การอ่อนค่าของเงินบาท ทำให้หลายคนกังวลว่าประเทศไทยจะเผชิญวิกฤตทางการเงินซ้ำรอยปี 2540 อย่างไรก็ตาม ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย ยืนยันว่า เสถียรภาพและสถานการณ์ไทยตอนนี้แข็งแกร่งขึ้นอย่างมาก เนื่องจากระดับหนี้สินต่างประเทศยังต่ำเมื่อเทียบกับเงินสำรองระหว่างประเทศ เงินทุนยังไหลเข้าสุทธิ และดุลบัญชีเดินสะพัดคาดว่าจะเกินดุลในปีหน้า
วันนี้ (29 กันยายน) ดร.เศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ระบุในงาน BOT Symposium 2022 ว่าไม่กังวลว่าการอ่อนค่าของเงินบาทจะทำให้เศรษฐกิจไทยเผชิญกับวิกฤตทางการเงินที่คล้ายคลึงกับปี 2540 เนื่องจากเสถียรภาพทางการเงินของไทยแข็งแกร่งกว่าในอดีตมาก
“ตอนบาทอ่อนเมื่อปี 2540 เรากังวลเรื่องหนี้ต่างประเทศ เนื่องจากขณะนั้นมีการกู้เงินจากต่างประเทศเยอะ โดยเมื่อกู้เงินดอลลาร์เยอะ พอบาทอ่อน ภาระหนี้จึงเพิ่มขึ้น แต่ตอนนี้ประเทศเรามีปัญหานี้น้อยมาก ดังนั้นโอกาสที่ประเทศไทยจะเผชิญกับวิกฤตที่ใกล้เคียงกับปี 2540 หรือวิกฤตเศรษฐกิจอย่างศรีลังกาจึงมีน้อยมาก ย้อนกลับไปเมื่อปี 2540 ทุนสำรองระหว่างประเทศของเราน้อยกว่าหนี้ต่างประเทศ ทำให้คนขาดความเชื่อมั่น เจ้าหนี้จึงต้องการเรียกหนี้คืน”
ทุนสำรองฯ สูงกว่าหนี้ต่างประเทศราว 3 เท่า
ทั้งนี้ ตามข้อมูลล่าสุดจากเว็บไซต์ ธปท.ระบุว่า ระดับหนี้สินต่างประเทศระยะสั้นของไทยอยู่ที่ 761 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาสที่ 1 ขณะที่เงินทุนสำรองระหว่างประเทศอยู่ที่ 238,385 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ข้อมูลถึงวันที่ 16 กันยายน)
การเคลื่อนไหวของเงินทุนยังไม่น่าห่วง
“เมื่อปี 2540 คนขาดความมั่นใจ ทำให้เงินไหลออกจากประเทศ ขณะที่ปัจจุบัน นับตั้งแต่ต้นปี (YTD) ประเทศไทยไม่ได้มีเงินไหลออก โดยสุทธิแล้วมีการไหลเข้ามาเกือบ 4 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ แม้มีการไหลออกบ้างบางเดือน โดยเดือนกันยายนนี้ มีเงินไหลออกประมาณ 700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งโดยรวมยังไม่ได้อยู่ในระดับที่น่ากังวล” ดร.เศรษฐพุฒิกล่าว
นอกจากนี้ การลงทุนในตลาดหลักทรัพย์ (Portfolio) มีการไหลเข้ามาประมาณ 4 พันล้านดอลลาร์ เมื่อคำนวณโดยสุทธิแล้วจึงมีเงินไหลออกไปประมาณ 1 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่เงินทุนสำรองฯ อยู่ที่ 2.4 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐ ยังไม่รวมการลงทุนโดยตรงจากต่างประเทศ (FDI) ที่เข้ามา 6.9 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ
ดุลบัญชีเดินสะพัดจ่อเกินดุลปีหน้า
ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยยอมรับว่า ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดปีนี้ แต่ไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจ เนื่องจากก่อนหน้านี้ประเทศไทยมีนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาในประเทศประมาณ 40 ล้านคนต่อปี แต่ปีนี้ คาดการณ์ว่าจะอยู่ที่เกือบ 10 ล้านคน (ราว 1 ใน 4) ทำให้ปีนี้ ประเทศไทยน่าจะขาดดุลประมาณ 1.4 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.8% ของ GDP ขณะที่ช่วงก่อนปี 2540 ไทยขาดดุลบัญชีเดินสะพัดถึงประมาณ 8%
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP