×

หุ้นไทย จะยังไม่เข้าสู่ขาขึ้นทันที แม้ก้าวไกลมาเบอร์หนึ่ง โบรกเตือนการปรับฐานวันนี้อาจยังไม่ใช่โอกาสซื้อ

15.05.2023
  • LOADING...
หุ้นไทย

การชนะการเลือกตั้งด้วยคะแนนเสียงมาเป็นอันดับ 1 ของพรรคก้าวไกล ถือเป็นผลลัพธ์ที่พลิกโผในระดับหนึ่ง และทำให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่มีแนวโน้มที่จะเปลี่ยนขั้วไปจากรัฐบาลเดิม 

 

จากการแถลงข่าวความคืบหน้าในการจัดตั้งรัฐบาลของพรรคก้าวไกล ล่าสุดพรรคก้าวไกลอยู่ระหว่างการเจรจากับอีก 5 พรรคการเมืองที่มีโอกาสจะร่วมกันจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ได้แก่ พรรคเพื่อไทย, พรรคประชาชาติ, พรรคไทยสร้างไทย, พรรคเสรีรวมไทย และพรรคเป็นธรรม รวมเป็น 309 เสียง จากจำนวนสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร (ส.ส.) ทั้งหมด 500 เสียงในสภา 

 

อย่างไรก็ตาม การตอบรับของตลาดหุ้นไทยวันนี้ (15 พฤษภาคม) หลังการเลือกตั้งที่เกิดขึ้นวานนี้ (14 พฤษภาคม) เรียกได้ว่าผันผวนอย่างมาก แม้ในช่วงแรกหลังเปิดตลาด ดัชนี SET จะพุ่งขึ้นไปแตะระดับ 1,570 จุด ซึ่งเพิ่มขึ้นเกือบ 10 จุดจากวันทำการก่อนหน้า แต่หลังจากนั้นเกิดแรงเทขายตามมาอย่างหนัก กดให้ดัชนี SET ดิ่งลงไปแตะ 1,541 จุด ติดลบไปมากถึง 20 จุด 

 

ภาดล วรรณรัตน์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า การที่พรรคก้าวไกลได้คะแนนอันดับ 1 อาจทำให้ตลาดตกใจ เพราะนโยบายหลักที่ไม่เอื้อกลุ่มทุน ลดการผูกขาด ทำให้เกิดแรงขายในหุ้นใหญ่หลายกลุ่ม เช่น โรงไฟฟ้า การสื่อสาร และการค้าปลีก ฯลฯ แต่จะเห็นว่าหุ้นกลุ่มธนาคารปรับตัวขึ้นได้ เพราะเงินน่าจะไหลจากกลุ่มอื่นมาพักที่กลุ่มนี้ ด้วยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจและช่วยเหลือกลุ่มคนรายได้น้อยที่ค่อนข้างแน่นอนว่าจะเกิดขึ้น

 

อย่างไรก็ตาม ด้วยคะแนนเสียงของพรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยที่ห่างกันไม่มากนัก ทำให้การดำเนินนโยบายต่างๆ อาจไม่แข็งกร้าวนัก ซึ่งต้องติดตามดูว่านโยบายต่างๆ จะกระทบอย่างไรบ้าง 

 

“ในมุมของหุ้นไทยเชื่อว่า Downside ในช่วง 2 สัปดาห์ข้างหน้าจะไม่มาก แต่จะขึ้นลงตามข่าวการเมืองรายวัน โดยนักลงทุนจะพิจารณาว่าใครจะได้ประโยชน์หรือเสียประโยชน์” 

 

ภาดลกล่าวต่อว่า “แต่กลับกัน SET จะยังไม่เป็นขาขึ้น เมื่อจบเรื่องการเลือกตั้ง หุ้นไทยจะยังเคลื่อนไหวตามเศรษฐกิจโลก ซึ่งยังมีความเสี่ยงเรื่อง Recession รออยู่ การเมืองไทยจะเป็นแค่เหตุการณ์หนึ่งระหว่างปีนี้” 

 

ด้าน ณัฐชาต เมฆมาสิน ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.ทรีนีตี้ เปิดเผยว่า ผลการเลือกตั้งที่ออกมาไม่ตรงกับ 3 กรณีที่เราคาดการณ์ไว้ว่าจะช่วยให้หุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อได้ 

 

  1. เกิดปรากฏการณ์แลนด์สไลด์หรือมีพรรคที่ได้คะแนนเสียงเกิน 300 เสียง
  2. พรรคก้าวไกลและพรรคเพื่อไทยมีคะแนนเสียงมากพอที่จะไม่ต้องพึ่งพิงเสียงจากสมาชิกวุฒิสภา 250 เสียง
  3. พรรคที่อยู่ขั้วตรงข้ามทางการเมืองมีคะแนนเสียงรวมกันเกินกึ่งหนึ่ง

 

“เมื่อไม่เกิดทั้ง 3 กรณีข้างต้น หากมองในแง่ร้ายจะทำให้การจัดตั้งรัฐบาลใหม่ยังไม่จบลงง่ายๆ ทำให้ความชัดเจนยังไม่เกิดขึ้นในระยะสั้น” 

 

ในเชิงกลยุทธ์ณัฐชาตกล่าวต่อว่า หากหุ้นไทยปรับตัวขึ้นต่อในสัปดาห์นี้ มองว่าเป็นโอกาสที่ดีในการขายหุ้นออกมาก่อนเพื่อลดความเสี่ยง เพราะจากสถิติในอดีตช่วงหนึ่งสัปดาห์หลังการเลือกตั้ง จะเป็นจุดสิ้นสุดช่วง Election Rally แต่ถ้าหุ้นจะปรับขึ้นต่อได้ต้องมีปรากฏการณ์แลนด์สไลด์

 

ในมุมของ Fund Flow เองก็เช่นกัน หากไม่ได้เกิดแลนด์สไลด์ มักจะเห็นการซื้อสุทธิแค่เพียงหนึ่งสัปดาห์หลังจากเลือกตั้ง สำหรับกรณีที่หุ้นจะเริ่มฟื้นตัวได้คือการจัดตั้งรัฐบาลโดยมีคะแนนเสียงเกินกว่า 375 เสียง จะเป็นภาพที่ดีที่สุด แต่อาจจะยังไม่เกิดขึ้นทันทีในสัปดาห์แรก

 

“การปรับฐานวันนี้ยังไม่ใช่โอกาสซื้อ โอกาสซื้อที่ดีที่สุดผ่านไปแล้วในช่วงก่อนการเลือกตั้ง ซึ่งตลาดขึ้นมาบนความคาดหวัง ก่อนจะมาสู่การ Sell on Fact ในสัปดาห์นี้” 

 

สำหรับโอกาสซื้อถัดไปอาจต้องรอให้ตลาดย่อยข่าวต่างๆ และรอให้เห็นผลกระทบจากความไม่แน่นอนหรือข่าวร้าย เพราะวันนี้ตลาดยังไม่ได้สะท้อนมุมมองเชิงลบใดๆ แต่เป็นลักษณะของการขายทำกำไรเพื่อลดความเสี่ยง

 

ทั้งนี้ พื้นฐานของดัชนี SET ปัจจุบันอยู่ที่ 1,520 จุด ซึ่งรวมผลกระทบจากการขึ้นดอกเบี้ยของแบงก์ชาติในสิ้นเดือนนี้ไปแล้ว ทำให้ SET มีความเสี่ยงที่จะปรับตัวลงมากกว่าขึ้น แต่หากดัชนีจะลดลงไปต่ำกว่า 1,510 จุด ต้องมีปัจจัยกดดันบางอย่างเข้ามาเพิ่ม 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising