×

พิธา แนะรัฐบาลรับมือโควิดระลอกที่ 5 ต้องขยับเรื่อง ‘วัคซีนเด็ก’ แต่อย่าใช้การรับวัคซีนเป็นเงื่อนไขกีดกันการเรียนรู้

โดย THE STANDARD TEAM
08.01.2022
  • LOADING...
พิธา ลิ้มเจริญรัตน์

วันนี้ (8 มกราคม) พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แสดงความเห็นผ่านเฟซบุ๊กแฟนเพจส่วนตัว ถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์โอมิครอน ที่ในปัจจุบันประเทศไทยกำลังเข้าสู่การระบาดในระลอกที่ 5 โดยมีผู้ติดเชื้อในวันนี้สูงสุดถึง 7,526 ราย และรัฐบาลได้ประกาศยกระดับมาตรการการป้องกันทางด้านสาธารณสุขเป็นระดับที่ 4 นั้น 

 

พิธากล่าวว่า ในเวลานี้พี่น้องประชาชนหลายท่านอาจจะยังมีคำถามในใจมากมายและต้องการความกระจ่างเกี่ยวกับโอมิครอน ว่าเราจะดูแลตัวเราเองและคนที่เรารักให้ปลอดภัยได้อย่างไร ในมุมหนึ่งการแพร่ระบาดของโอมิครอนที่รวดเร็วที่สุดตั้งแต่โควิดเริ่มระบาดก็เป็นเรื่องที่น่ากังวล ในอีกมุมหนึ่งอาการเจ็บป่วยและอัตราการเข้าโรงพยาบาลที่น้อยลงก็เป็นสัญญาณให้ลดทอนความกังวลลงไปได้บ้าง

 

“ในเวลานี้ นี่คือสิ่งที่เรารู้ จากรายงานของ UK Health Security Agency โอมิครอนนั้นแพร่กระจายได้เร็วกว่าเดลตามาก โดยสามารถแพร่กระจายในครัวเรือนได้เร็วกว่าเดลตา 2-3 เท่า ในขณะเดียวกันโอมิครอนก็มีความรุนแรงน้อยกว่าเดลตา โดยที่คนติดโอมิครอนมีโอกาสเข้าโรงพยาบาลน้อยกว่าคนติดเดลตา 2 เท่าเช่นกัน โดยจากข้อมูลชุดนี้เราสามารถอนุมานได้ว่าการระบาดของโอมิครอนจะถล่มเข้าใส่ระบบสาธารณสุขของไทยได้รุนแรงมากกว่าหรือเท่ากับเดลตา” 

 

พิธากล่าวอีกว่า ตัวอย่างการระบาดของโอมิครอนในต่างประเทศได้แสดงให้เห็นแล้วว่าจะมีเด็กๆ ต้องเข้าโรงพยาบาลจากโอมิครอนมากกว่าที่เคยเกิดขึ้นในช่วงการระบาดของโควิดระลอกผ่านๆ มา สำหรับในเรื่องนี้ The New York Times ได้สัมภาษณ์ผู้เชี่ยวชาญจากโรงพยาบาลเด็กมลรัฐฟิลาเดลเฟีย ซึ่งได้อธิบายว่าความร้ายแรงของโอมิครอนต่อเด็กๆ ไม่ได้มากขึ้น แต่โรคระบาดเร็วขึ้นในภาพรวม และเด็กๆ ส่วนใหญ่ยังไม่ได้ฉีดวัคซีน 

 

“รัฐบาลต้องใช้สมมุติฐานว่าระบบสาธารณสุขจะเผชิญวิกฤตถาโถมเข้ามาในระดับเดียวกับช่วงการระบาดช่วงกลางปีที่ผ่านมา และต้องเตรียมระบบสาธารณสุขให้พร้อมเพื่อไม่ให้ต้องมีคนไทยตายข้างถนนหรือตายคาบ้านอีก รัฐบาลมีบทเรียนจากการระบาดที่ผ่านมาระลอกที่แล้วในหลายเรื่อง ตั้งแต่เตียงไม่พอ รถพยาบาลไม่พอ คอลเซ็นเตอร์ไม่พอ ไปจนถึงการเบิกจ่ายงบประมาณซื้ออุปกรณ์การแพทย์ที่ใช้เวลาหลายเดือน จนโรงพยาบาลรัฐต้องขอรับบริจาค ปัญหาในการบริหารการส่งคนไข้ข้ามสังกัดหน่วยงานรัฐ และปัญหาการสั่งให้ท้องถิ่นตั้ง Community Isolation ขึ้นมาโดยที่ไม่มีงบประมาณรองรับ” พิธาระบุ 

 

พิธายังทิ้งท้ายว่า ในเรื่องของการระบาดในเด็ก หวังเป็นอย่างยิ่งว่าการลงทะเบียนฉีดวัคซีนเด็ก 5-11 ปีที่กำลังดำเนินการอยู่ และ Vaccine Roll-out ที่จะเกิดขึ้นในเดือนกุมภาพันธ์จะดำเนินการอย่างรวดเร็วและเป็นระบบเพื่อความปลอดภัยของคนที่เรารัก 

 

อย่างไรก็ตาม ในการใช้มาตรการต่างๆ จะต้องกำชับและระมัดระวังให้ดีว่าการฉีดวัคซีนจะต้องไม่ถูกใช้เป็นเงื่อนไขในการกีดกันการเข้าถึงการเรียนรู้ของเด็กในโรงเรียนหรือเป็นมาตรการบังคับ แต่ควรเป็นเรื่องของการเน้นสร้างความเข้าใจ สมัครใจ และสามารถให้คำตอบแก่ผู้ปกครองและเด็กๆ ได้ในเรื่องความปลอดภัยหรือข้อสงสัยอื่นๆ ที่สร้างความกังวลแก่พวกเขา

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising