×

ปานปรีย์ควงจักรพงษ์ เยี่ยมตัวประกันไทยหลังถูกปล่อยตัว เผยดีใจแทนครอบครัว ขอให้อายุยืนยาว 100 ปี ย้ำเร่งช่วยเหลือ 9 ตัวประกันที่ยังถูกจับอยู่

โดย THE STANDARD TEAM
03.12.2023
  • LOADING...

วันนี้ (3 ธันวาคม) ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์หลังการตรวจเยี่ยมหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ของกรมการกงสุล ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จังหวัดหนองบัวลำภู ถึงความคืบหน้าเรื่องการช่วยเหลือตัวประกันชาวไทยในประเทศอิสราเอลว่า ตอนนี้เราทำงานไม่หยุดหย่อนในการนำตัวประกันอีก 9 คนกลับมา และล่าสุดตนเองได้ติดต่อกับรัฐมนตรีในหลายประเทศที่เคยประสานกันไว้ เขาก็ดำเนินการเช่นเดิมเพื่อให้นำตัวประกันออกมาจากพื้นที่ฉนวนกาซา 

 

เหตุความรุนแรงในอิสราเอลยังไม่สงบ

ส่วนการขยายระยะเวลาในการหยุดยิงเพื่อปล่อยตัวประกันนั้น ตอนนี้ก็ยังยิงกันอยู่ ในช่วงที่ตนเดินทางกลับมาก็เริ่มยิงกัน ซึ่งตอนที่ตนเองไปที่ประเทศอิสราเอลยังพูดคุยกับทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟ ประเทศอิสราเอลว่า ที่ตนมาก็สงบ ไม่ต้องอยู่ในหลุมหลบภัย แต่หลังจากกลับมาก็ได้รับรายงานทันทีว่ายิงกันอีกแล้ว ซึ่งตรงนี้เรามีความเป็นห่วงและเป็นกังวลมาก หากยิงกันอยู่ก็คงยังไม่ปล่อยตัวประกันในเวลานี้ เนื่องจากว่าการเดินทางอาจไม่ปลอดภัย แต่ก็มีความหวังอย่างยิ่งว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นใหม่

 

ตรวจเยี่ยมครอบครัว ‘อนุชา’ ตัวประกันแรงงานไทย 

ขณะเดียวกัน ช่วงบ่ายของวันนี้ ปานปรีย์พร้อมด้วยคณะลงพื้นที่เยี่ยม อนุชา อ่างแก้ว ตัวประกันแรงงานไทยในอิสราเอลที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัว และเดินทางกลับมาประเทศไทย ณ บ้านดอนพิลา ตำบลปะโค อำเภอกุดจับ จังหวัดอุดรธานี 

 

โดยทันทีที่คณะเดินทางมาถึง​ ปานปรีย์​ได้สวมกอด​อนุชา​ ขณะที่พ่อของอนุชามอบมาลัยขอบคุณ พร้อมกล่าวว่า​ดีใจเป็นที่สุดที่ลูกชายปลอดภัย​และเดินทางกลับ​ จากนั้น ปานปรีย์และคณะได้ผูกแขนรับขวัญ​ ซึ่งถือเป็นประเพณีของชาวอีสาน

 

ดีใจแทนครอบครัว หากต้องการความช่วยเหลือขอให้บอก​ 

ปานปรีย์กล่าวว่า​รู้สึกดีใจที่ได้มาพบ วันนี้ก็เป็นอีกวันหนึ่งที่ได้พบกันรู้สึกดีใจ และจะมาดูว่ากลับมาบ้านแล้วมาอยู่บ้านจริงหรือไม่ ซึ่งก็ได้พบกับครอบครัว ได้เห็นภรรยา ได้เห็นหน้าลูกสาว และพ่อแม่พี่น้องญาติพี่น้อง ตนก็รู้สึกดีใจแทน 

 

ทั้งนี้ วันนี้เป็นวันตรงกับคณะรัฐมนตรีเดินทางมาประชุม ครม. สัญจร ที่จังหวัดหนองบัวลำภู​ และทราบว่าพักอยู่ที่นี่ ตนจึงถือโอกาสมาเยี่ยมเยียน แล้วจะมาสอบถามว่ามีอะไรที่อยากให้ทางกระทรวงการต่างประเทศหรือหน่วยงานใดๆ จะให้ความช่วยเหลือในเรื่องที่ยังขาดแคลนอยู่ 

 

รอดชีวิตมาได้ถือว่าพระคุ้มครอง ขอให้อายุยืนยาวถึง 100 ปี  

“ผมคิดว่าอนุชาคงสบายใจดีขึ้น หลังจากที่ก่อนหน้านี้ขนมปังต้องแบ่งกัน​ บางรายขนมปังต้องแบ่งกันคนละครึ่ง​ น้ำขวดหนึ่งแบ่งกัน 3 ราย ถือว่าพระคุ้มครอง และทำให้รอดชีวิตกลับมาได้ จนคิดว่าจากนี้ไปใครจะทำอะไรลำบาก เพราะรอดตรงนี้มาแล้วมีชีวิตที่ยืนยาวอาจไปถึง 100 ปี ผมขออวยพรให้โชคดี” ปานปรีย์กล่าว 

 

พ่อของ ‘อนุชา’ กล่าวขอบคุณทั้งน้ำตา 

ขณะที่พ่อของอนุชาได้กล่าวทั้งน้ำตาว่า ขอขอบคุณทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ที่มาให้กำลังใจ ถ้าไม่มีหน่วยงานต่างๆ เข้ามาช่วยเหลือ อาจจะไม่มีวันนี้ก็ได้ วันนี้ดีใจมากไม่คิดว่าจะได้มีวันนี้​ พร้อมขอบคุณทุกหน่วยงานราชการที่เข้ามาให้การช่วยเหลือ

 

ส่วนภรรยาของอนุชาได้กล่าวขอบคุณไปยังนายกรัฐมนตรี วันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา รวมถึง สส. ในพื้นที่ที่ช่วยประสานงานอย่างใกล้ชิด ให้เป็นไปอย่างราบรื่นและดีมาก ถ้าไม่มีตัวแทนที่เป็นผู้นำในพื้นที่ชี้ทางให้ก็คงไม่มีวันนี้​ 

 

ย้ำเป็นห่วง 9 ตัวประกันแรงงานไทยที่ยังถูกจับอยู่

โดยหลังจากที่ปานปรีย์​และจักรพงษ์เยี่ยมให้กำลังใจอนุชา​และครอบครัวแล้วเสร็จ​ จะเดินทางไปเยี่ยมให้กำลังใจครอบครัว มาโนช แสงทอง​ แรงงานไทยที่ได้รับบาดเจ็บ​ และยังรักษาตัวอยู่ที่อยู่ที่ประเทศอิสราเอล ที่บ้านเชียงยืน​ อำเภอเมือง​อุดรธานี จังหวัดอุดรธานี​  

 

ปานปรีย์​กล่าวย้ำว่า ยังคงเป็นห่วง 9 ตัวประกันแรงงานไทยที่ถูกจับเป็นตัวประกัน​ จะดำเนินการให้ได้เดินทางกลับไทยโดยเร็ว

 

เผย กต. เตรียมประชุมประเมินสถานการณ์สู้รบในเมียนมาพรุ่งนี้ 

นอกจากนี้ ปานปรีย์กล่าวถึงสถานการณ์สู้รบในเมียนมาที่มีการประเมินว่าจะมีความรุนแรงมากขึ้น และการเตรียมพร้อมกรณีมีผู้อพยพลี้ภัยสงครามเข้ามายังประเทศไทยจำนวนหลายหมื่นคนว่า ขณะนี้เรากำลังเฝ้าติดตามและกระทรวงการต่างประเทศจะมีการประชุมเรื่องนี้เป็นการภายในวันพรุ่งนี้ (4 ธันวาคม) ซึ่งทางฝ่ายความมั่นคงก็จะมาร่วมประชุมด้วย 

 

โดยเราได้ประเมินสถานการณ์เวลานี้ยังไม่ถึงขั้นมีผู้อพยพออกมา แต่จากนี้ไปถ้ามีความรุนแรงเพิ่มขึ้นก็มีความเป็นไปได้ที่ผู้อพยพจะกระจายออกมาทุกทางไม่ใช่เฉพาะในประเทศไทยอย่างเดียว เรื่องนี้กำลังพิจารณาอยู่ว่าเราจะทำอย่างไรให้สถานการณ์ในเมียนมาไม่มีความรุนแรงและหันมาเจรจากัน

 

สั่งเตรียมค่ายผู้อพยพลี้ภัยแล้ว

เมื่อถามว่าได้ประเมินหรือไม่ว่าการสู้รบในเมียนมาจะกลายเป็น Proxy War หลังสหประชาชาติออกมาระบุว่ามีการส่งอาวุธเข้าไปอย่างเช่นประเทศสิงคโปร์ที่สนับสนุนกลุ่มกองกำลัง ปานปรีย์ระบุว่า เรื่องนี้ตนยังไม่ได้รับรายงานว่ามี Proxy War ขณะนี้ที่เราได้รับรายงานก็มีกลุ่มชนต่างๆ ที่มีการสู้รบกัน รวมถึงฝ่ายรัฐบาลเมียนมาด้วย ตอนนี้เรากำลังเฝ้าดูอยู่ พยายามให้มีการเจรจาและการหยุดยิงโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้ รัฐบาลมีการเตรียมความพร้อมค่ายผู้อพยพลี้ภัยสงครามไว้แล้ว

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising