×

Tropic City ดื่มด่ำพักใจในบรรยากาศเขตร้อนกับค็อกเทลสไตล์ทรอปิคัล ณ บาร์น้องใหม่ย่านเจริญกรุง

05.04.2019
  • LOADING...
Tropic City

HIGHLIGHTS

  • อาคารขนาดเล็กกับผนังที่ถูกระบายด้วยลวดลายใบไม้และนกน้อยสีเขียวสดกับไฟนีออนสีชมพูที่ดูตัดกัน แต่ดูรวมๆ แล้วเข้ากันอย่างประหลาด บรรยากาศเข้ากั๊นเข้ากันกับค็อกเทลสไตล์ทรอปิคัลที่เน้นความสดใหม่ของผลไม้ ซึ่งทางร้านทำส่วนผสมเองแทบจะทุกอย่าง
  • ค็อกเทลหลายแก้วของที่นี่มีสับปะรดเป็นองค์ประกอบสำคัญ สามารถพบเจอได้ในแทบทุกดริงก์ แต่คนที่ไม่นิยมสับปะรด ไม่ต้องกังวลไป เพราะดริงก์ของที่นี่อร่อย ดื่มง่าย แม้แต่คนที่เกลียดสับปะรดเองก็ยังบอกว่าดื่มได้

     เมื่อสองหนุ่มจากสตอกโฮล์ม ประเทศสวีเดน เซบาสเตียน เดอ ลา ครูซ (Sebastian De La Cruz) และ ฟิลิป สเตฟาเนส (Philip Stefanescu) ตัดสินใจไล่ตามความฝัน เปิดค็อกเทลบาร์สไตล์เขตร้อนซึ่งเหมาะกับอากาศบ้านเราอย่างที่สุด จึงเป็นจุดเริ่มต้นของ Tropic City (ทรอปิก ซิตี้) บาร์น้องใหม่ในย่านเจริญกรุง ย่านเก่าที่กำลังกลับมาคึกคักมีชีวิตชีวาขึ้นอีกครั้ง โดยทั้งคู่หยิบจับเอาองค์ประกอบความเป็นทรอปิคัลจากทั่วทุกมุมโลกมายำรวมกัน พร้อมลดทอนความเยอะ ด้วยการสอดแทรกแนวการออกแบบสไตล์สแกนดิเนเวียอันแสนมินิมัลลงไป บาร์ขนาดกะทัดรัดแห่งนี้จึงดูโดดเด่นขัดกับห้องแถวโบราณที่อยู่ในละแวกเดียวกันเป็นที่สุด

 

 

The Vibe

     เมื่อเข้ามาในซอยเจริญกรุง 28 จะเจอกับ Oldtown Hostel ก่อนเป็นอย่างแรก จากนั้นก็จะพบกับบรรยากาศเก่าๆ วิถีการดำเนินชีวิตแบบตึกแถวโบราณที่หาดูที่ไหนไม่ได้นอกจากย่านเจริญกรุง ทางซ้ายมือของซอยมีบ้านเช่าหลังเล็กๆ ที่ประตูรั้วเปิดอ้าอยู่ เมื่อเดินผ่านประตูไม้ก็จะพบกับโลกอีกโลกหนึ่ง คือบาร์ค็อกเทลสายทรอปิคัลที่ถูกตกแต่งด้วยองค์ประกอบเขตร้อนเต็มไปหมด ไม่ว่าจะเป็นงานออกแบบสไตล์ชิโน-โปรตุกีส งานตกแต่งสไตล์โปลินีเชีย ฯลฯ ที่ถูกย้อมสีด้วยไฟสีส้มๆ ซึ่งทำให้บรรยากาศทั้งร้านช่างเย้ายวนทรงเสน่ห์ แต่ก็ส่องสว่างเป็นอย่างดี ต่อให้เมามายแค่ไหนก็สามารถเดินกลับบ้าน หรือเดินไปเข้าห้องน้ำได้อย่างรู้ทิศรู้ทาง

 

 

     ภายในบาร์แยกเป็น 2 ส่วนอย่างชัดเจน ได้แก่ พื้นที่สำหรับลูกค้าที่ชอบนั่งโต๊ะ กับพื้นที่สำหรับลูกค้าที่ชอบหน้าบาร์ ในส่วนที่นั่งมีโต๊ะถูกจัดให้มีพื้นที่ทางเดินอย่างชัดเจนเพื่อให้ลูกค้าเดินเหินได้อย่างสะดวก ส่วนหน้าบาร์นั้น เก้าอี้ที่นั่งอยู่สามารถปรับระดับเพื่อให้สอดรับกับส่วนสูงของลูกค้าแต่ละคน ซึ่งองค์ประกอบด้านอินทีเรียร์ดีไซน์เหล่านี้ล้วนผ่านการคิดมาแล้วอย่างถี่ถ้วน

 

Brother of a Slide

 

The Drinks

     ที่นี่วางแผนแจ้งเกิดตัวเองในฐานะทรอปิคัลบาร์อย่างชัดเจน และเราก็คิดว่าเขาทำได้สุดทางดี แน่นอนว่าค็อกเทลทุกตัวย่อมมีส่วนผสมของผลไม้เมืองร้อนอย่างแน่นอน ประเดิมดริงก์แรกด้วย Brother of a Slide (370 บาท) ซึ่งมีเบสเป็นเตกีลาที่นำไปอินฟิวส์กับพริกหวาน ซึ่งนำไปผัดเพื่อเอาน้ำมันออก เมื่อจิบดริงก์ได้รสชาติขมนิดๆ ของพริกเป็นพื้นหลัง แต่ไม่เผ็ดแสบร้อน ตัดรสเปรี้ยวหวานของส้ม สละ น้ำสับปะรดและน้ำเลมอน

     แก้วต่อมา Trippic Thunder (370 บาท) เป็นค็อกเทลอีกแก้วที่มีสับปะรดเป็นส่วนผสม ค็อกเทลตัวนี้นำเอาน้ำสับปะรดมาผสมกับน้ำขิง ทำให้ได้รสชาติและกลิ่นที่พิเศษขึ้นมาอีกระดับ นอกจากนี้เหล้าที่ใช้เป็นเบสคือรัม แต่หาใช่รัมธรรมดาไม่ หากเป็น ‘เจิร์ก รัม’ (Jerk Rum) ทำให้ได้รสชาติของเครื่องเทศ ตามด้วยน้ำเลมอน โซดาและบิตเตอร์

 

Trippic Thunder (ซ้าย) Pink Matter (ขวา)

 

     แก้วต่อมา หลบเลี่ยงดริงก์ที่มีส่วนผสมของสับปะรดกันบ้าง Pink Matter (370 บาท) เบสด้วยเตกีลา มีส่วนผสมได้แก่ พีช น้ำผึ้งหมัก ใบไทม์ น้ำเกรปฟรุต และน้ำเลมอน ซึ่งทำให้ค็อกเทลแก้วนี้มีรสชาติเปรี้ยวนำทว่าหอมหวนในตัว เพิ่มความซับซ้อนขึ้นมาอีกนิดด้วยบิตเตอร์ อีกทั้งเติมเท็กซ์เจอร์และความซู่ซ่าด้วยโซดา

     ดริงก์ทุกตัวที่กล่าวถึงมาทั้งหมดนี้ล้วนช่วยปลุกเร้าและสร้างความสดชื่นได้เป็นอย่างดี เหมาะสมกับความเป็นทรอปิคัลบาร์จริงๆ

 

 

Open: วันพุธ ถึง วันอาทิตย์ เวลา 18.00-24.00 น.

Address: ซอยเจริญกรุง 28 แขวงบางรัก เขตบางรัก กรุงเทพฯ 10500

Budget: 175-370 บาท

Contacts: 09 1870 9825

Map: 

FYI
  • การ Jerk (เจิร์ก) เป็นกรรมวิธีทางทำอาหารของจาเมกา การเจิร์กคือการนำเอาเครื่องเทศหมักมาถูกับเนื้อสัตว์หรือจะเอาเครื่องเทศแห้งมาถูก็ได้ แต่สำหรับการนำมาทำค็อกเทลจะเป็นการเอาเครื่องเทศมาหมักใส่ไว้ในสปิริต
  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising