×

การเข้าซื้อบิตคอยน์ของบริษัทมหาชน

โดย Sanjay Popli
18.11.2020
  • LOADING...
Bitcoin

หนึ่งในข่าวใหญ่ที่สุดของวงการสินทรัพย์ดิจิทัลเมื่อไม่กี่สัปดาห์นี้คือ การที่ PayPal บริษัทผู้ให้บริการด้านการชำระเงินระดับโลก เปิดให้ผู้ใช้งานสามารถเริ่มซื้อขายสกุลเงินดิจิทัล (Cryptocurrency) เช่น บิตคอยน์ (Bitcoin) และอีเธอเรียม (Etereum) ผ่านแพลตฟอร์มของตัวเองได้แล้ว

 

ข่าวการกระโจนเข้าสู่วงการคริปโตเคอร์เรนซีของ PayPal ทำให้ผู้คนตกใจเป็นอย่างมาก และต่างก็พากันคาดการณ์กันไปต่าง ๆ นานา จนเป็นสาเหตุให้ราคาของเหรียญดิจิทัลอย่างบิตคอยน์เพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในความเป็นจริงแล้ว เหตุการณ์นี้ถือว่าไม่น่าแปลกใจอะไร โดยเฉพาะอย่างยิ่งในมุมมองของคนที่คลุกคลีอยู่ในวงการนี้

 

“สิ่งที่แตกต่างระหว่างบิตคอยน์กับ PayPal คือ บิตคอยน์นั้นประสบความสำเร็จในการพัฒนาสกุลเงิน ในขณะที่ PayPal นั้นไม่สามารถทำได้”

ปีเตอร์ ธีล – ผู้ร่วมก่อตั้ง PayPal

 

หนึ่งในข้อที่หลายคนอาจจะยังไม่รู้ก็คือ เป้าหมายดั้งเดิมของ PayPal แท้จริงแล้วคือการสร้างสกุลเงินของโลกที่ไม่ขึ้นตรงกับธนาคารหรือรัฐบาลไหนๆ แต่ PayPal กลับล้มเหลวในการบรรลุวัตถุประสงค์นั้น แต่นั่นก็เป็นจุดเริ่มต้นของ PayPal ในฐานะระบบการชำระเงินระดับโลก

 

ในขณะที่ผู้คนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสถาบันทางการเงินมองว่า บิตคอยน์เป็นเหรียญปีศาจหรืออาจเลวร้ายถึงขั้นมองว่าเป็นแชร์ลูกโซ่ แต่เพื่อพิจารณาในมุมของเทคโนโลยี บิตคอยน์กลับเป็นที่ยอมรับมาเป็นเวลานานแล้วในฐานะสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีมูลค่าและความน่าเชื่อถือสูงสุด และยิ่งเมื่อผู้นำด้านระบบชำระเงินอย่าง PayPal เห็นถึงศักยภาพในข้อนี้ และให้ความเห็นเชิงบวกเกี่ยวกับบิตคอยน์เสมอมาตั้งแต่ปี 2014 จนถึงขั้นมีการแต่งตั้งประธานเจ้าหน้าที่บริหาร (CEO) ของบริษัทสตาร์ทอัพเกี่ยวกับบิตคอยน์ขึ้นมานั่งในบอร์ดบริหารเลยทีเดียว


ในอดีตเราจะเห็นบริษัทมากมายตัดสินใจรับชำระเงินเป็นบิตคอยน์ ไม่ว่าจะเป็น Microsoft, Stream, WordPress ซึ่งทำให้เกิดกระแสความเชื่อมั่นในบิตคอย

น์ขึ้นมาบ้าง แต่แท้จริงแล้วการนำบิตคอยน์มาใช้ในการชำระเงินยังไม่ใช่การดึงประสิทธิภาพที่แท้จริงของมันออกมา เพราะถึงแม้ว่าเงินดิจิทัลชนิดนี้จะสามารถทำหน้าที่เป็นสื่อกลางแลกเปลี่ยนได้ แต่มันก็ไม่ใช่สื่อกลางที่จะสามารถรองรับธุรกรรมจำนวนมากได้อยู่ดี

 

ความสามารถที่แท้จริงของบิตคอยน์คือ การเป็นตัวเก็บมูลค่า คล้ายกับทองคำ เพราะจนถึงตอนนี้เราทุกคนต่างก็อยู่ในโลกที่ธนาคารกลางแต่ละประเทศมีอำนาจที่จะผลิตธนบัตรหรือเงินกระดาษ (Fiat Money) ออกมาได้เรื่อยๆ ซึ่งส่งผลให้มูลค่าของเงินที่มีอยู่ในตลาดลดลง แต่เหตุการณ์ดังกล่าวจะไม่มีทางเกิดขึ้นกับทองคำหรือบิตคอยน์ และไม่ว่านักเศรษฐศาสตร์จะมองบิตคอยน์ว่าอย่างไร แต่อัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่องของสกุลเงินดิจิทัลชนิดนี้ก็เป็นเรื่องจริง โดย ณ วันที่ผมกำลังเขียนบทความนี้อยู่ บิตคอยน์ก็ได้ขึ้นไปแตะที่ราคาเหรียญละ 5 แสนบาทอีกครั้งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว

 

การเติบโตลักษณะนี้เองทำให้บริษัทเอกชนต่างๆ เริ่มหันมาพิจารณาบิตคอยน์ในฐานะสินทรัพย์สำรองหรือสินทรัพย์เพื่อการลงทุน จนถึงขั้นกับมีคนเชื่อว่า สักวันหนึ่งบิตคอยน์อาจจะกลายเป็นสินทรัพย์สำรองระหว่างประเทศของธนาคารกลางแห่งชาติก็เป็นได้

 

Greyscale เป็นบริษัทแรกๆ ที่เริ่มดำเนินการลงทุนในบิตคอยน์ด้วยการเปิดกองทุน Bitcoin Trust มาตั้งแต่ปี 2013 และตัวบริษัทเองก็พึ่งเข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์และกลายเป็นบริษัทมหาชนเมื่อต้นปี 2020 ที่ผ่านมา โดยในปัจจุบันบริษัทดังกล่าวได้ถือครองบิตคอยน์อยู่กว่า 449,596 BTC ตีมูลค่าได้กว่า 7.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ คิดเป็น 58% ของจำนวนบิตคอยน์ทั้งหมดที่บริษัทมหาชนในสหรัฐอเมริกามี และตลอดเวลากว่า 6 ปีที่ผ่านมา ราคาต่อหน่วยลงทุนของ Greyscale ก็เติบโตขึ้นกว่า 50 เท่า

 

อีกบริษัทที่เพิ่งเป็นที่พูดถึงไปทั่วโลกอย่าง MicroStrategy เองก็ใช้เงินทุนจำนวนถึง 425 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อบิตคอยน์จำนวน 38,250 BTC เป็นสินทรัพย์สำรอง และภายในระยะเวลาอันสั้น การลงทุนนี้ก็ได้ทำกำไรให้กับองค์กรดังกล่าวไปแล้วกว่า 44% 

 

หลังจากนั้นไม่นาน บริษัท Square ก็ได้ลงเงิน 50 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อซื้อบิตคอยน์ เช่นเดียวกับที่ Mode บริษัทในตลาดหลักทรัพย์ของสหราชอาณาจักรก็ได้ทุ่มเงินสดจำนวน 10% ของสินทรัพย์ทั้งหมดที่มี เพื่อลงทุนในบิตคอยน์เช่นกัน จึงไม่น่าแปลกใจเลยหากว่าต่อจากนี้เราจะเห็นบริษัทเอกชนอีกมากเริ่มหันมาลงทุนในบิตคอยน์

 

หากบิตคอยน์ยังเติบโตในลักษณะนี้ต่อไป อีกไม่นานเราอาจจะได้เห็นข่าวลงทุนในบิตคอยน์ของธนาคารเอกชนหรือธนาคารกลางของสักประเทศก็เป็นไปได้ และเนื่องจากบิตคอยน์มีจำนวนจำกัด ดังนั้นเมื่อเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้น มูลค่าของบิตคอยน์ก็จะยิ่งพุ่งทะยานสูงขึ้น และดึงดูดความสนใจของธนาคารอื่นๆ มากขึ้นเรื่อยๆ เพราะฉะนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดสำหรับธนาคารและทุกคนในวันนี้จึงเป็นการเริ่มต้นสะสมบิตคอยน์ตั้งแต่วันที่มูลค่าของมันยังน้อย เพื่อเป็นการประกันความเสี่ยง หากว่าวันที่บิตคอยน์นั้นประสบความสำเร็จมาถึง

 

 

พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล

  • LOADING...

READ MORE






Latest Stories

Close Advertising