×

‘ศิริกัญญา’ แนะทบทวนฝีมือบริหารเพื่อไทย ชี้งบปี 67 อ้างวิกฤต แต่จัดงบประมาณไม่สอดคล้อง หวั่นอนาคตรัฐผุดโครงการสูญรายได้เพิ่ม

โดย THE STANDARD TEAM
03.01.2024
  • LOADING...

วันนี้ (3 มกราคม) ศิริกัญญา ตันสกุล สส. บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรคก้าวไกล กล่าวอภิปรายร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2567 ว่า หากเราอยู่ในภาวะวิกฤตจริงๆ งบประมาณนี้จะเป็นตัวบอกว่าตอนนี้เราอยู่ในภาวะแบบใด และจะจัดสรรงบประมาณแบบใดเพื่อแก้วิกฤต ซึ่งหากดูรายงานภาวะเศรษฐกิจและการคลัง จะพบว่าเศรษฐกิจในปี 2566 จะโต 2.5% และปี 2567 จะโต 3.2% ดูอย่างไรก็ยังไม่วิกฤต แต่ในเล่มงบประมาณสำหรับประชาชนที่จัดทำโดยสำนักงบประมาณที่มีตัวเลข GDP ที่โต 5.4% นี่เป็นผลการเติบโตของ GDP ที่ไม่รวมผลของเงินเฟ้อ เท่ากับรัฐบาลกำลังโกงสูตรเพื่อให้ GDP โต ซึ่งไม่มีประเทศไหนในโลกทำมาก่อน 

 

ศิริกัญญากล่าวด้วยว่า ในปีที่เกิดวิกฤต เราจะทำงบประมาณขาดดุลเพิ่มขึ้นเพื่อให้เศรษฐกิจขยายตัวได้ เพราะต้องมีการกู้ชดเชยรายได้ที่หายไป และใช้เม็ดเงินในการกระตุ้นเศรษฐกิจ เมื่อดูงบขาดดุลปี 2567 และปีถัดไปจะพบว่าขาดดุลเท่ากันทุกปี เราจะเกิดวิกฤตต่อไปเรื่อยๆ จนถึงปี 2570 เลยหรือไม่ ทั้งที่พรรคเพื่อไทยเคยประกาศไว้ว่าจะทำงบประมาณให้สมดุลภายใน 7 ปี คือจะไม่กู้เลยสักปี 

 

ศิริกัญญากล่าวอีกว่า สิ่งที่เป็นโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจเรือธงของรัฐบาลคือดิจิทัลวอลเล็ต แพ็กเกจใหญ่ 5 แสนล้านบาท และเติมเงินกองทุนเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันอีก 1 แสนล้านบาท โดยนำเงินมาจาก 2 แหล่ง คือ พ.ร.บ.เงินกู้ 5 แสนล้านบาท และงบประมาณรายจ่ายอีก 1 แสนล้านบาท แต่งบดิจิทัลวอลเล็ตกลับไม่ปรากฏเลยสักบาท ส่วนกองทุนเพิ่มขีดความสามารถฯ กลับลดเหลือเพียง 1.5 หมื่นล้านบาทเท่านั้น เราจะยังเชื่ออะไรจากคำพูดของนายกรัฐมนตรีได้อีก ตนคิดว่าตอนนี้รัฐบาลกำลังฝากความหวังทั้งหมดไว้ที่ พ.ร.บ.เงินกู้ ฉบับนี้ ซึ่งมีความเสี่ยงสูงมากหากไม่สามารถออก พ.ร.บ. ได้ เท่ากับงบกระตุ้นเศรษฐกิจของเราจะกลายเป็นงบกระตุ้นเศรษฐกิจทิพย์ 

 

ศิริกัญญายังตั้งคำถามถึงบางโครงการ เช่น โครงการติดโซลาร์เซลล์ให้ที่ว่าการอำเภอ โครงการตัดถนนที่เกี่ยวข้องกับการท่องเที่ยว ว่ามีความวิกฤตเช่นไร เราจึงกระตุ้นเศรษฐกิจเช่นนี้ อย่างไรก็ตาม ทุกครั้งที่เกิดวิกฤตทางเศรษฐกิจ กระทรวงกลาโหมจะตัดลดงบของตนเองลงเพื่อนำไปพยุงเศรษฐกิจของประเทศ แต่วิกฤตของนายกรัฐมนตรีครั้งนี้ งบประมาณของกระทรวงกลาโหมกลับเพิ่มขึ้น 2% ยังมีมรดกที่รัฐบาลก่อนหน้าเป็นผู้ดาวน์ และรัฐบาลของเศรษฐาต้องผ่อนต่อ 2 ปีที่ผ่านมาถูกนำมาใช้เพื่อจ่ายในส่วนของรายจ่ายบุคลากร 

 

ในปี 2567 รัฐบาลปัจจุบันกำลังจะทำผิดพลาดซ้ำรอย รวมถึงซอฟต์พาวเวอร์​ 5 พันล้านบาท และค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสายที่ไม่ตั้งชดเชยไว้ ไม่มั่นใจว่าเป็นการสมรู้ร่วมคิดหรือไม่ พร้อมแสดงความกังวลถึงหนี้สาธารณะที่รัฐบาลบริหารงานมา 3 เดือน ใช้เต็มเพดานแล้ว ไม่รู้ว่าในอนาคตจะผุดโครงการอะไรที่ทำให้รายได้รัฐหายไปอีกหรือไม่ แม้ตนไม่มีปัญหากับสิ่งที่รัฐบาลทำ แต่รายได้หายไป 1 แสนล้านบาทแล้ว 

 

“สรุปแล้วร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ ดิฉันไม่เห็นอะไรนอกจากเป็นบทพิสูจน์ว่า รัฐบาลนี้ไม่สามารถทำงานได้อย่างเป็นมืออาชีพ นี่หรือคือรัฐบาลที่สืบทอดชื่อเสียงกันมาว่าเก่งด้านเศรษฐกิจ ขึ้นชื่อเรื่องหาเงินได้ ใช้เงินเป็น แต่กลับผิดพลาดในการบริหารงบประมาณมากขนาดนี้ ทั้งตั้งงบไว้ไม่เพียงพอ ทั้งจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ประมาณการรายได้ก็ผิดพลาดแบบไม่น่าให้อภัยและไม่คิดที่จะแก้ มุ่งแต่จะใช้กลไกนอกงบประมาณในการบริหารประเทศ ไม่สนใจภาระทางการคลัง และถึงเวลาที่ประชาชนคงต้องคิดใหม่กับฝีมือการบริหารราชการของพรรคเพื่อไทย” ศิริกัญญากล่าว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising