ยังคงเดินหน้าสร้างสถิติอย่างต่อเนื่องสำหรับ Red (Taylor’s Version) ที่ถูกปล่อยออกมาเมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน ซึ่งล่าสุดได้กลายเป็นอัลบั้มลำดับ 10 ของ Taylor Swift (เทย์เลอร์ สวิฟต์) ที่สามารถขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Billboard 200 ได้ และด้วยความสำเร็จนี้ก็ทำให้เธอกลายเป็นศิลปินหญิงคนที่ 2 ผู้มีอัลบั้มอันดับ 1 ชาร์ต Billboard 200 ถึง 10 ชุด ต่อจาก Barbra Streisand ที่มี 11 ชุด
ก็ถือว่าไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจอะไร เพราะทันทีที่ Taylor Swift ประกาศว่าจะปล่อยอัลบั้ม Red (Taylor’s Version) ออกมา หลายฝ่ายก็คาดการณ์ว่าจะต้องได้กระแสตอบรับที่ดีมากแน่ๆ โดยล่าสุดทางบริษัทจัดเก็บข้อมูลด้านดนตรี MRC Data ก็เปิดเผยว่าสามารถทำยอดขายในสัปดาห์แรกได้ถึง 605,000 ยูนิต (ยอดขายอัลบั้ม, เพลง, สตรีมมิงรวมกัน)
นอกจากนี้ยังสร้างและทำลายสถิติอื่นๆ อีกมาย ทั้งเป็นอัลบั้มที่สามารถทำยอดขายสัปดาห์แรกสูงสุดในปี 2021 ด้วยยอด 369,000 ก๊อปปี้, อัลบั้มที่ทำยอดขายไวนิลสูงสุดในสัปดาห์เดียวด้วยยอด 114,000 แผ่น, อัลบั้มจากศิลปินหญิงที่ถูกสตรีมมากสุดใน 1 วัน ด้วยยอด 90.6 ล้านครั้ง, อัลบั้มที่ทำให้ Taylor Swift กลายเป็นศิลปินเดี่ยวที่มีอัลบั้ม 4 ชุด ติดอันดับ 1 ชาร์ต Billboard 200 เร็วที่สุดภายในเวลา 16 เดือน นับตั้งแต่อัลบั้ม Folklore ถูกปล่อยออกมาเมื่อเดือนกรกฎาคมปี 2020 ฯลฯ
ส่วนสาเหตุที่ทำให้อัลบั้ม Red (Taylor’s Version) เปิดตัวแรงนั้น คาดว่ามาจากหลายปัจจัย ตั้งแต่พลังสนับสนุนอันล้นพ้นจากแฟนๆ ทั่วโลก ความยอดเยี่ยมของบทเพลงในอัลบั้มทั้งเพลงเก่าและหลายเพลงใหม่ที่ถูกเพิ่มเข้ามา ไปจนถึงการโปรโมตอันชาญฉลาด เช่น การที่ Taylor Swift เลือกตัดซิงเกิลสุดเพราะอย่าง All Too Well มาทำเป็นหนังสั้นความยาว 15 นาที ซึ่งเธอลงมือกำกับเอง หรือการที่เธอไปจับมือเป็นพาร์ตเนอร์กับ Starbucks ให้แบรนด์กาแฟยักษ์ใหญ่โปรโมตเครื่องดื่มเมนูโปรดของเธออย่าง Caramel Nonfat Latte พร้อมเล่นเพลงของเธอในร้าน และที่เก๋สุดคือถ้าใครอยากดื่มเครื่องดื่มโปรดของ Taylor Swift ก็สามารถเดินเข้าไปสั่งได้ว่า เอากาแฟ Taylor’s Latte หรือกาแฟแบบ Taylor’s Version
ภาพ: Taylor Swift
อ้างอิง:
