×

ผอ.รร.เตรียมอุดมฯ พัฒนาการร้อง กมธ.ส.ว. เร่งคุ้มครองนักเรียน หลังเกิดกรณีหยก ชี้หากกลุ่มทะลุวังได้สิทธิผู้ปกครองมาสมัครใหม่ได้ แต่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ

โดย THE STANDARD TEAM
11.07.2023
  • LOADING...

วันนี้ (11 กรกฎาคม) ที่อาคารรัฐสภา สมชาย แสวงการ สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) ในฐานะประธานคณะกรรมาธิการสิทธิมนุษยชน สิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองผู้บริโภค วุฒิสภา รับหนังสือจาก จินตนา ศรีสารคาม ผู้อำนวยการโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ พร้อมด้วยตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ และตัวแทนคณะกรรมการสถานศึกษา เพื่อขอความคุ้มครองนักเรียนโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการเป็นการเร่งด่วน และช่วยเหลือเด็กในสภาวะเสี่ยง คือ ธนลภย์ (สงวนนามสกุล) หรือ หยก เยาวชนวัย 15 ปี นักเคลื่อนไหวทางการเมือง ผู้เคยถูกดำเนินคดีตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112

 

สืบเนื่องจากเหตุการณ์ที่ ธนลภย์ได้รับแจ้งว่าไม่มีสภาพการเป็นนักเรียนของโรงเรียนเตรียมอุดมศึกษาพัฒนาการ ทำให้มีกลุ่มบุคคลมาก่อความไม่สงบหน้าโรงเรียน ระหว่างวันที่ 14-19 มิถุนายน 2566 จึงมีความหวาดกลัวถึงความไม่ปลอดภัยในการมาโรงเรียนของนักเรียน 4,073 คน

 

อย่างไรก็ตาม กระบวนการของการมอบตัวที่ยังไม่แล้วเสร็จทางโรงเรียนเผยว่า เมื่อวันที่ 1 เมษายน 2566 สุภาพร (สงวนนามสกุล) มารดา และคุณน้า ที่เป็นผู้ปกครองของธนลภย์ ได้มาบันทึกขอผ่อนผันการมอบตัวของธนลภย์ เนื่องจากมีข้อกล่าวหาตามหมายเรียกของ สน.สำราญราษฎร์

 

จากนั้นวันที่ 19 พฤษภาคม 2566 ธนลภย์ได้เดินทางมาพร้อมกลุ่มทะลุวังที่อ้างตนเป็นผู้ปกครองเพื่อมอบตัว โรงเรียนจึงให้เข้าเรียนเพื่อรักษาสิทธิไว้ก่อน และได้แจ้งให้นำผู้ปกครองมามอบตัวภายในวันที่ 10 มิถุนายน 2566 ซึ่งเป็นวันสุดท้ายในการนำข้อมูลนักเรียนเข้าสู่ระบบ ในช่วงเวลาดังกล่าวโรงเรียนได้พยายามติดต่อผู้ปกครองจนสุดความสามารถ แต่ผู้ปกครองไม่มาดำเนินการ จึงทำให้ไม่มีฐานข้อมูลนักเรียนของธนลภย์ในระบบ

 

ทั้งนี้ โรงเรียนได้พยายามติดตามผู้ปกครองนักเรียนคือมารดาถึง 7 ครั้ง ที่บ้านซอยพัฒนาการ 65 แต่มารดาไม่ออกมาพบ จึงได้ไปพบบิดาที่บ้านหัวหนอง อำเภอเกษตรวิสัย จังหวัดร้อยเอ็ด แต่บิดาบอกปัดไม่รับผิดชอบ และขับไล่ไม่ให้ทางโรงเรียนกลับมาอีก

 

ผู้อำนวยการโรงเรียนยืนยันว่าหาก เนติพร เสน่ห์สังคม หรือ บุ้ง ทะลุวัง ซึ่งอ้างตัวเป็นผู้ปกครองของธนลภย์นั้นได้รับคำสั่งศาลยืนยันว่าเป็นผู้ปกครองตามกฎหมาย ก็สามารถสมัครเข้าเรียนในปีการศึกษาหน้าได้ แต่ต้องผ่านการสอบเข้าใหม่อีกครั้ง เพราะไม่มีสถานภาพนักเรียนในตอนนี้แล้ว และไม่มีสิทธิสอบในปีการศึกษานี้อีก แต่หากธนลภย์ได้สมัครเข้าเรียนอีกครั้งแล้วก็ต้องปฏิบัติตามกฎระเบียบของโรงเรียนในการแต่งกายและทรงผม

 

“เราไม่สามารถปฏิเสธกฎระเบียบได้ ทุกคนอยู่ใต้กฎระเบียบเดียวกัน นักเรียนไม่ได้มาแค่เรียนหนังสือ แต่ต้องเรียนรู้ถึงวิธีการอยู่ในสังคม แต่โรงเรียนไม่ปฏิเสธที่จะรับ ธนลภย์เข้าเรียน แต่เมื่อเข้ามาแล้วไม่ปฏิบัติตามกฎระเบียบ ผู้ปกครองจึงสำคัญที่จะต้องเข้ามารับรู้และพัฒนาเด็กไปพร้อมกัน” ผู้อำนวยการโรงเรียนกล่าว

 

จินตนายังเผยว่า เมื่อทางโรงเรียนพยายามชี้แจงเรื่องกฎระเบียบกับธนลภย์ก็จะได้คำตอบอยู่ไม่กี่แบบคือ ‘สิทธิเหนือเนื้อตัวร่างกาย’ และ ‘กฎระเบียบของโรงเรียนกับรัฐธรรมนูญอะไรใหญ่กว่ากัน’ และธนลภย์มักมีพฤติกรรมไม่รับฟังครูหรือผู้ปกครอง

 

ทั้งนี้ ตัวแทนเครือข่ายผู้ปกครองฯ ยืนยันว่าทุกฝ่ายไม่ได้รังเกียจธนลภย์ แต่ต้องยอมรับว่าธนลภย์ไม่ได้มีสถานะนักเรียนแล้ว และเป็นห่วงในอนาคตของธนลภย์ว่าจะเป็นอย่างไรหากยังอยู่กับกลุ่มคนที่ชี้นำความคิด

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising