×

‘The Special One’ กับงานใหญ่ครั้งสุดท้ายของชีวิตที่ปารีส?

12.05.2023
  • LOADING...
José Mário dos Santos Mourinho

HIGHLIGHTS

6 MIN READ
  • มูรินโญมีความสุขกับโรมาในกรุงโรม แต่ช่วงเวลาดีๆ นี้อาจจะจบลงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้หรือไม่? เมื่อมีกระแสข่าวว่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องการได้ตัวเขาเข้ามาคุมทีมแทนที่ของ คริสตอฟ กาลติเยร์ ในฤดูกาลหน้า
  • โอกาสจะได้กลับมาคุมทีมในกลุ่ม ‘Elite’ ของโลกอย่างเปแอสเช จึงเป็นงานที่อาจจะทำให้คนอย่างมูรินโญหวั่นไหวได้ เพราะนี่คือโอกาสที่จะนำเขากลับมาสู่ทีมในกลุ่มท็อปสุดของโลกอีกครั้ง
  • กีเยม บาลาเก ผู้สื่อข่าวชื่อดังชาวสเปน มองว่า มูรินโญกับเปแอสเชจะเวิร์กได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายบริหารหนุนหลังเขาเต็มร้อยเท่านั้น

โชเซ มูรินโญ มีโอกาสจะนำโรมาผงาดเข้าชิงแชมป์รายการสโมสรยุโรปต่อเนื่องเป็นฤดูกาลที่ 2 ติดต่อกัน หลังเอาชนะไบเออร์ เลเวอร์คูเซน ได้ในเกมนัดแรกที่สตาดิโอโอลิมปิโก 1-0 ในเกมยูฟ่ายูโรปาลีก รอบรองชนะเลิศ เลกแรก

           

ก่อนหน้านี้ยอดกุนซือชาวโปรตุเกสพาทีมจัลโลรอสซีพิชิตแชมป์ยูฟ่ายูโรปาคอนเฟอเรนซ์ลีกในฤดูกาล ‘ปฐมฤกษ์’ ซึ่งเป็นโทรฟี่ใบแรกของสโมสรในรอบ 14 ปีเลยทีเดียว และนั่นทำให้มูรินโญมีสถานะเป็นดัง ‘ราชาแห่งกรุงโรม’ ในความรู้สึกของแฟนบอลโรมาที่ไม่ได้มีความสุขแบบนี้มานานแล้ว

           

มูรินโญเองก็มีความสุขเช่นกัน นับจากวันแรกที่เดินทางมาถึง Eternal City การต้อนรับของเหล่าโรมานิสตาทำให้กุนซือที่เคยอยู่บนจุดสูงสุดก่อนจะตกลงมาถึงจุดต่ำสุดเมื่อถูกท็อตแนม ฮอตสเปอร์ ปลดพ้นจากตำแหน่งก่อนจะถึงเกมนัดชิงชนะเลิศฟุตบอลถ้วยลีกคัพไม่กี่วัน ได้กลับมามีรอยยิ้มอีกครั้ง

           

ภาพของกุนซือผมสีดอกเลาที่ขี่เวสป้าไปทั่วศูนย์ฝึกของโรมา กลายเป็นภาพจำที่ทำให้แฟนโรมายิ่งหลงรักชายผู้นี้มากขึ้นไปอีก และทุกๆ อย่างในทีมก็ค่อยๆ เปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ดีขึ้น นักเตะแม้อาจจะยังไม่ได้เล่นได้ดีสุดยอดเหมือนทีมเก่าๆ ของมูรินโญ แต่อย่างน้อยพวกเขาก็ลงสนามด้วยความตั้งใจ

           

มูรินโญมีความสุข ทุกคนมีความสุข มันเป็นช่วงเวลาที่พิเศษในกรุงโรม

           

แต่ช่วงเวลาดีๆ นี้อาจจบลงแค่สิ้นสุดฤดูกาลนี้หรือไม่? เมื่อมีกระแสข่าวว่า ปารีส แซงต์ แชร์กแมง ต้องการได้ตัวเขาเข้ามาคุมทีมแทนที่ คริสตอฟ กาลติเยร์

 

José Mário dos Santos Mourinho

 

กระแสข่าวดังกล่าวไม่ได้เป็นเรื่องล้อกันเล่น แต่เป็นทิศทางข่าวที่เกิดขึ้นจริงบนหน้าสื่อระดับชั้นนำของยุโรป ซึ่งประเมินจากสถานการณ์ภายในทีมเปแอสเชแล้ว ค่อนข้างชัดเจนว่า กัลติเยร์ ซึ่งประสบปัญหาในการคุมทีม น่าจะอยู่ได้ยาก

           

อดีตโค้ชของลีลล์ที่เคยแทรกแซงการคว้าแชมป์แบบผูกขาดของเปแอสเชด้วยการพาลีลล์คว้าแชมป์ในฤดูกาล 2020/21 ประสบปัญหาการจัดการสถานการณ์ภายในทีมที่เต็มไปด้วยซูเปอร์สตาร์ระดับอุโฆษอย่าง คีเลียน เอ็มบัปเป, เนย์มาร์ และ ลิโอเนล เมสซี รวมถึงแฟนบอล Ultras ของทีม ที่เริ่มต่อต้านรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ สิ่งเหล่านี้เกินกว่าที่เขาจะรับมือไหว

           

ปัญหาของเปแอสเชคือ โค้ชในระดับท็อปสุดของโลกที่ว่างอยู่มีไม่กี่คน และมูรินโญเป็นหนึ่งในนั้น

           

มันนำไปสู่คำถามที่น่าคิด เพราะก่อนหน้านี้เป็นสิ่งที่อยู่เหนือความคาดหมายว่า เปแอสเชกับมูรินโญเป็นเรื่องที่เป็นไปได้หรือไม่?

           

เรื่องนี้ถึงเจ้าตัวจะออกมาปฏิเสธเชิงหยอกล้อในการแถลงข่าวก่อนเกมที่พบกับเลเวอร์คูเซนว่า “ต่อให้โทรมาหาผมก็ไม่เจอตัวหรอก” แต่สิ่งที่น่าคิดคือ หากเปแอสเชติดต่อมาจริงๆ มูรินโญจะตัดเยื่อใยถึงขั้นไม่ยอมรับสายเลยหรือ?

           

ในโลกของฟุตบอล ทุกอย่างคือเรื่องของธุรกิจ และสำหรับคนอย่างมูรินโญ บางสิ่งที่สำคัญกว่าธุรกิจคือเรื่องของเกียรติประวัติ

           

ตลอดชีวิตการคุมทีมที่ผ่านมา นับจากจุดเริ่มต้นกับบรากา มาสร้างชื่อกับปอร์โต มูรินโญคือ ‘คนพิเศษ’ ที่มีโอกาสคุมทีมใหญ่มาโดยตลอด ทั้งกับเชลซี (2 ครั้ง และพาทีมเป็นแชมป์ทั้งสองครั้ง), อินเตอร์ มิลาน, เรอัล มาดริด และแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด

           

แต่ทุกอย่างเริ่มเปลี่ยนไปนับจากความล้มเหลวในทีมแมนฯ ยูไนเต็ด เขาไม่เคยได้โอกาสหรือข้อเสนอในการคุมทีมใหญ่อีกเลย และเริ่มยอมรับข้อเสนอจากทีมในกลุ่มที่รองลงมาอย่างสเปอร์ส จนถึงปัจจุบันกับโรมา ซึ่งแม้จะเป็นสองสโมสรที่มีประวัติศาสตร์ยาวนาน แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่าสองสโมสรแห่งเมืองหลวงของอังกฤษและอิตาลีห่างไกลจากการเป็น ‘Winning Team’ หรือทีมที่จะประสบความสำเร็จ

 

กับโรมา มูรินโญพาพวกเขากลับมาสู่เส้นทางที่ดีอีกครั้ง พาทีมคว้าแชมป์ถ้วยแรกในรอบ 14 ปี แต่น้ำหนักของมันนับว่าเบาหวิวในสายตาของคนภายนอก

 

José Mário dos Santos Mourinho

 

ดังนั้นโอกาสจะได้กลับมาคุมทีมในกลุ่ม ‘Elite’ ของโลกอย่างเปแอสเช จึงเป็นงานที่อาจจะทำให้คนอย่างมูรินโญหวั่นไหวได้ เพราะนี่คือโอกาสที่จะนำเขากลับมาสู่ทีมในกลุ่มท็อปสุดของโลกอีกครั้ง ซึ่งไม่ว่ามันจะสำเร็จหรือไม่สำเร็จ การได้กลับมาอยู่ในกลุ่มนี้ก็คือการยกระดับตัวเองกลับมาในระนาบเดียวกับ เป๊ป กวาร์ดิโอลา, เจอร์เกน คล็อปป์ หรือ คาร์โล อันเชล็อตติ อีกครั้ง

           

เจมส์ ฮอร์นคาสเซิล ผู้สื่อข่าวฟุตบอลอิตาลี กล่าวในรายการพอดแคสต์ Euro League ว่าสำหรับมูรินโญ โรมาคือบันไดไปสู่งานในระดับที่ใหญ่กว่าอีกครั้ง 

 

“ผมคิดว่ามูรินโญมองโรมาเป็นทางไปสู่งานที่ใหญ่กว่าอีกครั้ง เขาสามารถพูดได้อย่างมีเหตุมีผลว่า เขาประสบความสำเร็จจากการพาทีมคว้าแชมป์แรกในรอบ 14 ปี และใกล้จะได้เข้าชิงบอลยุโรปอีกรายการ

           

“เขาเป็นคนที่ต้องการจะคว้าชัยชนะในทุกที่ที่เขาไป และผมคิดว่าเขาน่าจะรู้สึกว่าโรมายังไม่สามารถจะมีลุ้นแชมป์ลีกได้ ยกเว้นว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงยุทธศาสตร์และเริ่มใช้เงินมากกว่านี้”

           

ฮอร์นคาสเซิลสรุปว่า หากมูรินโญได้งานที่เปแอสเชจริง มันคือโอกาสที่เขาจะได้สานต่อตำนานของตัวเองอีกครั้ง และไม่ใช่เรื่องยากเลยที่จะเพิ่มลิสต์ในการคว้าแชมป์ลีกในอีกประเทศหลังจากที่เคยทำได้ในโปรตุเกส, อังกฤษ, อิตาลี และสเปน มาแล้ว เพราะเปแอสเชศักยภาพสูงกว่าคู่แข่งทุกทีมในลีกเอิงมาก

           

ที่สำคัญที่สุดคือ The Special One จะได้กลับคืนสู่รายการที่คู่ควรกับเขาอย่างแชมเปียนส์ลีกอีกครั้ง

           

แต่กลิ่นความสำเร็จอันน่าเย้ายวนอาจไม่เพียงพอที่จะกระชากตัวมูรินโญไปจากโรมา เพราะตลอดระยะเวลา 12 ปีที่ผ่านมานับจากทุนกาตาร์เข้ามาเทกโอเวอร์กิจการสโมสร และเปลี่ยนเปแอสเชให้กลายเป็นทีมระดับท็อปของยุโรปนั้น สิ่งที่เป็นปัญหาตลอดมาไม่ว่าใครจะเข้ามาคุมทีมก็ตามคือ การทำงานร่วมกับฝ่ายบริหารและบรรดาซูเปอร์สตาร์ของสโมสร

           

คนอย่างมูรินโญพิสูจน์ฝีมือมาแล้วมากมายตลอดระยะเวลา 20 ปีที่ผ่านมาว่า เขาเชื่อมือได้ในเรื่องของความสำเร็จ โดยเฉพาะสถิติการชนะในนัดชิงแชมป์รายการสโมสรยุโรป 5 ครั้งรวด ซึ่งเป็นหนึ่งในแรงจูงใจที่สำคัญที่ฝ่ายบริหารของเปแอสเชสนใจตัวเขา เพราะคิดว่าจะพาทีมพิชิตแชมเปียนส์ลีกได้เสียที แต่ในอีกด้าน การจะไปสู่ความสำเร็จ เขาต้องการการสนับสนุนอย่างเต็มรูปแบบ

           

กีเยม บาลาเก ผู้สื่อข่าวชื่อดังชาวสเปน มองว่า มูรินโญกับเปแอสเชจะเวิร์กได้ก็ต่อเมื่อฝ่ายบริหารหนุนหลังเขาเต็มร้อยเท่านั้น 

 

“เปแอสเชต้องการใครสักคนที่เข้ามาในทีมแล้วบอกว่า ผมไม่ต้องการคนนี้ ผมไม่เอาคนนี้ ผมไม่อยากได้คนนี้ แต่ผมจะสร้างทีมที่มีคนนี้เป็นศูนย์กลาง และทำให้ทุกคนในสโมสรรวมถึงนักเตะเดินตามได้

           

“ถ้าสโมสรกล้าจะหนุนหลังเขาแบบนั้น มูรินโญจะได้เป็นผู้จัดการทีมเปแอสเช เพราะพวกเขาไม่ได้ต้องการใครที่จะมาคิดทำอะไรใหม่ๆ พวกเขาแค่ต้องการใครสักคนที่จะเข้ามาจัดระเบียบทุกอย่างตั้งแต่หัวยันหาง คนที่จะสามารถชี้ทางให้กับสโมสรได้”

 

José Mário dos Santos Mourinho

 

มูรินโญเองยังอาจถือไพ่ได้เปรียบกว่ากาลติเยร์หรือโปเชตติโน ที่หลังจบฤดูกาลนี้เปแอสเชอาจมีการล้างไพ่ใหม่ครั้งใหญ่ โดยนอกจาก ลิโอเนล เมสซี นักเตะที่เก่งที่สุดในโลก จะตัดสินใจอำลาทีมแล้ว อาจรวมถึงเนย์มาร์ที่ฝ่ายบริหารต้องการขายทิ้งด้วย หลังคว้าตัวมาจากบาร์ซาเมื่อ 6 ปีที่แล้ว

           

และไม่มีใครรู้ว่า เรอัล มาดริด จะกลับมาหาเอ็มบัปเปอีกครั้งหรือไม่ หลังกระแสข่าวเริ่มกลับมาโหมหนักอีกครั้งในช่วงที่ผ่านมา

           

นั่นหมายความว่า หากเมสซี, เนย์มาร์ และอาจรวมถึงเอ็มบัปเป ไม่อยู่ ทีมจะต้องมีการหา ‘ฮีโร่’ คนใหม่เข้ามา ซึ่งมูรินโญมีโอกาสที่จะเลือกคนที่เขาต้องการได้เอง และอาจมีปัญหาน้อยกว่าการต้องหาทางทำให้ทั้งเมสซี, เนย์มาร์ และเอ็มบัปเป แฮปปี้ทุกคน ซึ่งเป็นเรื่องที่แทบเป็นไปไม่ได้

           

โดยมี 2 คนที่จะสามารถสนับสนุนเขาได้ในเรื่องนี้

           

คนแรกคือ ฮอร์เก เมนเดส ซูเปอร์เอเจนต์ประจำตัว ซึ่งมีเครือข่ายนักเตะยิ่งใหญ่และวางใจได้มากที่สุดคนหนึ่งของโลก

           

อีกคนคือ หลุยส์ คัมโปส ผู้อำนวยการสโมสรเปแอสเชคนปัจจุบัน ซึ่งก็เป็นเพื่อนสนิทของเมนเดสอีกที

           

เรียกได้ว่าถ้าเรา ‘ลากจุด’ ต่อกันแล้วจะพบว่า มูรินโญกับเปแอสเชนั้นเป็นเรื่องที่ฟังดูแล้ว ‘เป็นไปได้’

           

ดังนั้นถึงวันนี้มูรินโญจะมีความสุขดีที่โรม แต่สำหรับคนที่ไฟในตัวไม่เคยมอดอย่างเขา โอกาสในการได้กลับมาคุมทีมใหญ่อีกครั้งมันเป็นเรื่องที่หัวใจเต้นระรัวได้เสมอ

           

และมันไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาต้องเจอสถานการณ์แบบนี้

           

ย้อนหลังกลับไปในนัดชิงชนะเลิศ ฟุตบอลแชมเปียนส์ลีก เมื่อปี 2010 มูรินโญพาอินเตอร์คว้า ‘เทรเบิลแชมป์’ ได้อย่างยิ่งใหญ่ด้วยการล้มบาเยิร์น มิวนิก 2-0 แต่เขากลับไม่ได้อยู่ร่วมฉลองความสำเร็จกับทีม

           

มูรินโญออกจากสนามอย่างเงียบๆ คนเดียวโดยไม่บอกใคร มีเพียง มาร์โก มาเตรัสซี ที่พอคาดเดาอะไรได้และมาดักรอพบก่อนที่ The Special One จะไปถึงลานจอดรถ ทั้งคู่บอกลากันด้วยน้ำตา โดยไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากมาย

           

ที่ไม่ยอมกลับไปฉลองแชมป์นั้น เพราะมูรินโญรู้ดีว่าวันนั้นถ้าเขากลับไป เขาจะไม่มีวันไปจากทีมอย่างแน่นอน

           

เขารับปาก ฟลอเรนติโน เปเรซ ไปแล้วว่าจะไปเรอัล มาดริด การตัดสินใจได้เกิดขึ้นแล้ว และสิ่งที่ต้องทำคือการตัดใจ

           

เรื่องนี้มีโอกาสจะเกิดขึ้นได้อีกครั้งที่โรมา ไม่ว่าเขาจะรักและรู้สึกว่าเป็นที่รักแค่ไหนในเมืองแห่งนี้ก็ตาม

 

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising