรอฟัง ซึ่งเขาเน้นย้ำประเด็นผู้อพยพ และการสนับสนุนอุตสาหกรรมขุดเจาะน้ำมันแบบ Fracking
การหาเสียงของทรัมป์มีขึ้นในขณะที่รัฐจอร์เจียมีการจัดการเลือกตั้งล่วงหน้า และมีผู้ออกไปใช้สิทธิมากเป็นประวัติการณ์กว่า 2.5 แสนคน ซึ่งมากกว่าปี 2020 ถึง 2 เท่า
ทางด้านแฮร์ริสก็เดินสายหาเสียงในหลายรัฐสมรภูมิช่วง 3 วันที่ผ่านมาเช่นกัน ทั้งที่เมืองกรีนวิลล์ รัฐนอร์ทแคโรไลนา และเมืองอีรี รัฐเพนซิลเวเนีย ก่อนจะเดินทางต่อไปยังเมืองดีทรอยต์ รัฐมิชิแกน โดยมีผู้สนับสนุนจำนวนมากไปร่วมให้กำลังใจ
ทั้งนี้แฮร์ริสยังได้ให้สัมภาษณ์ในรายการของสถานีวิทยุท้องถิ่น ท่ามกลางความพยายามเรียกคะแนนเสียงจากกลุ่มชาวผิวดำ โดยเธอปฏิเสธข้อกล่าวหาของทรัมป์ที่ระบุว่าเธอไม่สนใจผลประโยชน์ของชาวผิวดำ และชี้ว่านโยบายสนับสนุนการมีบ้านของเธอจะเป็นประโยชน์ต่อชาวผิวดำในการสร้างครอบครัว
อ้างอิง: