×

‘วัยไม่ใช่อุปสรรค’ ทอม เบรดี วัย 43 ปี พาทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส เข้าชิงซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 55 ได้อย่างไร

25.01.2021
  • LOADING...
‘วัยไม่ใช่อุปสรรค’ ทอม เบรดี วัย 43 ปี พาทีมแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส เข้าชิงซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 55 ได้อย่างไร

HIGHLIGHTS

5 mins. read
  • ทอม เบรดี พาแทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ทีมใหม่ของเขาในศึก NFL เข้าชิงซูเปอร์โบวล์ครั้งแรกนับตั้งแต่ปี 2002 
  • เบรดีย้ายออกจากทีมนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ครั้งแรกในรอบ 20 ปี และประสบความสำเร็จในฤดูกาลแรกกับทีมใหม่ในวัย 43 ปี 
  • ก่อนเริ่มต้นฤดูกาล เบรดีกล่าวถึงปัจจัยสำคัญของการเปลี่ยนองค์กรครั้งแรกในอาชีพว่า อยู่ที่การมีระเบียบวินัยในการใช้ชีวิตประจำวัน 
  • ให้ความสำคัญกับมุมมองและทัศนคติที่มีต่อตนเอง และใช้เวลาชั่งน้ำหนักและวิเคราะห์การตัดสินใจครั้งใหญ่ในชีวิตเสมอ 

“นี่เป็นประสบการณ์ใหม่สำหรับผมมาก” 

 

ทอม เบรดี ควอเตอร์แบ็กเจ้าของแหวนซูเปอร์โบวล์ 6 สมัย กล่าวผ่านรายการ Podcast กับปีเตอร์ คิง หนึ่งในผู้สื่อข่าวระดับตำนานของวงการอเมริกันเกม เมื่อเขาถูกถามถึงความรู้สึกหลังจากที่เขาย้ายมาเล่นนอกทีมนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ในรอบ 20 ปี และมาเริ่มต้นใหม่กับทีม แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ในวัย 43 ปี 

 

การเริ่มต้นใหม่ของเบรดีถูกตั้งคำถามอย่างหนัก โดยเฉพาะเรื่องของยุคสมัยที่ยิ่งใหญ่ของเขาที่มาคู่กับ บิล บิลิชิก ยอดโค้ชของนิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ ที่หลายคนมองว่าความสำเร็จของทีมเกิดขึ้นพร้อมกับบุคคลทั้งสอง 

 

แต่เวลาผ่านพ้นไป ข้อถกเถียงที่เปรียบเสมือนสภาวะฝุ่นตลบก็เริ่มจางลง และภาพที่ปรากฏชัดขึ้นคือเบรดีพาทีมใหม่ของเขาเข้าสู่การชิงแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้สำเร็จ รวมถึงการเป็นผ่านเข้าชิงซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 10 ในอาชีพของเขา

 

ก่อนที่การแข่งขันซูเปอร์โบวล์ครั้งที่ 55 ซึ่งเบรดีจะพบกับ แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ ในวันที่ 8 กุมภาพันธ์นี้ THE STANDARD ขอนำพาทุกท่านไปร่วมค้นหาว่า ชายวัย 43 ปี ที่เพิ่งย้ายที่ทำงานครั้งแรกในรอบ 20 กว่าปี และกลับมานำพาองค์กรใหม่ของเขาเข้าสู่เส้นทางความสำเร็จในระดับสูงสุดได้อย่างไร 

 

ทำในสิ่งที่ต้องทำ  

 

ทอม เบรดี

คำแนะนำนี้ แท้จริงแล้วเราได้ยินครั้งแรกจาก ณี-สุธิยา จิวเฉลิมมิตร เจ้าของแชมป์โลกยิงเป้าบิน และหนึ่งในตัวแทนทัพนักกีฬาทีมชาติไทยที่เตรียมเดินทางไปแข่งขันโอลิมปิกที่กรุงโตเกียวปี 2021 

 

ทำในสิ่งที่ต้องทำ เป็นคำตอบที่ตอกย้ำถึงความมั่นใจที่ตัวนักกีฬามีในแผนการเตรียมพร้อมและการฝึกซ้อมอย่างต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการบอกหลายๆ คนว่า การจะไปถึงเป้าหมาย เราหลายๆ คนอาจรู้อยู่แล้วว่าต้องทำอะไรบ้าง แต่ขึ้นอยู่กับเราว่าจะสามารถทำได้ตามที่ต้องการหรือไม่ 

 

“ในตอนนี้ที่คุณลงเล่นในวัย 43 ปีคุณรู้สึกอย่างไรบ้าง” ปีเตอร์สะท้อนความรู้สึกผ่านคำถามของแฟนกีฬาหลายคนที่สงสัยว่าชายวัยเกิน 40 ปี รู้สึกอย่างไรกับการลงสนามแข่งขันกีฬาที่ต้องใช้ความเร็ว ความแข็งแกร่ง และไหวพริบ ในการต่อสู้ทุกวินาที เพื่อความสำเร็จในสนาม 

 

“ผมรู้สึกดีนะ ผมคิดว่าเราฝึกซ้อมอย่างหนักช่วงปิดฤดูกาล ในวัยนี้แน่นอนมีความท้าทาย ผมจึงต้องใส่ใจรายละเอียดในการดูแลตัวเองเป็นอย่างมาก ไม่มีพื้นที่สำหรับความผิดพลาด 

 

การออกกำลังกาย ทำให้ผมรู้สึกต้องมีสติตลอดเวลา ผมต้องกินในสิ่งที่ถูกต้องตลอดเวลา ดื่มน้ำตลอด และรู้สึกว่าผมจะโดนร่างกายลงโทษหลังจากที่กินอาหารฟาสต์ฟู้ดทุกครั้ง แม้ว่าหลายครั้งคุณคิดว่านิดเดียวคงไม่เป็นไร แต่ทุกครั้งการกินอาหารไม่ดีมันจะมีผลกระทบที่ตามมาเสมอ สุดท้ายคือ ผมรู้มาตลอดว่าเป้าหมายของผมคืออะไร และขั้นตอนการดูแลรักษาร่างกายให้ดีขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

 

จนมาถึงจุดนี้ที่ผมมีประสบการณ์และความรู้มากพอ ที่จะก้าวออกไปสู่โลกฟุตบอลและทำหน้าที่ของผมเอง สุดท้ายผมก็ต้องทำงานอย่างหนัก เพราะอเมริกันฟุตบอลไม่มีเรื่องไหนง่าย โดยเฉพาะในวัย 40 ปี มันยากกว่าในวัย 30 ปีอย่างแน่นอน” 

 

ทัศนคติต่อตัวเองสำคัญที่สุด

 

Tom Brady

 

ตอนที่เบรดีมาร่วมทีมใหม่ นักวิเคราะห์หลาคนมองว่านี่เป็นทีมที่ไม่เหมาะกับเขาเนื่องจากเบรดีในวัย 43 ปี ไม่สามารถออกแรงปาบอลได้ไกล อย่างที่ทีมต้องการในขณะนี้ แต่แม้ว่าจะมีหลายคนตั้งคำถามกับอายุของเขา เบรดีกลับมองว่าสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ สิ่งที่เขามองเห็นในศักยภาพของตัวเอง 

 

“ผมคิดว่าทุกคนมีมุมมองที่แตกต่างกันไปในหลายๆ เรื่อง ผมเองคิดว่ามุมมองของผมเองต่อตัวผมเป็นมุมมองเดียวที่สำคัญที่สุด ผมคิดว่า สุดท้ายแล้ว คุณก็พิสูจน์ให้เห็นว่าพวกเขาผิด หรืออาจจะพิสูจน์ว่าพวกเขาคิดถูกแล้วก็ได้ 

 

สำหรับผมแล้ว ผมได้รับโอกาสที่จะออกไปเล่น ผมจะทำให้ดีที่สุด ทำเหมือนทุกครั้งที่ผมทำตลอด 

 

แค่ต้องออกไปทำ อเมริกันฟุตบอลไม่มีอะไรที่เป็นของคุณตั้งแต่แรก คุณต้องออกไปสู้จนกว่าจะได้ ดังนั้นไม่ว่าคุณพูดอะไร หรือใครก็ตามจะมีความคิดเห็นอย่างไร มันไม่สำคัญเลย เพราะมันอยู่ที่คุณที่จะออกไปพิสูจน์ตัวเอง ผมไม่ค่อยใส่ใจกับสิ่งที่หลายๆ คนคิด 

 

แน่นอนผมมีความมั่นใจและเชื่อมั่นในตัวเองมาก แต่ผมเองก็ต้องออกไปพิสูจน์ให้ตัวเองเห็นเช่นเดียวกัน ผมคิดว่านี่คือแรงบันดาลใจที่ผลักดันผมในทุกๆ วัน ว่าผมไม่สนใจว่าเกิดอะไรขึ้นเมื่อวานหรือวันก่อน แต่วันนี้แหละสำคัญที่สุด และนั่นคือสิ่งที่คุณต้องลงทุนทั้งเวลาและพลังงานให้ได้มากที่สุด” 

 

การตัดสินใจเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่ 

 

ในวัย 43 ปี เบรดีมีโอกาสเพียงครั้งเดียวเท่านั้น หากเขาเลือกที่จะเปลี่ยนองค์กรในอุตสาหกรรมที่มีเวลาให้นักกีฬาลงแข่งขันได้เพียงช่วงเวลาหนึ่งเท่านั้น แต่สาเหตุหลักที่เบรดีตัดสินใจย้ายออกจากพื้นที่ๆ เขาคุ้นเคย ออกมาสู้ความท้ายทายครั้งใหม่ด้วยอายุที่มากกว่า 40 ปี ก็คือโอกาสที่ยิ่งใหญ่  

 

“ผมคิดหนักนะ ตอนตัดสินใจ ผมคิดว่าที่ผ่านมาผมใช้เวลาคิดอย่างหนักในสิ่งที่ผมให้ความสำคัญ ผมเคยลิสต์ไว้มีประมาณ 20 สิ่งได้ ผมก็มาจัดอันดับต่อว่าสิ่งใดสำคัญที่สุด 

 

สุดท้ายแล้ว จากการชั่งน้ำหนักต่างๆ ผมก็มองว่า แทมป้าเป็นโอกาสที่ดี 

 

ผมคิดว่าใครก็ตามที่จะตัดสินใจครั้งใหญ่ คุณต้องลองชั่งน้ำหนักโอกาสที่มีในแต่ละทางเลือก 

 

ผมใช้เวลา 20 ปี และผมแยกทางกับพวกเขาด้วยมิตรภาพที่ดีต่อกัน ผมมีความเคารพต่อทุกคนที่องค์กรนั้น ตั้งแต่ โรเบิร์ต คราฟ์ เจ้าของทีม โค้ชบิลิชิก และนักกีฬาทุกคนที่มีความหมายต่อชีวิตของผมมาก เพื่อนสนิทแต่ละคนที่จะเป็นเพื่อนกันต่อไป

 

“แต่ผมตัดสินใจที่จะลองทำอะไรที่แตกต่างออกไป มันเป็นการตัดสินใจที่ผ่านการคิดวิเคราะห์มาแล้ว ไม่ใช่การตัดสินใจอย่างรวดเร็ว บางคนที่ผมพูดคุยและปรึกษาด้วย ก็คิดว่าการตัดสินใจแบบนี้เป็นสิ่งที่ดีสำหรับผม 

 

ผมเองก็ตื่นเต้นกับโอกาสในฐานะนักกีฬา และการไปสู่องค์กรที่ทุ่มเทเพื่อชัยชนะและมีนักกีฬาที่มีความมุ่งมั่น ตั้งแต่ที่ผมมาถึง พวกเขาก็ให้การต้อนรับผม และให้โอกาสผมเป็นผู้นำของทีม นั่นถือเป็นความรับผิดชอบที่ยิ่งใหญ่สำหรับผม และผมก็อยากที่จะออกไปทำผลงานที่ดี 

 

“อีกครั้งผมต้องบอกก่อนว่า การพูดกับการทำเป็นคนละเรื่องกัน และผมโฟกัสที่ทำมากกว่าพูด ทุกคนคาดการณ์ได้หมด แต่สำหรับผม ทุกอย่างขึ้นอยู่กับขั้นตอน และพัฒนาการในแต่ละขั้นตอน เพื่อให้คุณมีโอกาสในสนาม และในจังหวะที่สำคัญมากขึ้น

 

ความสม่ำเสมอคือสิ่งที่สำคัญที่สุดใน NFL” 

 

นี่คือส่วนหนึ่งของบทสนทนาของเบรดี ถึงวิธีคิดและหลักการทำงานของเขา ในวันที่เขาต้องเปลี่ยนองค์กรครั้งแรกในรอบ 20 ปี หลังจากนั้นฤดูกาลแรกกับทีมบัคคาเนียร์ส เบรดีได้เข้ามาเติมเต็มสิ่งที่ทีมขาดหายไป นั่นคือผู้นำ และควอเตอร์แบ็กที่ทีมต้องการ 

 

ในวัย 43 ปี นักกีฬา NFL หลายคน เริ่มต้นที่จะหันไปเล่นกอล์ฟ หรือเริ่มต้นใช้เวลากับครอบครัว หรือเริ่มต้นเส้นทางธุรกิจ สำหรับช่วงเวลาหลังยุติเส้นทางอาชีพนักกีฬา แต่สำหรับเบรดี เขายังคงยึดมั่นในเป้าหมายการทำในสิ่งที่เขารักให้ได้นานที่สุดเท่าที่เขาจะทำได้ 

 

นอกจากนี้ การตัดสินใจของเขาเมื่อเดือนมีนาคม 2020 เป็นการตัดสินใจย้ายจากองค์กรที่ประสบความสำเร็จมากที่สุดองค์กรหนึ่งใน NFL สู่ทีมที่ประสบความสำเร็จน้อยที่สุดทีมหนึ่งในยุคสมัยใหม่ของ NFL 

 

แทมปา เบย์ บัคคาเนียร์ส ไม่สามารถผ่านเข้าชิงซูเปอร์โบวล์มาเป็นเวลานานกว่าสิบปี นับตั้งแต่พวกเขาคว้าแชมป์ได้ในปี 2002 รวมถึงจบอันดับสุดท้ายในฤดูกาลปกติของสาย NFC ตลอด 7 จาก 9 ฤดูกาลที่ผ่านมา 

 

แต่เมื่อเบรดีมาถึง เขาได้แปลงสถิติฤดูกาลปกติ จากชนะ 7 แพ้ 9 ในปี 2019 มาสู่ ชนะ 11 แพ้ 5 ในปี 2020 เขานำพาทีมเก็บชัยชนะในรอบเพลย์ออฟ 3 เกมรวด ซึ่งเป็นชัยชนะเหนือแชมป์ดิวิชันทั้งหมด 

 

รวมถึงยังเป็นการเอาชนะ 2 ยอดควอเตอร์แบ็กประจำสาย NFC ทั้ง ดรูว์ บรีส์ จากนิวออร์ลีนส์ เซนต์ส และ แอรอน โรเจอร์ส จาก กรีนเบย์ แพ็คเกอร์ส ในเพลย์ออฟฤดูกาลเดียวกัน ซึ่งทำให้เบรดีมีแชมป์สาย NFC หนึ่งสมัยเท่ากับทั้ง 2 คน จากการลงเล่นเพียงฤดูกาลเดียว 

 

และยังเป็นการปลดล็อกอาถรรพณ์เจ้าบ้าน ด้วยการพาทีมบัคคาเนียร์ส ทีมเจ้าบ้านของเรย์มอนด์ เจมส์ สเตเดียม สังเวียนศึกซูเปอร์โบวล์ ครั้งที่ 55 เข้าชิงได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ของการแข่งขัน 

 

เบรดีได้กล่าวถึงการเปลี่ยนแปลงทั้งหมดนี้ภายในทีมบัคคาเนียร์สว่า 

 

“คงเป็นเรื่องยากที่เราจะเห็นภาพเป้าหมายนี้ แต่ในขณะเดียวกัน มันเป็นเกมสัปดาห์ต่อสัปดาห์ในลีกนี้ ก่อนหน้านี้สถิติของเราอยู่ที่ 7-5 เกม และ เริ่มที่จะรู้สึกไม่มั่นใจ เรารู้สึกเหมือนว่าเราต้องหาจังหวะของเราให้เจอ และเราเล่นเกมที่ยอดเยี่ยมได้ 4 เกมก่อนจบฤดูกาลปกติ หลังจากนั้นก็เป็นโบนัส เราแค่ต้องออกไปเล่นให้ดี” 

 

แต่ผู้ท้าชิงในครั้งนี้ของเบรดีถือเป็นการตัดสินของยุคสมัยอีกครั้ง เมื่อควอเตอร์แบ็กอย่าง แพทริก มาโฮมส์ ได้นำพา แคนซัส ซิตี้ ชีฟส์ กลับเข้ามาป้องกันแชมป์ซูเปอร์โบวล์ได้สำเร็จ ด้วยการเอาชนะ บัฟฟาโลว์ บิลล์ ในศึกชิงแชมป์สาย AFC 

 

และหากมาโฮมส์พาทีมป้องกันแชมป์ได้ จะเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่นิวอิงแลนด์ แพทริออตส์ของเบรดีทำได้สำเร็จไว้เมื่อปี 2004 และ 2005 ซูเปอร์โบวล์ครั้งนี้จึงเป็นจุดตัดของประวัติศาสตร์ครั้งสำคัญอีกครั้งของกีฬาอเมริกันฟุตบอล 

 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising