Tencent จ่อปรับกลยุทธ์การลงทุน ตั้งเป้าเข้าเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ในบริษัทเกมต่างประเทศเป็นหลัก หวังสร้างฟันเฟืองการเติบโตครั้งใหม่เพื่อสู้ศึกกับการชะลอตัวของเศรษฐกิจในประเทศ หลังจากที่สูญเสียมูลค่าบริษัทไป 6.23 แสนล้านดอลลาร์ จากแรงกดดันภายในประเทศ ทั้งเรื่องการยกเครื่องกฎระเบียบ และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
Tencent สูญเสียตำแหน่งบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในจีนให้แก่ Kweichow Moutai ซึ่งเป็นผู้ผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ไปแล้ว หลังจากมูลค่าบริษัทของ Tencent หายไปราว 6.23 แสนล้านดอลลาร์เทียบกับจุดพีค ซึ่งสะท้อนภาพผลกระทบจากการยกระดับความเข้มข้นเชิงกฎระเบียบและการกำกับดูแลอุตสาหกรรมเทคโนโลยีของจีนได้เป็นอย่างดี
ข่าวที่เกี่ยวข้อง:
- เศรษฐกิจโลก กำลังเข้าสู่ภาวะถดถอย แต่มี 7 ปัจจัย ที่รอบนี้แตกต่างจากวิกฤตการเงินปี 2008
- ภาวะ เศรษฐกิจถดถอย อาจอยู่ใกล้กว่าที่คิด เปิดกลยุทธ์รับมือเน้น Predict-Prepare-Perform
- นักเศรษฐศาสตร์ฟันธง เงินเฟ้อ ทั่วโลกผ่านจุดพีค แต่จะไม่กลับไปต่ำเท่ากับช่วงก่อนโควิด
โดยราคาหุ้นของ Tencent ซึ่งเป็นผู้ผลิตเกมออนไลน์ ร่วงลง 64% ตั้งแต่จุดสูงสุดในเดือนมกราคม 2021 หรือคิดเป็นมูลค่าบริษัทที่หายไปราว 6.23 แสนล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นการปรับลดลงมากกว่าบริษัทอื่นๆ ทั่วทั้งโลก ปัจจัยหลักที่กดดันมูลค่าของ Tencent ก็คือความกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ หลังจากการปราบปรามด้านกฎระเบียบของทางการจีนที่กดดันทั้งอุตสาหกรรมมาตลอด 2 ปี
ย้อนไปเมื่อต้นปี 2021 Tencent เป็นบริษัทที่กำลังมาแรง และกำลังก้าวขึ้นเป็นบริษัทที่มีมูลค่า 2 ล้านล้านดอลลาร์ของเอเชีย การสะดุดครั้งใหญ่ของบิ๊กเทครายนี้ สะท้อนให้เห็นถึงความเสี่ยงมากมายที่ภาคส่วนนี้ต้องเผชิญ ทั้งการยกระดับกฎเกณฑ์ต่างๆ และการชะลอตัวทางเศรษฐกิจ
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา Tencent Holding ลงทุนในธุรกิจที่กำลังเติบโตหลายร้อยแห่ง ส่วนใหญ่อยู่ในตลาดในประเทศ โดยทั่วไปแล้ว Tencent จะเป็นผู้ถือหุ้นรายเล็ก หรือไม่ก็ลงทุนในฐานะนักลงทุน Passive
อย่างไรก็ตาม แหล่งข่าวผู้ใกล้ชิดกับสำนักข่าว Reuters ระบุว่า ตอนนี้ Tencent กำลังพยายามอย่างจริงจังที่จะเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ รวมถึงกำลังพยายามขยายการลงทุนไปสู่ธุรกิจต่างประเทศมากขึ้น โดยเฉพาะอย่างยิ่งธุรกิจเกมในยุโรป
การเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นจากการที่บริษัทเกมอันดับหนึ่งของโลกในด้านรายได้อย่าง Tencent กำลังพึ่งพาตลาดโลกสำหรับการเติบโตในอนาคต ซึ่งต้องใช้พอร์ตโฟลิโอที่แข็งแกร่งของเกมบนชาร์ตเป็นปัจจัยหนุน
กลยุทธ์ใหม่ของ Tencent บ่งชี้ว่ายักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีของจีนกำลังมองหาทางออกหรือทางรอดจากการเข้มกฎระเบียบด้านธุรกิจเทคโนโลยีของทางการ ซึ่งกดดันทั้งอุตสาหกรรมมาตลอด 2 ปี รวมถึงเพื่อบริหารจัดการความเสี่ยงต่างๆ ในประเทศ ไม่ว่าจะเป็นยอดขายที่ปรับลดลงตามกำลังซื้อในประเทศที่ซบเซา รวมถึงมูลค่าบริษัทที่ลดลงจากการปรับตัวของตลาดหุ้นจีน
นอกเหนือจากธุรกิจเกมหลักแล้ว Tencent ยังมองหาการลงทุนในสินทรัพย์ระดับโลกโดยเฉพาะอย่างยิ่งในยุโรป ที่เกี่ยวข้องกับ Metaverse อีกด้วย
ด้าน Tencent กล่าวกับ Reuters ว่า บริษัทได้ลงทุนในต่างประเทศมาเป็นเวลานานแล้ว ก่อนที่จะมีการปรับปรุงกฎระเบียบโดยทางการจีนด้วยซ้ำ โดยบริษัทมองหากิจการที่มีนวัตกรรม พร้อมทีมผู้บริหารที่มีความสามารถ และเปิดโอกาสให้กิจการนั้นๆ เติบโตอย่างอิสระมาโดยตลอด
ขณะที่แหล่งข่าวอีก 3 คนให้ข้อมูลในทิศทางเดียวกันว่า การที่ Tencent ต้องการขยับชั้นเป็นผู้ลงทุนที่ถือหุ้นรายใหญ่นั้น เกิดขึ้นในขณะที่ยักษ์ใหญ่ด้านเทคโนโลยีอื่นๆ เช่น Microsoft, Sony และ Amazon กำลังแย่งชิงทรัพย์สินเกมและทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวข้อง
หลักฐานอีกอย่างที่ยืนยันเรื่องนี้ได้ก็คือคำกล่าวของ เจมส์ มิตเชลล์ ซึ่งเป็นหัวหน้าเจ้าหน้าที่ฝ่ายกลยุทธ์ของ Tencent โดย Mitchell กล่าวภายหลังการประกาศผลประกอบการเมื่อเดือนสิงหาคมว่า Tencent กำลังเดินหน้าแผนเข้าซื้อสตูดิโอเกมใหม่ในต่างประเทศ
“ในแง่ของธุรกิจเกม กลยุทธ์ของเรามุ่งเน้นพัฒนาความสามารถโดยเฉพาะในตลาดต่างประเทศ เราจะยังคงดำเนินการอย่างเต็มที่ในแง่ของการซื้อสตูดิโอเกมใหม่นอกประเทศจีน” มิตเชลล์กล่าว
หวังสร้างฟันเฟืองใหม่สร้างการเติบโต
การมุ่งเน้นที่เพิ่มขึ้นของ Tencent เกี่ยวกับสินทรัพย์และตลาดในต่างประเทศนั้นตรงกันข้ามอย่างมากกับดำเนินธุรกิจภายในประเทศจีนที่ค่อนข้างช้า เนื่องจากการบังคับใช้กฎระเบียบที่เข้มงวดขึ้น และการขายเงินลงทุนของบริษัทในประเทศจำนวนมาก
โดยจากปี 2015-2020 Tencent ลงทุนในจีนราว 150 ดีล คิดเป็นมูลค่า 7.5 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่ลงทุนในต่างประเทศราว 102 ดีล คิดเป็นมูลค่า 3.3 หมื่นล้านดอลลาร์
สำหรับปี 2022 Tencent แทบจะไม่มีการลงทุนในประเทศจีนเลย แต่มีการลงทุนในต่างประเทศมากถึง 27 ดีล คิดเป็นมูลค่า 3 พันล้านดอลลารร์
ทั้งนี้ ในเดือนสิงหาคม Tencent รายงานผลประกอบการล่าสุด ซึ่งรายได้ปรับลดลงเป็นไตรมาสแรก เนื่องจากได้รับผลกระทบจากการได้รับการอนุมัติเกมที่ล่าช้า และกฎระเบียบที่จำกัดเวลาในการเล่น โดยรายได้จากเกมออนไลน์ลดลงทั้งในประเทศและต่างประเทศ 1%
ในด้านมูลค่าหุ้น มาร์เก็ตแคปของ Tencent ในฮ่องกงได้ทรุดตัวลง 60% ในช่วง 2 ปีที่ผ่านมา
“เราเชื่อว่า Tencent จะยังคงลงทุนอย่างสมเหตุสมผลเพื่อครอบครองเกมที่มีเนื้อหาที่มีคุณภาพ และจะสร้างความร่วมมือกับสตูดิโอชั้นนำทั่วโลกอย่างลึกซึ้ง เพื่อที่จะเพิ่มการลงทุนและสร้างจุดยืนให้ตลาดต่างประเทศ” นักวิเคราะห์ของ Citi กล่าวในรายงานเมื่อต้นเดือนกันยายน
ทั้งนี้ ณ เดือนกันยายน Tencent ได้บรรลุข้อตกลงในการเพิ่มสัดส่วนการถือหุ้นใน Ubisoft ซึ่งทำให้ Tencent ก้าวขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ที่สุดรายเดียวของบริษัทผู้พัฒนาเกมชั้นนำสัญชาติฝรั่งเศส ด้วยสัดส่วนการถือหุ้น 11% และมีเพดานการเข้าถือหุ้นเพิ่มได้อีกมากถึง 17%
ฮับเกมออนไลน์ ยังเป็นเป้าหมายระยะยาว
ข้อตกลงของ Ubisoft นั้นเกิดขึ้นหลังจากที่ Tencent เข้าซื้อกิจการ SYBO Games ซึ่งป็นผู้พัฒนาเกมมือถือยอดนิยมชื่อว่า Subway Surfers ในเดือนมิถุนายน และการเข้าถือหุ้น FromSoftware ผู้พัฒนา Elden Ring ของญี่ปุ่นในเดือนสิงหาคม ด้วยสัดส่วนถือหุ้น 16.25%
และในปี 2021 Tencent กล่าวว่าจะเข้าถือหุ้น Sumo ซึ่งเป็นผู้พัฒนาวิดีโอเกมชาวอังกฤษในข้อตกลงมูลค่า 1.3 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งเป็นหนึ่งในธุรกรรมต่างประเทศที่ใหญ่ที่สุดนับตั้งแต่ประกาศยกระดับด้านกฎระเบียบของทางการจีนในปลายปี 2020
สำหรับดีลในยุโรป Tencent ใช้นโยบายเป็นผู้ถือหุ้นรายเล็กตลอดหลายปีที่ผ่านมา ซึ่งรวมถึงการซื้อ Frontier Developments บริษัทเกมสัญชาติอังกฤษที่ Tencent ถือหุ้นเพียง 9% จะยกเว้นแต่การเข้าเป็นผู้ถือหุ้นรายใหญ่ใน Supercell ผู้ผลิตเกมมือถือ Clash of Clans ในราคา 8.6 พันล้านดอลลาร์ในปี 2016 เท่านั้น
แหล่งข่าวที่ใกล้ชิดกับ Reuters ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการลงทุนในภูมิภาคอื่นๆ Tencent ยังพยายามที่จะเพิ่มการสัดส่วนการลงทุน รวมทั้งกำลังขยายการลงทุนเข้าสู่เอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เนื่องจากเห็นว่าภูมิภาคซึ่งมีประชากร 650 ล้านคนนี้ มีศักยภาพมากพอที่จะสร้างอาณาจักรเกมออนไลน์ให้เฟื่องฟูได้
ทั้งนี้ Tencent ซึ่งเป็นบริษัทเครือข่ายโซเชียลที่ใหญ่ที่สุดของจีน มีสำนักงานใหญ่สำหรับเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อยู่ที่สิงคโปร์ และตั้งแต่ปีที่แล้ว Tencent ได้เน้นย้ำซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่ามีเป้าหมายที่จะมีรายได้จากธุรกิจเกมในต่างประเทศเพิ่มเป็น 50% จากเดิมที่ประมาณ 25%
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-09-30/tencent-loses-crown-in-world-s-biggest-stock-wipeout-tech-watch?srnd=premium-asia&sref=CVqPBMVg
- https://www.reuters.com/markets/deals/tencent-shifts-focus-majority-deals-overseas-gaming-assets-growth-sources-2022-10-01/
ช่องทางติดตาม THE STANDARD WEALTH
- Twitter: twitter.com/standard_wealth
- Instagram: instagram.com/thestandardwealth
- Official Line คลิก https://lin.ee/xfPbXUP