×

ปลุกชีพค็อกเทลคลาสสิกที่ถูกลืมให้กลับมาที่อเมริกันบาร์ The 88 [ปิดกิจการ]

13.01.2018
  • LOADING...

HIGHLIGHTS

4 Mins read
  • บาร์เรียบๆ สไตล์อเมริกัน ราวกับเดินหลงเข้าไปในบาร์สักแห่งในย่านบรูกลินแห่งนี้นำค็อกเทลคลาสสิกที่ถูกลืมมาปัดฝุ่นโดยการนำเสนออย่างเรียบง่าย ไม่หวือหวา ตรงไปตรงมา แต่โดดเด่นที่รสชาติ และค็อกเทลแต่ละตัวต่างมีเรื่องราวเก่าแก่ที่ย้อนไปถึงร้อยปี

หลังจากร้านบาร์บีคิว The Smokin’ Pug ย้ายบ้านไปสู่ทำเลใหม่ที่หลังสวน มุมอบอุ่นแลดูเชื้อเชิญที่คุ้นเคยก็ถูกปรับฝุ่นเล็กน้อยให้กลายเป็น The 88 (ดิเอทตีเอท) บาร์สไตล์อเมริกันฝีมือ มินเวย์ ชี (Minway Chi) แห่ง Bootleggers Trading ผู้นำเข้าเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ที่จับมือกับ เอริก สตีเฟนสัน (Eric Stephenson) บาร์เทนเดอร์ชาวเท็กซัสพลัดถิ่นที่หลงรักในจิตวิญญาณของย่านบรูกลินในนิวยอร์ก เปิดเป็นบาร์เรียบง่ายที่ปลุกจิตวิญญาณค็อกเทลคลาสสิกให้ฟื้นคืนมา

 

(บน) หน้าบาร์แลดูเชื้อเชิญ, (ซ้าย) วิวนั่งหน้าบาร์, (ขวา) บริเวณชั้นลอย

 

The Vibe

ใครที่เคยมาลิ้มรสอเมริกันบาร์บีคิวอันลือชื่อของ The Smokin’ Pug คงพอนึกบรรยากาศร้านได้ ซึ่งแม้จะเปลี่ยนการนำเสนอ แต่ภายในยังไม่เปลี่ยน ด้านนอกเป็นประตูไม้ที่คุณอาจเดินผ่านโดยไม่สังเกต แต่มีป้ายไฟ 88 บอกพิกัดอยู่ เมื่อเดินเข้ามาจะพบบาร์ที่มีชั้นสูง โชว์ขวดตั้งเรียงรายที่ทางร้านบอกว่าขวดบนชั้นจะเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ โดยเน้นรัมหลากหลายชนิดจากฝั่งอเมริกา บรรยากาศไม้สีน้ำตาลแลดูอบอุ่น มีเก้าอี้ขาตั้งสูงตั้งเรียงกัน โดยสามารถเห็นบาร์อันเป็นพระเอกได้อย่างชัดเจน เมื่อมองขึ้นไปจะพบชั้นลอยที่เหมาะกับการหนีฝูงชนหน้าบาร์ และสามารถมองเห็นการชงเครื่องดื่มมือเป็นระวิงของบาร์เทนเดอร์ได้อย่างดีจากมุมนี้

 

เอริกกับการทำค็อกเทลคลาสสิก

 

The Bartender

เอริก สตีเฟนสัน บุรุษใส่หมวกหลังบาร์ผู้รังสรรค์ค็อกเทลอเมริกันคลาสสิกของที่นี่เก็บประสบการณ์การประดิษฐ์เครื่องดื่มมาแล้วนับทศวรรษทั้งในฮ่องกง กัมพูชา ยุโรป ออสเตรเลีย และนิวยอร์ก (และเคยเล่นดนตรีในวงอเมริกันวงหนึ่งที่เขาไม่ยอมบอกชื่ออีกด้วย) ในมุมมองของเอริก ปัจจุบันคนให้ความสำคัญกับภาพลักษณ์การนำเสนอเครื่องดื่มกันเสียส่วนมาก แต่กลับไม่เน้นไปที่คุณภาพที่อยู่ในแก้ว ทำให้เขานำความเป็นค็อกเทลคลาสสิกแบบอเมริกันที่เน้นความเรียบง่าย ไม่หวือหวา ตรงไปตรงมา แต่เด่นที่รสชาติกลับมานำเสนอที่ The 88 และค็อกเทลแต่ละตัวมีเรื่องราวเก่าแก่ที่ย้อนไปถึงร้อยปีทีเดียว

 

Kentucky Buck จากเดิมที่เคยใช้จินเจอร์เอลหรือน้ำเชื่อมขิง แทนที่ด้วยจินเจอร์เบียร์

 

The Drinks

ค็อกเทลของ The 88 แบ่งหมวดเป็น Nontraditional Sours ที่เน้นสปิริตและความเปรี้ยวหวานจากส้มและน้ำเชื่อมต่างๆ (ค็อกเทลในหมวดนี้ที่หลายคนคุ้นเคยดีคือ Penicillin) หมวด Carbonated & Effervescent Cocktails คล้ายกับหมวดก่อนหน้า แต่มีการเติมแชมเปญหรือโซดาเพื่อความซ่าเข้าไป แนะให้ลอง Kentucky Buck (380 บาท) เบอร์บอนรสเข้ม แต่นุ่มลึก ผสมกับสตรอว์เบอร์รี มะนาว เติมกลิ่นวานิลลา แองกอสทูรา บิตเตอร์ ท็อปด้านบนด้วยจินเจอร์เบียร์รสซ่าชื่นใจ

 

Hotel Nacional Special ที่ปรับสูตรจากค็อกเทลอันถือกำเนิดขึ้นในคิวบาเมื่อปี 1930

 

สำหรับหมวด Tropical Drinks จะเน้นค็อกเทลคลาสสิกที่ใส่ความเป็นดินแดนเขตร้อนเข้าไป แนะให้ลอง Hotel Nacional Special (360 บาท) แก้วนี้ใช้รัมขาวจากแถบแคริบเบียนที่ทางร้านนำมาผสมเพิ่ม เติมรสและกลิ่นด้วยผลไม้อย่างแอปริคอต เติมรสหอมหวานด้วยสับปะรด เสริมความสดชื่นด้วยน้ำมะนาว และบิตเตอร์วานิลลา ประดิษฐ์เล็กน้อยด้วยการเสิร์ฟพร้อมดอกกล้วยไม้ เหมาะกับการจินตนาการว่านั่งอยู่ที่โรงแรม Hotel Nacional de Cuba ที่ฮาวานาในยุค 30s จริงๆ

 

Yacht Club เมนูจากสูตรค็อกเทลคลาสสิก The Fine Art of Mixing Drinks ของ เดวิด เอ็มบูรี (David Embury)

 

หมวดสุดท้ายคือ Aromatized Cocktails หรือค็อกเทลที่เพิ่มเติมรสและกลิ่นเข้าไป เช่น เหล้าเวอร์มุท หรือใบออริกาโน เพื่อเติมความหอม ที่เราติดใจคือ Yacht Club (400 บาท) ที่ใช้เอจรัม (aged rum) จากเวเนซุเอลา ผสมกับเหล้าเวอร์มุทสูตรของ The 88 ใส่แอปริคอตลิเคียว และแองกอสตูรา บิตเตอร์ แก้วนี้เสิร์ฟกับเปลือกส้มหอมๆ รสชาตินุ่มลึก อร่อยแบบตรงไปตรงมา ชวนนึกถึงความเปรี้ยวจากการกินลูกอมบ๊วยนิดๆ

 

Chrysanthemum ใส่ดอกเก๊กฮวยอบแห้ง แก้วนี้ปรากฏตัวครั้งแรกในหนังสือสูตรค็อกเทลของฮิวโก้ เอ็นส์สลิน (Hugo Ensslin) ตีพิมพ์ในปี 1916

 

อีกแก้วที่แม้คอนเซปต์เครื่องดื่มของที่นี่จะไม่เน้นหน้าตาภายนอก แต่ก็สวยงามน่าจิบไม่แพ้รสชาติที่ดี Chrysanthemum (380 บาท) ดรายเวอร์มุทฝรั่งเศส อินฟิวส์กับดอกมะลิ ผสมกับเบเนดิกทีนและแอบซินธ์ สูตรที่ชวนจินตนาการว่ารสร้อนแรง แต่กลับหอมละมุนจากดอกเก๊กฮวยจนจิบหมดแก้วแบบลืมตัวเอาได้ง่ายๆ

 

 

The Food

เน้นอาหารรับประทานง่ายรองท้อง เช่น Buffalo Chicken Nugget (280 บาท) ไก่ทอดกรอบชิ้นพอดีคำโรยด้วยชีส และจิ้มเพิ่มกับบลูชีส (หากชอบความชีสซี่เป็นพิเศษ) นอกจากนั้นยังมีจานหนักๆ มาฝากท้องเช่นกันอย่าง Flank Steak (600 บาท) เนื้อสีข้างเสิร์ฟแบบมีเดียม หอมกลิ่นโรสแมรี รับประทานพร้อมหัวหอมผัด เอาใจคนรักรสจัดด้วยน้ำจิ้มแจ่วรสเผ็ดร้อน

 

แวะมาแถวสุรวงศ์คราวหน้า ลองโฉบเข้ามาจิบเครื่องดื่มดีๆ สักแก้ว รับบรรยากาศสบายๆ เรียบง่ายสบายตัวแบบไม่ชวนเคอะเขิน เหมือนกับเดินหลงเข้าไปในบาร์สักหัวมุมในบุชวิก บรูกลิน ฟังเพลงร็อกและคลาสสิกตำรับอเมริกัน เหมาะมานั่งชิลล์หลังเลิกงาน หรือนัดพบปะสมาคมกับเพื่อนๆ แบบไม่จำเป็นต้องแต่งตัวเยอะ

 

ป.ล. ด้านบนของร้านกำลังจะเปิดบาร์จิ๋วสำหรับ 22 ที่นั่ง ซึ่งเป็นอีกคอนเซปต์หนึ่งเร็วๆ นี้ด้วย

 

The 88 [ปิดกิจการแล้ว]

Open: เปิดวันจันทร์-เสาร์ เวลา 17.00-01.00 น.

Address: 88 ถนนสุรวงศ์ กรุงเทพฯ

Budget: เครื่องดื่มเริ่มต้นที่ 340 บาท

Contact: 08 7663 1365

Page: www.facebook.com/88Surawong

Map: 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising