กลายเป็นประเด็นร้อนต่อเนื่องสำหรับแอปพลิเคชันสร้างวิดีโอขนาดเล็กยอดนิยมจากจีน ‘TikTok’ หลังตัดสินใจแบนแอ็กเคานต์ผู้ใช้งานวัยรุ่นชาวสหรัฐฯ วัย 17 ปี ที่โพสต์คลิปวิจารณ์จีนกับการปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ กลุ่มชาติพันธุ์มุสลิม จนวิดีโอดังกล่าวกลายเป็นกระแสไวรัลวิพากษ์วิจารณ์อย่างแพร่หลายในวงกว้าง
กรณีดังกล่าวเกิดขึ้นกับ เฟโรซา อาซิส (Feroza Aziz) วัยรุ่นชาวสหรัฐฯ วัย 17 ปี ผู้นับถือศาสนาอิสลาม เจ้าของแอ็กเคานต์ @getmefamousplzsir โดยเธอได้โพสต์วิดีโอวิจารณ์การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ที่ไม่เป็นธรรมของสาธารณรัฐประชาชนจีนจำนวน 3 ตอนเมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน ซึ่งมีจำนวนการรับชมมากถึง 1.5 ล้านครั้ง ก่อนที่เช้าวันรุ่งขึ้น เธอจะพบว่าแอ็กเคานต์ของตัวเองถูกแบนโดยไม่ทราบสาเหตุ
ล่าสุด TikTok สหรัฐฯ ได้ออกแถลงการณ์ถึงกรณีที่เกิดขึ้นแล้ว โดยให้เหตุผลว่าสาเหตุที่แอ็กเคานต์ของอาซิสถูกแบน ไม่ใช่เพราะเธอโพสต์วิดีโอวิจารณ์จีน แต่มาจากกรณีที่เธอโพสต์วิดีโอที่มีภาพของ อุซามะห์ บิน ลาดิน ซึ่งละเมิดกับข้อปฏิบัติและนโยบายการให้บริการของ TikTok ที่ห้ามไม่ให้โพสต์ภาพหรือภาพเคลื่อนไหวใดๆ ที่ปรากฏใบหน้าของผู้ก่อการร้าย
แม้ TikTok จะทราบดีว่าวิดีโอดังกล่าวเป็นแค่การเสียดสีและจิกกัดเท่านั้น แต่เนื่องจากข้อกำหนดการให้บริการที่เข้มงวด พวกเขาจึงตัดสินใจแบนแอ็กเคานต์ดังกล่าว และอุปกรณ์ที่เข้าใช้งานในที่สุด
ซึ่งนโยบายของ TikTok จะครอบคลุมการจำกัดและการแบนเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับ 3 ประเด็นหลัก ประกอบด้วย การก่อการร้าย การแสวงหาประโยชน์จากเด็ก และคอนเทนต์จำพวกสแปมหรืออันตรายต่อชุมชนผู้ใช้งานคนอื่นๆ
อย่างไรก็ดี จากความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากทีมงานในการตรวจสอบเนื้อหา ส่งผลให้วิดีโอของอาซิสที่วิพากษ์การปฏิบัติต่อชาวอุยกูร์ของจีนถูกลบ ซึ่ง TikTok ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นถือเป็นความผิดพลาดจริงๆ และวิดีโอตัวดังกล่าวก็ไม่ควรจะถูกลบออกจากแพลตฟอร์ม
“การตรวจสอบบัญชีของผู้ใช้งานนี้ไม่เกี่ยวข้องกับเนื้อหาที่กล่าวถึงหรือเชื่อมโยงกับประเทศจีนเลย
“เราอยากจะขอโทษผู้ใช้งานกับความผิดพลาดที่เกิดขึ้นจากทีมงานของเรา และเราก็ได้ติดต่อไปยังผู้ใช้งานโดยตรงเพื่อแจ้งเธอแล้วว่าได้ยกเลิกการแบนการเข้าใช้งาน TikTok ผ่านอุปกรณ์ของเธอแล้ว และผู้ใช้งานก็สามารถล็อกอินเข้าใช้แอ็กเคานต์ของเธอจากอุปกรณ์ที่เธอเคยใช้งานได้ตามปกติ” เอริค ฮาน หัวหน้าแผนกดูแลความปลอดภัยของแพลตฟอร์ม TikTok ในสหรัฐฯ กล่าวผ่านแถลงการณ์
ถึงแม้ TikTok จะเปิดผนึกแถลงการณ์ขอโทษอาซิสแล้ว แต่ดูเหมือนว่าตัวเธอเองจะมองว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ใช่เรื่องบังเอิญหรือการเข้าใจผิด และได้ตั้งข้อสังเกตผ่านสำนักข่าว BBC ว่า การที่ TikTok เลือกแบนบัญชีผู้ใช้งานของเธอหลังโพสต์วิดีโอวิจาณ์จีน นับเป็นการกระทำที่มีพิรุธและข้อสังสัยอยู่พอสมควร
“หลังจากที่ฉันโพสต์วิดีโอเรื่องชาวอุยกูร์ในจีน แอ็กเคานต์ของฉันก็ถูกแบนทันที แต่พวกเขาพยายามจะบอกว่าบัญชีของฉันถูกแบนเพราะวิดีโอเสียดสี (มีภาพของบิน ลาดิน) มันไม่สมเหตุสมผลเอาเสียเลย ฉันรู้สึกว่าแถลงการณ์ของพวกเขามีข้อกังขาอยู่พอสมควร”
อาซิสยังยืนยันอีกด้วยว่า เธอจะยังคงใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียพูดถึงประเด็นปัญหาการเลือกปฏิบัติ ความไม่เท่าเทียม ความเลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นกับผู้คนบนโลกใบนี้ต่อไป ทั้งปัญหาที่เกิดขึ้นในอัฟกานิสถาน, เวเนซุเอลา, โคลอมเบีย หรือแคชเมียร์ รวมถึงสิ่งที่สหรัฐฯ ทำกับแรงงานข้ามชาติผิดกฎหมาย โดยไม่กลัวว่าเธอจะถูกแพลตฟอร์มใดแบนอีก
เป็นที่ทราบกันว่า TikTok คือแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียยอดนิยมจากประเทศจีน (เจ้าของแพลตฟอร์มคือบริษัท ByteDance) ที่มีผู้ใช้งานแบบแอ็กทีฟ (Mau) มากกว่า 500 ล้านรายต่อเดือน ซึ่งก่อนหน้านี้สื่อในสหรัฐอเมริกามักจะโยงประเด็น และตั้งข้อสังเกตว่าการใช้งาน TikTok น่าเชื่อถือและปลอดภัยแค่ไหน โดยเฉพาะเมื่อพิจารณาจากข้อเท็จจริงที่ว่าพวกเขาเป็นบริษัทสัญชาติจีน
พิสูจน์อักษร: ลักษณ์นารา พักตร์เพียงจันทร์
อ้างอิง:
