×

The Penthouse แกงโฮะเกาหลี สนุกดีแต่ยังไม่กลมกล่อม

28.11.2020
  • LOADING...
The Penthouse แกงโฮะเกาหลี สนุกดีแต่ยังไม่กลมกล่อม

HIGHLIGHTS

3 mins read
  • เผ็ดพริกแต่ไม่ใส่เครื่องเทศ รสชาติไม่กลมกล่อมฉันใด ซีรีส์ใส่แต่ความเผ็ดร้อน แต่ไม่สนใจความสมเหตุสมผล ก็เสียอรรถรสฉันนั้น The Penthouse ก็เช่นกัน แม้จะดูสนุก แต่ก็มีหลายจุดที่เราต้องเผลอร้อง ‘เอ๊ะ!..’ ออกมา 
  • ความเหลื่อมล้ำ จุดนี้ไม่เอ๊ะ! แต่ขอชม จุดนี้ชอบตั้งแต่การใช้ตึกเฮราพาเลซสูง 100 ชั้นเป็นสัญญะแทนชนชั้นทางสังคมแล้ว ซึ่งผู้อยู่อาศัยในตึกก็ใช่ว่าจะอยู่ชนชั้นเดียวกัน ยังแบ่งเป็น Low Zone และ High Zone 
  • อย่างในอีพีแรกที่สองสาวจากเฮราคลับกดลิฟต์ Low Zone ขณะที่ชอนซอจินกดลิฟต์ High Zone มองเหยียดด้วยสายตาแบบ ‘ก็เธอนั้นอยู่คนละชั้น’ รวมทั้งทำให้ทุกฉากในเฮราพาเลซเหมือนอยู่ในโลกของความฝันจนชนชั้นสูงแทบจะไม่ได้เห็นโลกของความเป็นจริงภายนอก

 

เรียกว่าถึงอกถึงใจคอซีรีส์สายแซ่บอยู่พอสมควรสำหรับ The Penthouse กับเรื่องราวชิงรักหักสวาท ฆาตกรรม แก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในแวดวงไฮโซเกาหลีที่มีกลิ่นอายของละครไทยแทบทุกช่อง ทั้งชิงรักหักสวาทแบบช่อง 8 แม่ลูกพลัดพรากแบบช่อง 7 คาแรกเตอร์ตัวละครแบบช่อง one31 และโปรดักชันแบบช่อง 3 ขณะที่เนื้อหาของเรื่องก็พานให้นึกถึง Sky Castle และ A World of Married Couple เอามาปั่นผสมรวมกัน เพียงแต่ชั้นเชิงและความล้ำลึกยังเทียบกันไม่ติด

   

The Penthouse ว่าด้วยเรื่องราวความเหลื่อมล้ำในสังคมเกาหลี โดยมีที่พักอาศัยราคาแพงที่สุดในเกาหลีชื่อ เฮราพาเลซ เป็นแกนกลาง เนื้อเรื่องเล่าผ่านชีวิตของตัวละครหญิง 3 คนคือ ชิมซูรยอน (อีจีอา) หญิงสาวสวยหวานผู้เกิดในสังคมชั้นสูง เธอแต่งงานกับ จูดันแท (ออมกีจุน) นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์และเจ้าของโครงการเฮราพาเลซ ชีวิตของเธอห้อมล้อมไปด้วยชื่อเสียงและเงินทอง แต่หลังฉากที่ดูสวยงามมีความลับบางอย่างซ่อนอยู่ ชอนซอจิน (คิมโซยอน) นักร้องโอเปราผู้เย่อหยิ่งที่ผันตัวเองมาเป็นครูสอนพิเศษแบบรายบุคคล ความสำเร็จของเธอไม่ได้มาจากพื้นฐานครอบครัวที่ร่ำรวยและพรสวรรค์ที่มีเท่านั้น แต่มันมาจากการทำลายชีวิตใครบางคนเพื่อก้าวมาถึงจุดที่ยืนอยู่ในปัจจุบัน และสุดท้าย โอยุนฮี (ยูจิน) ที่ปรึกษาด้านอสังหาริมทรัพย์ที่ดิ้นรนต่อสู้ชีวิตเพื่อ แบโรนา (คิมฮยอนซู) ลูกสาวคนเดียวผู้รักการร้องเพลงคลาสสิกเป็นชีวิตจิตใจ ในอดีตโอยุนฮีมีพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงคลาสสิก เธอควรมีชีวิตที่ดีกว่านี้ ถ้าหากใครคนนั้นไม่ฝากรอยแผลทั้งทางกายและใจเอาไว้กับเธอ 

 

 

ด้วยความแค้นทำให้โอยุนฮีผลักดันตัวเองให้เข้าไปอยู่ในเฮราพาเลซให้จงได้ ทั้ง 3 ชีวิตถูกร้อยเรียงเข้าด้วยกันผ่านการชิงรักหักสวาท ความอิจฉาริษยา และความลับ นี่ยังไม่นับรวมเรื่องราวของลูกๆ ที่ทุกคนหมายมั่นปั้นมือให้เข้าเรียนในโรงเรียนศิลปะชื่อดัง และยังต้องเป็นที่หนึ่งในทุกๆ ด้านเข้าไปอีก เรียกว่า The Penthouse เสิร์ฟทั้งความเผ็ดและร้อนแรงเหมือนตักกิมจิชิเกจากหม้อไฟซดเข้าปากแบบไม่ได้เป่าก็ไม่ปาน 

 

เผ็ดพริกแต่ไม่ใส่เครื่องเทศ รสชาติไม่กลมกล่อมฉันใด ซีรีส์ใส่แต่ความเผ็ดร้อน แต่ไม่สนใจความสมเหตุสมผลก็เสียอรรถรสฉันนั้น The Penthouse ก็เช่นกัน แม้จะดูสนุก แต่ก็มีหลายจุดที่เราต้องเผลอร้อง ‘เอ๊ะ!..’ ออกมา ว่าแล้วเรามาวิเคราะห์ความ ‘เอ๊ะ!…’ เหล่านั้นกัน (เปิดเผยเนื้อหาสำคัญของเรื่อง)

 

 

เต็มไปด้วยเรื่องบังเอิ๊ญบังเอิญ 

ปกติซีรีส์เกาหลีก็มีเรื่องบังเอิญอยู่แล้ว ทั้งเพื่อสนับสนุนเส้นเรื่องและไม่ต้องสร้างตัวละครใหม่ๆ ให้รกรุงรัง แต่สำหรับ The Penthouse ผู้เขียนคิดว่าเรื่องบังเอิญมีมากเกินไป ทั้งแบบที่รับได้อย่างการที่สามีชอนซอจินเป็นแฟนเก่าของโอยุนฮี (ก็เขาเป็นคู่แข่งกันนี่เนอะ แย่งได้เป็นแย่ง อันนี้เข้าใจ) หรือแบบพอรับได้อย่างแบโรนา ลูกสาวของโอยุนฮีก็เป็นคู่แข่งกับลูกสาวของชอนซอจิน ทั้งเรื่องการร้องเพลงและเรื่องผู้ชาย (เอ๊ะ… บังเอิญไปนะ แต่เขาคงเจริญรอยตามรุ่นแม่แหละ) และแบบบังเอิ๊ญบังเอิญก็คือ แอนนา ลี หรือมินซอลอา (โชซูมิน) เด็กกำพร้าสู้ชีวิตที่แฝงตัวมาเป็นอาจารย์สอนพิเศษที่เฮราพาเลซ แท้จริงแล้วเป็นลูกสาวที่พลัดพรากของชิมซูรยอนโดยที่เจ้าตัวไม่เคยล่วงรู้มาก่อน แถมในวันที่รู้ความจริง ลูกสาวผู้น่าสงสารก็ดันมาถูกโยนตกตึกต่อหน้าต่อตา งานนี้ชิมซูรยอนร้องว่าลูกร่วง แต่คนดูเป็นต้องอุทานว่าแม่ร่วง… จะบังเอิญเท่านี้เลยจริงๆ เหรอ 

 

 

เกินจริงไปมาก

ผู้เขียนเป็นคนตาผี ชอบสังเกตอะไรที่ไร้สาระแต่จริงๆ แล้วมีสาระ อย่างรองเท้าในละครหรือซีรีส์คือตัวชี้วัดความสมจริงของเรื่องนั้น ใน The Penthouse ตัวละครชอบใส่รองเท้าส้นสูงในคอนโด ถามว่าในชีวิตจริงเป็นแบบนั้นไหม คงไม่ แต่เพื่อภาพรวมที่สวยงาม ซีรีส์เรื่องนี้เลือกความเกินจริง และบางทีเรื่องรองเท้าก็ลามไปถึงความต่อเนื่องของบางฉาก อย่างตอนที่ชิมซูรยอนต้องรีบวิ่งไปดักเอกสารสำคัญก่อนถึงมือสามี ใส่รองเท้าส้นสูงรับโทรศัพท์อยู่ดีๆ พอต้องวิ่งขึ้นตึก ซูมที่เท้ากลายเป็นรองเท้าผ้าใบไปเสียอย่างนั้น 

 

ส่วนฉากสำคัญที่มินซอลอาตกตึกลงมาตายที่รูปปั้นเฮรา ทีมสาวๆ เฮราคลับก็มาช่วยทำความสะอาดอย่างหมดจดในเวลาอันรวดเร็ว ราวกับทำงานแม่บ้านหารายได้พิเศษมาทั้งชีวิต และที่ค่อนข้างขัดใจแทบทั้งเรื่องก็คือรอยแผลที่คอของโอยุนฮีบริเวณด้านข้างต่ำลงไปเกือบถึงไหปลาร้า ในเรื่องทำให้เข้าใจว่ามันทำให้เธอสูญเสียพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงจากเหตุการณ์นั้น ทั้งที่ความจริงแล้วเส้นเสียงและกล่องเสียงอยู่ที่ลูกกระเดือกของเราต่างหาก และท้ายสุดก่อนจบซีซันแรกคือการเปิดตัวละครลับที่เป็นครูพละของโรงเรียนสอนศิลปะแบบห้อยโหนโยนตัว นี่ถ้าไม่บอกก็คิดว่าเป็น จา พนม ไปแล้ว

 

 

ความเหลื่อมล้ำ จุดนี้ไม่เอ๊ะ! แต่ขอชม 

ตรงจุดนี้ชอบตั้งแต่การใช้ตึกเฮราพาเลซสูง 100 ชั้นเป็นสัญญะแทนชนชั้นทางสังคมแล้ว ซึ่งผู้อยู่อาศัยในตึกก็ใช่ว่าจะอยู่ชนชั้นเดียวกัน ยังแบ่งเป็น Low Zone และ High Zone อย่างในอีพีแรกที่สองสาวจากเฮราคลับกดลิฟต์ Low Zone ขณะที่ชอนซอจินกดลิฟต์ High Zone มองเหยียดด้วยสายตาแบบ ‘ก็เธอนั้นอยู่คนละชั้น’ รวมทั้งทำให้ทุกฉากในเฮราพาเลซเหมือนอยู่ในโลกของความฝันจนชนชั้นสูงแทบจะไม่ได้เห็นโลกของความเป็นจริงภายนอก

 

ส่วนอีกฉากที่ดูเหมือนไม่มีอะไร แต่ผู้เขียนคิดว่ามันสะท้อนความแตกต่างได้ดี ก็คือฉากที่มินซอลอาโดนแก๊งลูกคุณหนูบูลลี่เพราะจับโกหกได้ ฉากนี้เธอโดนเดอะแก๊งเอาแชมเปญ Dom Perignon สาดใส่และกรอกปาก (ถ้าเป็นผู้เขียนจะขอเบิ้ลอีกสัก 2 ลัง) ก็ถือว่าสมเหตุผล แหม… ลูกมหาเศรษฐีจะแกล้งคนทั้งทีก็ต้องใช้แชมเปญขวดละเหยียบหมื่นแบบนี้แหละ ถ้าใช้แค่โซจูนี่จะโกรธมาก 

 

ลองคิดดูสิว่าเงินที่ซื้อแชมเปญแค่ขวดเดียวนี่เท่ากับค่าจ้างที่มินซอลอาทำงานทั้งเดือนเชียวนะ จะมีเอ๊ะ… อยู่บ้างก็เรื่องการร้องเพลงโอเปราของตัวละครรุ่นเล็กในเรื่อง คือไม่ติดใจที่ลูกคุณหนูจะสนใจการร้องเพลงโอเปรา จะเอ๊ะ… อยู่บ้างก็ตรงที่แบโรนาไม่มีเงินแท้ๆ แต่ก็สนใจการร้องโอเปรา ยังแอบเข้าข้างว่าก็คงเพราะเลือดแม่แรง แต่ที่เอ๊ะ… ที่สุดก็คือมินซอลอาที่โตในบ้านเด็กกำพร้าแท้ๆ ทำไมเก่งกาจด้านโอเปราขนาดนั้น มันเหมือนจงใจให้ตัวละครนี้มาอยู่ในเส้นเรื่องแบบไม่สมเหตุผลสักเท่าไร 

 

 

จริงๆ แล้วความเวอร์วังเกินจริงของ The Penthouse ยังไม่หมดแค่นี้ ยังมีฉากกดขี่ข่มเหงตัวละครชนชั้นล่างชนิดดังนรกชังหรือสวรรค์แกล้งอีกมากมายที่ทำให้เราเอ๊ะ… ว่าคนอะไรจะดวงซวยขนาดนั้น อย่างไรก็ดี ซีรีส์เรื่องนี้ก็กวาดเรตติ้งไปได้สูงทีเดียวในเกาหลี แต่ความนิยมนอกประเทศยังถือว่าธรรมดา จุดนี้คงสะท้อนให้เห็นว่าคนดูรุ่นแม่-ป้าผู้นิยมความแซ่บยังเป็นผู้ผลักดันสื่อเก่าอย่างโทรทัศน์อยู่ และผู้ถูกกดขี่คือคนส่วนใหญ่ของประเทศ อย่าว่าแต่เกาหลีเลย ผู้เขียนเองแม้จะวิจารณ์มาขนาดนี้ แต่ถามว่าจะดูต่อไหม บอกเลยว่าดูแน่นอน เพราะนี่คือซีรีส์เพื่อความบันเทิงอย่างแท้จริง ที่สำคัญมันช่วยระบายความเก็บกด ได้เห็นชัยชนะของพวก Underdog แล้วรู้สึกดี เพราะสังคมไทยและเกาหลีก็ยังมีความเหลื่อมล้ำไม่ต่างกัน แล้วเจอกันใน The Penthouse ซีซัน 2 ปีหน้านะจ๊ะ

 

ภาพ: Courtesy of The Penthouse 

พิสูจน์อักษร: วรรษมล สิงหโกมล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising