วันนี้ (9 พฤศจิกายน) ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงประเด็นการถูกวิพากษ์วิจารณ์ระหว่างพักโทษชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ อย่างติดตลกว่า “ชั้น 14, 15, 16 และ 17 ไม่มีอะไรหรอก ไม่มีอะไรเลย จะหาเรื่องก็หาเรื่องกันไปเรื่อยๆ แล้วกัน ไม่เป็นไร คนจะหาเรื่อง ผมก็ไม่รู้จะพูดอะไรก็จบ”
ส่วนที่ พล.ต.อ. เสรีพิศุทธ์ เตมียเวส จะออกมาแฉและจะเป็นพยานว่าทักษิณไม่ป่วยจริงนั้น ทักษิณระบุว่า “อยากทำอะไร ทำเถิด”
เมื่อถามว่า ทักษิณถือเป็นหนึ่งในประเด็นที่ถูก ธีรยุทธ สุวรรณเกษร ไปยื่นร้องต่อศาลรัฐธรรมนูญนั้น ทักษิณกล่าวว่า “โอ๊ยนี่ เรารู้อยู่แต่ละคนมีวัตถุประสงค์อะไร ก็เฉยๆ เย็นไว้โยม แก่แล้ว”
ส่วนคำร้องที่ถูกยื่นยุบพรรคเพื่อไทย ทักษิณส่ายหน้าพร้อมกล่าวว่า ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล เราทำในสิ่งที่ถูกต้อง ตามกฎหมาย ประเพณีปฏิบัติ ไม่เห็นต้องสนใจอะไร เราก็ทำงานไป คนจะร้องก็ร้องไป
6 พรรคร่วมรัฐบาลมาบ้านจันทร์ส่องหล้า แค่กินมาม่า
เมื่อถามว่าพรรคร่วมรัฐบาลยังสามารถทำงานร่วมกันได้หรือไม่ ทักษิณระบุว่า ไม่เห็นมีอะไร เห็นเขาทำงานกันดี นายกรัฐมนตรีเรียกประชุมเรื่องพื้นที่อ้างสิทธิในไหล่ทวีปทับซ้อนกัน (Overlapping Claims Area: OCA) ก็ร่วมมือกันแล้วก็ออกมาแถลงการณ์ด้วยกัน ส่วนกรณีสัญญารถไฟฟ้า 3 สนามบินที่อาจกระทบกับสัมพันธ์พรรคร่วมรัฐบาล ยืนยันว่าไม่เห็นมีอะไรเลย
สำหรับคำร้องที่ 6 พรรคร่วมรัฐบาลเข้าบ้านจันทร์ส่องหล้า หลัง เศรษฐา ทวีสิน อดีตนายกรัฐมนตรีถูกสั่งให้พ้นจากตำแหน่งนั้น ทักษิณกล่าวว่า ไม่มีอะไรเลยในคืนที่พรรคร่วมรัฐบาลเข้าไปบ้านจันทร์ส่องหล้านั้น “ไปกินมาม่า มาม่าอร่อย”
ชมนายกฯ ทำงานดี มุ่งมั่น
เมื่อถามว่ามองกระแสที่มีต่อตัวนายกฯ อย่างไร หลังถูกโจมตีทั้งที่เพิ่งทำงานได้ไม่นาน ทักษิณกล่าวว่า อย่าเรียกว่ากระแสดีกว่า มันเป็นกลุ่มผู้คน ส่วนใหญ่ก็เป็นขาประจำ และมองว่าเป็นเรื่องธรรมดาที่ต้องถูกโจมตี ซึ่งนายกฯ เห็นแบบนี้มาตั้งแต่เด็กๆ
ผู้สื่อข่าวจึงถามย้ำว่า ตัวท่านเองกลายเป็นประเด็นให้นายกฯ ถูกโจมตีด้วย ทักษิณกล่าวว่า “ไม่เป็นไร แค่โจมตีผมคนเดียวดีกว่า ง่ายดี เพราะผมไม่ได้เป็นอะไร”
ทั้งนี้ ทักษิณยังประเมินการทำงานของนายกฯ ว่า ดี มุ่งมั่น แล้วก็รู้เรื่องราวของประเทศได้ดีมาก
เตรียมลงพื้นที่ช่วย ‘ศราวุธ’ ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี หาเสียง
ทักษิณยังกล่าวถึงการลงพื้นที่ช่วย ศราวุธ เพชรพนมพร ผู้สมัครนายก อบจ.อุดรธานี พรรคเพื่อไทย หาเสียงว่า จะเป็นการไปเยี่ยมประชาชนที่ไม่เคยลืมกันตลอด 17 ปีที่ผ่านมา โดยตนตั้งใจจะไปถามสารทุกข์สุกดิบทักทายกัน พร้อมกล่าวอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนว่า ในการปราศรัยไม่ได้ทำมานานแล้ว ไม่รู้จะทำได้หรือไม่ แต่จะไม่มีการปราศรัยโจมตีใคร มีแต่เพียงการทักทายเป็นห่วงเป็นใยประชาชนก็เท่านั้น ซึ่งตนมั่นใจว่าคนอุดรฯ ไม่เคยลืมพรรคเพื่อไทย และยังจำตนเองได้อยู่เป็นจำนวนมาก
ทั้งนี้ ไม่รู้ว่าจะสามารถปักธงชัยในสนามเลือกตั้งท้องถิ่นนายก อบจ.อุดรธานี ได้หรือไม่ แล้วแต่ประชาชนและผู้สมัครที่ได้ทำงานกับประชาชน
ส่วนการแข่งขันกับพรรคประชาชนที่มี พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ที่ปรึกษาประธานคณะก้าวหน้า ลงพื้นที่ช่วยหาเสียงฝ่ายตรงข้าม เป็นเรื่องธรรมดาของการแข่งขันทางการเมือง และเป็นความสวยงามของประชาธิปไตย โดยการลงพื้นที่หลังจากนี้ก็ต้องดูภารกิจในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดอีกครั้งหนึ่ง โดยตนจะพิจารณาว่าจะลงในพื้นที่ใด
ปม MOU 2544 สัมพันธ์ส่วนตัว-ประโยชน์ของประเทศเป็นคนละเรื่องกัน
ทักษิณยังกล่าวถึงกรณี MOU 2544 ที่มีการนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีรัฐบาลว่า ไม่เห็นมีอะไรให้ตื่นเต้นเลย
ส่วนที่มีการนำเรื่องดังกล่าวไปเชื่อมโยงกับความสัมพันธ์ของทักษิณกับประเทศกัมพูชานั้น ทักษิณกล่าวว่า “เป็นคนละเรื่องกัน ตอนที่ผมเป็นนายกฯ ตอนที่มีปัญหาเรื่องการบุกเผาสถานทูตไทยประจำกัมพูชา ตอนนั้นเป็นเพื่อนสนิทกันเลย แต่ถือว่าผลประโยชน์ประเทศมาก่อน โดยมีการคุยกันว่า ถ้าเอาไม่อยู่จะส่งเครื่องบินไปรับ ผมก็ส่งไปรับ ไม่เห็นมีอะไรเลย ผลประโยชน์ประเทศมาก่อน ความเป็นเพื่อนก็คือเพื่อน แต่ผลประโยชน์ของประเทศคือคนละเรื่องกัน”