×

วันแห่งประวัติศาสตร์! The Merge เสร็จสมบูรณ์แล้ว Ethereum เปลี่ยนไปเป็น Proof-of-Stake (PoS)

15.09.2022
  • LOADING...

หลังจากที่รอคอยกันมาอย่างยาวนาน ในที่สุด Ethereum ก็สามารถอัปเกรด The Merge ได้อย่างเสร็จสมบูรณ์ โดยทำให้เครือข่ายเปลี่ยนจากกลไก Proof-of Work (PoW) ไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) แล้ว การเปลี่ยนผ่านครั้งนี้ถือเป็นหนึ่งในเหตุการณ์ที่ยิ่งใหญ่ของอุตสาหกรรมคริปโตเคอร์เรนซี และยังทำให้เครือข่ายประหยัดพลังงานได้มากถึง 99.95% 

 

การอัปเกรด The Merge เสร็จสมบูรณ์แล้ว

 

สกุลเงินดิจิทัลอันดับ 2 พัฒนาไปเป็น Proof-of-Stake (PoS) ได้สำเร็จ ทางด้าน Vitalik Buterin ผู้ร่วมก่อตั้ง Ethereum ได้ประกาศข่าวดีบน Twitter ว่า นี่เป็นช่วงเวลาที่ยิ่งใหญ่สำหรับระบบนิเวศ Ethereum” 

 

 

การเปลี่ยนผ่านนี้เกิดขึ้นเมื่อเวลา 06.43 น. UTC หรือเวลา 13.43 น. ตามเวลาประเทศไทย ในวันพฤหัสบดีที่ 15 กันยายน ที่บล็อก 15537393 โดยการผสานรวมของโปรโตคอลของ Ethereum Mainnet Execution Layer และ Consensus Layer ของ Beacon Chain มี Total Terminal Difficulty ที่ 58,750,000,000T 

 

หมายความว่าเครือข่ายจะไม่พึ่งพากลไก Proof-of-Work (PoW) อีกต่อไป กล่าวง่ายๆ คือ เหล่านักขุดจะไม่สามารถขุดเหรียญ ETH ได้อีกต่อไป แต่จะต้องซื้อเหรียญแล้วนำไป Lock Stake เหรียญแทน อย่างไรก็ตาม การอัปเกรดนี้จะทำให้เครือข่ายประหยัดพลังงานได้มากถึง 90% เลยทีเดียว

 

ในขณะที่ Bitcoin เป็นผู้บุกเบิกแนวคิดของการทำธุรกรรมแบบ Peer to Peer (P2P) Ethereum ถือเป็นบล็อกเชน 2.0 ที่ปฏิวัติอุตสาหกรรมด้วยสัญญาอัจฉริยะ (Smart Contract) ที่เปิดประตูสู่ผลิตภัณฑ์ทางการเงินใหม่ๆ รวมถึงการเงินแบบกระจายอำนาจ (DeFi), NFT, การปล่อยกู้ และการยืมบนโปรโตคอลต่างๆ

 

การใช้งาน Ethereum ที่เพิ่มขึ้น ทำให้เครือข่ายเจอจำนวนธุรกรรมที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้ค่าธรรมเนียมสูงขึ้นอย่างมาก รวมถึงการใช้พลังงานที่มากขึ้นด้วย ดังนั้นการไปใช้ Proof-of-Stake จึงมีความสำคัญ โดยระบบสามารถประมวลผลปริมาณธุรกรรมจำนวนมากต่อวินาที โดยใช้พลังงานเพียงเสี้ยวเดียวจากแบบเดิม

 

นักเทรดสาย Long จับตาดูเหตุการณ์ Short Squeeze

 

ราคาเหรียญ ETH ซื้อขายผันผวนในวันนี้ (15 กันยายน) ณ เวลา 14.45 น. ราคาซื้อขายอยู่ที่ 1,536 ดอลลาร์ เพิ่มขึ้น 1.8% ใน 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา ซึ่งหลังจากที่ The Merge สำเร็จ ราคาเคลื่อนไหวระหว่าง 1,570-1,654 ดอลลาร์ โดยราคายังสรุปทิศทางไม่ได้

 

ข้อมูลจาก Coinglass แสดงให้เห็นว่า มีการเก็งกำไรขาลงใน Ethereum จากการ Sell on fact จำนวนมาก เนื่องจากอัตรา Funding Rate ติดลบ ซึ่งตีความได้ว่า นักเทรดเปิดสถานะ Short ใน ETH อย่างมหาศาล  

 

อย่างไรก็ตาม หาก Ethereum ปรับตัวสูงขึ้นจนนักเทรดสาย Short โดนล้างพอร์ต อาจทำให้เกิดเหตุการณ์ Short Squeeze ที่ตามมา และอาจลากราคา ETH ให้พุ่งสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญได้

 

เหตุการณ์ Short Squeeze คือ การที่ราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว จนทำให้คนที่เปิดสถานะ Short Sell ขาดทุนจนโดนบังคับให้ปิดสถานะไป และส่งผลให้ราคาสินทรัพย์พุ่งขึ้นแทน เนื่องจากมีการล้างพอร์ตจากฝั่งตรงข้ามจำนวนมาก 

 

ต้องติดตามกันต่อไปว่า ในระยะสั้นราคาเหรียญ ETH จะมีทิศทางอย่างไร จะเจอ Sell on fact หรือไม่ และนักเทรดจะมีมุมมองขาขึ้นต่อไปมากแค่ไหน แต่ในระยะยาว การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ย่อมส่งผลดีต่อระบบนิเวศ และอุตสาหกรรมโดยรวมอย่างแน่นอน

 

การลงทุนในสินทรัพย์ดิจิทัลมีความเสี่ยงและความผันผวนสูงมาก นักลงทุนจึงควรกระจายความเสี่ยง ศึกษาหาข้อมูล และวางแผนในการลงทุนด้วยความรอบคอบ บทความนี้มีจุดประสงค์เพื่อให้ข้อมูลเท่านั้น


ข่าวที่เกี่ยวข้อง:


อ้างอิง:

 


 

ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH


Twitter: twitter.com/standard_wealth
Instagram: instagram.com/thestandardwealth
Official Line: https://lin.ee/xfPbXUP

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising