Arcadia Group ซึ่งเป็นเจ้าของแบรนด์ค้าปลีกที่มีชื่อคุ้นหูเป็นอย่างดีทั้ง Topshop, Topman, Dorothy Perkins, Wallis, Miss Selfridge, Evans, Burton และ Outfit กลายเป็นบริษัทค้าปลีกยักษ์ใหญ่รายแรกของสหราชอาณาจักรที่ต้องยื่นล้มละลายและขอฟื้นฟูกิจการ อันเป็นผลมาจากวิกฤตโควิด-19
ในแถลงการณ์สั้นๆ ของ Arcadia Group ระบุว่าได้มีการแต่งตั้งให้ Deloitte เข้ามาดูแล โดยมีหน้าที่ประเมินตัวเลือกทั้งหมดที่มีให้ในอนาคต “เราจะค้นหาผู้ที่น่าสนใจอย่างรวดเร็ว และคาดว่าจะระบุผู้ซื้อหนึ่งรายขึ้นไปเพื่อรับประกันความสำเร็จในอนาคตของธุรกิจ”
Topshop ซึ่งครั้งหนึ่งเคยเป็นจุดหมายปลายทางของวัยรุ่นและคนรักแฟชั่น ได้รับการยกย่องจากนักวิเคราะห์ว่าเป็นสินทรัพย์ที่น่าสนใจที่สุดของ Arcadia
ภายใต้ Arcadia Group มีร้านค้าทั้งหมด 444 แห่งในสหราชอาณาจักร และ 22 แห่งในต่างประเทศ Deloitte ระบุว่าร้านค้าของ Arcadia จะยังคงเปิดทำการต่อไป โดยแพลตฟอร์มออนไลน์จะยังคงเปิดให้บริการและส่งมอบให้กับคู่ค้าที่ได้รับสัมปทานต่อไป
การยื่นดังกล่าวทำให้พนักงาน 13,000 คนตกอยู่ในความเสี่ยงทันที ซึ่งก่อนหน้านี้ทางบริษัทได้ชะลอหรืองดการจ่ายเงินเดือนให้กับพนักงานราว 9,294 คน อีกทั้งพนักงานนับหมื่นคนของ Arcadia ยังเผชิญกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการขาดดุลในกองทุนบำเหน็จบำนาญของบริษัท ซึ่งนักวิเคราะห์ประเมินไว้ที่ประมาณ 350 ล้านปอนด์
เอียน กราบิเนอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่มของ Arcadia ซึ่งทำหน้าที่บริหารมานานกว่าทศวรรษกล่าวว่า “เป็นวันที่น่าเศร้าอย่างเหลือเชื่อสำหรับเพื่อนร่วมงานทุกคน ตลอดจนซัพพลายเออร์และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ของเรา” พร้อมกับเสริมว่า “ผลกระทบจากการระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงการบังคับปิดร้านของเราเป็นเวลานานส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อการซื้อขายในทุกแบรนด์ของเรา
“ตลอดช่วงเวลาที่ท้าทายอย่างยิ่งนี้ เราให้ความสำคัญกับการปกป้องงานและรักษาเสถียรภาพทางการเงินของกลุ่ม ด้วยความหวังว่าเราจะสามารถกำจัดโรคระบาดและออกไปต่อสู้ในอีกด้านหนึ่ง แต่อย่างไรก็ตาม ในที่สุดเมื่อเผชิญกับสภาวะการซื้อขายที่ยากลำบากที่สุดเท่าที่เราเคยประสบมา เราพบว่าอุปสรรคที่เราพบนั้นรุนแรงเกินไป”
Arcadia ตกอยู่ในภาวะการเงินที่ยากลำบากก่อนที่จะเกิดการระบาด โดยสูญเสียส่วนแบ่งการตลาดให้กับคู่แข่ง เช่น Primark, Next และ H&M และช้าเกินไปที่จะลงทุนในอีคอมเมิร์ซ
กำไรก่อนหักภาษีลดลงจากจุดสูงสุดกว่า 300 ล้านปอนด์ในปี 2013 เหลือ 122 ล้านปอนด์ในปี 2019 พร้อมมีดอกเบี้ยเงินกู้ซึ่งคิดเป็นสัดส่วนมากกว่า 40% ของทั้งหมด อีกทั้งส่วนแบ่งในตลาดเสื้อผ้าและรองเท้าในสหราชอาณาจักรหดตัวลง 1 ใน 3 ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมาตามข้อมูลของ Euromonitor
แม้ปีที่แล้วเจ้าของพื้นที่เช่าจะตกลงลดค่าเช่าเพื่อทำให้สถานะทางการเงินมีพื้นที่หายใจมากขึ้น ซึ่ง Arcadia กล่าวในเวลานั้นว่าคาดว่าผลกำไรพื้นฐานจะฟื้นตัวเป็น 80 ล้านปอนด์ในปีนี้ถึงเดือนกันยายน 2020 แต่ที่สุดแล้วการลดค่าเช่าก็ไม่ได้ช่วย เพราะการระบาดใหญ่ได้สร้างแรงกดดันต่อผู้ค้าปลีกที่ยังคงพึ่งพาร้านค้าแบบดั้งเดิมสำหรับยอดขายส่วนใหญ่อยู่
พิสูจน์อักษร: ภาสิณี เพิ่มพันธุ์พงศ์
อ้างอิง: