“เรื่องเริ่มต้นเพราะผมชอบกินครัวซองต์จิ้มช็อกโกแลตร้อน”
Katie Chocolaterie เป็นร้านช็อกโกแลตเจ้าของเดียวกับร้าน Kenn’s Coffee & Croissant เป็นร้านที่อยากนำเสนอวัฒนธรรมการกินช็อกโกแลตแบบต่างประเทศที่ให้ทุกคนได้กินอย่างเลอะเทอะให้เต็มที่ และไอเดียนี้เริ่มต้นมาจากการที่เจ้าของร้านนั้นชอบดื่มช็อกโกแลตร้อนและจิ้มครัวซองต์ลงไป ก่อนที่จะยกช็อกโกแลตร้อนดื่มตามเข้าไป อยากให้ลูกค้าร้าน Kenn’s Coffee & Croissant ได้ลองการจับคู่กันที่แสนลงตัวระหว่างครัวซองต์กับช็อกโกแลตร้อน
เมื่อ Kenn’s Coffee & Croissant กำลังจะมีเพื่อนบ้านคนใหม่ ก็เลยกลายมาเป็น Katie Chocolaterie ร้านช็อกโกแลตที่มีโลโก้เป็นรูปเม่นสาวน้อยใส่กระโปรงคู่กับเม่นหนุ่มน้อยของ Kenn’s Coffee & Croissant
บรรยากาศร้าน
Katie Chocolaterie นั้นอยากนำเสนอเมนูง่ายๆ จากช็อกโกแลตที่เป็นอาหารคอมฟอร์ตของใครหลายคน กินได้ทุกวัน ซื้อใส่แก้วเดินไปกินไปได้ และกินอย่างไรก็ได้ให้เลอะเทอะที่สุด เพราะอาหารที่กินแล้วเลอะเทอะมักจะเป็นอาหารคอมฟอร์ตใจที่สุด ทางร้านจึงมีเมนูเครื่องดื่มจากช็อกโกแลตที่เป็นเมนูซิกเนเจอร์ 5 เมนูด้วยกัน ทุกเมนูล้วนเข้มข้นและเหนียวหนืดสมใจคนรักช็อกโกแลต
The Hedgehog (245 บาท)
The Hedgehog (245 บาท)
เริ่มที่เมนูหน้าตาอลังการเมนูนี้ The Hedgehog (245 บาท) เมนูซิกเนเจอร์ของร้านที่คิดค้นขึ้นมาเป็นเมนูแรกจากโลโก้รูปเม่นที่หน้าร้าน บนโจทย์ที่ว่าอะไรจะเป็นตัวแทนของเม่นได้ และสุดท้ายก็ออกมาในรูปแบบเครื่องดื่มร้อนที่ใช้ดาร์กช็อกโกแลตจากอเมริกาใต้ ที่รสชาติออกไปทางนัตตี้และขมเล็กน้อย เพิ่มความหนืดด้วยช็อกโกแลตมูส ประดับด้านบนด้วยช็อกโกแลตบาร์ที่ทำเป็นรูปร่างหนามเม่น ราดด้วยซอสช็อกโกแลต เมนูนี้ดูแล้วยังไงก็ต้องกินยากแน่นอน แต่เป้าหมายของทางร้านคืออยากให้ทุกคนได้เลอะและสนุกไปกับมัน ดังนั้นกินให้เลอะที่สุดเท่าที่คุณทำได้เลย ทางร้านเล่าให้ฟังอย่างน่ารักว่าบางคนก็กัดลงไปเลย บางคนก็รวบช็อกโกแลตทั้งหมดแล้วค่อยกัด บางคนก็ดึงออกมาทีละชิ้น เป็นความสนุกอย่างหนึ่งที่ได้เห็นผู้คนสร้างสรรค์วิธีการกินเมนูนี้
Spicy Katie (265 บาท)
Spicy Katie (265 บาท)
เมนูที่มีความเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเล็กน้อยอย่าง Spicy Katie (265 บาท) เมนูเผ็ดร้อนที่ซ่อนกิมมิกไว้มากมาก เป็นเมนูจากค็อกเทลแก้วโปรดที่เจ้าของร้านมักจะสั่งเสมอ คือมาร์การิต้าที่มีพริกอยู่รอบปากแก้ว เลยลองเอามาทำในรูปแบบของช็อกโกแลตดูบ้าง ทางร้านเลือกใช้ช็อกโกแลตจากเชียงใหม่ หรือ Kad Kakao ที่รสชาติออกเปรี้ยวปลายและสดชื่น ทำขอบแก้วด้วยช็อกโกแลตและผงพริก ก่อนจะรินวิสกี้ลงไปและจุดไฟให้ลุกโชน ตกแต่งให้มีความน่ารักด้วยพริกแห้งชุบช็อกโกแลต แก้วนี้จะได้ทั้งรสชาติของช็อกโกแลต เหล้า และเผ็ดร้อนด้วยผงพริก
Mellow Marshmallow (245 บาท)
สำหรับคนที่ชอบมาร์ชเมลโลว์ย่างไฟ ต้องสั่งเมนู Mellow Marshmallow (245 บาท) ที่รวบรวมความหวานสำหรับวันที่อยากตามใจตัวเอง แก้วนี้ทำมาจากคาราเมลช็อกโกแลตเบลนด์ ใส่จานดูย่า หรือช็อกโกแลตสเปรดที่มีส่วนผสมของเฮเซลนัตที่ทางร้านก็ทำเองเช่นกัน เพิ่มมาร์ชเมลโลว์ชิ้นใหญ่ที่ทางร้านทำสดใหม่ทุกเช้าก่อนที่จะทอร์ชด้วยไฟให้มีกลิ่นไหม้ของมาร์ชเมลโลว์ที่หลายคนรัก เมื่อกินพร้อมกันแล้วเข้ากันได้ดี
Sassy Katie (265 บาท)
Sassy Katie (265 บาท)
เชื่อว่าต้องมีคนที่ชอบกินช็อกโกแลตกับผลไม้ และถ้าคุณเป็นคนนั้น ก็อยากให้ลอง Sassy Katie (265 บาท) เมนูสีสวยของทางร้านที่เติมความสดชื่นให้ช็อกโกแลตด้วยซอสราสป์เบอร์รีทำเองหลังจากที่ทางร้านทดลองกับผลไม้หลากชนิดว่าอะไรจะเข้ากันได้ดีที่สุด ก็ได้คำตอบเป็นราสป์เบอร์รีนี่แหละ เมนูนี้ทางร้านเลือกใช้มิล์กช็อกโกแลตจากมาดากัสการ์มาใส่เยลลีเคี้ยวหนึบรสชาติเปรี้ยวหวาน ตามด้วยซอสราสป์เบอร์รีที่เป็นเหมือนตัวละครหลักของแก้วนี้ พร้อมกับช็อกโกแลตบาร์ฝานเป็นก้อนหนา แนะนำให้หยิบขึ้นมากัดแล้วดื่มช็อกโกแลตในแก้วตามไปด้วย จะได้รสชาติที่ครบถ้วน
Truffle Hazelnut Brownie (275 บาท)
Truffle Hazelnut Brownie (275 บาท)
Pecan Fudge Brownie (175 บาท) และ Double Chocolate Canale (95 บาท)
ในส่วนของเมนูขนมนั้นทางร้านก็ตั้งใจทำไม่แพ้กับเมนูเครื่องดื่ม ขนมทุกชิ้นของทางร้านนั้นถูกออกแบบสูตรมาเป็นอย่างดีให้เป็นขนมจากช็อกโกแลตที่กินแล้วอยากกินอีกเป็นชิ้นที่สอง
เริ่มที่ขนมที่โดดเด่นที่สุดอย่าง Truffle Hazelnut Brownie (275 บาท) บราวนีเนื้อหนึบที่เพิ่มความพิเศษด้วยแบล็กทรัฟเฟิลที่เมื่อสั่งแล้วทางร้านจะสไลซ์ให้สดๆ เลย เมื่อรสชาติหวานมาเจอกับความหอมของเฮเซลนัตและกลิ่นที่เป็นเอกลักษณ์ของทรัฟเฟิล ทำให้บราวนีชิ้นนี้เป็นบราวนีที่พิเศษขึ้นมาได้เลย และนอกจากนี้ยังมี Pecan Fudge Brownie (175 บาท) บราวนีกับเท็กซ์เจอร์กรอบมันจากถั่วพีแคนที่คอนทราสต์กันแต่ก็ลงตัว หรือจะเป็น Double Chocolate Canale (95 บาท) คานาเล่ที่รวบรวมรสชาติของช็อกโกแลตไว้แบบเต็มเปี่ยมที่คนรักคานาเล่ควรต้องลองของที่ร้านสักครั้ง
Raspberry Tiger Cake (240 บาท) และ Yuzu Orange Tiger Cake (240 บาท)
มาดูกันที่เมนูสีสดใสน่ารักอย่าง Raspberry Tiger Cake (240 บาท) และ Yuzu Orange Tiger Cake (240 บาท) กันบ้าง เจ้าก้อนน่ารักเหล่านี้คือเค้กสีสดใสที่สอดไส้ด้วยช็อกโกแลต ภายใต้หน้าตาอ้วนกลมของเจ้าเค้กนี้ ข้างในเค้กนั้นถูกแบ่งเป็นชั้นและใส่ซอสผลไม้เข้าใส่ไปทีละชั้น ก่อนจะเคลือบด้วยผลไม้อีกทีหนึ่ง และโรยด้วยข้าวพองด้านบนเพิ่มความน่ารักและความกรุบกรอบ
Oatmeal Marshmallows Cookie (135 บาท)
Oatmeal Marshmallows Cookie (135 บาท)
ส่วนคุกกี้ของทางร้านก็มีให้เลือกหลากหลายที่เอาใจคนรักทั้งเนยถั่ว ช็อกโกแลต และมาร์ชเมลโลว์ด้วย Peanut Butter Caramel Cookie (135 บาท) คุกกี้เนยถั่วและคาราเมลที่น่าจะเข้ากับเมนูช็อกโกแลตได้ดี หรือจะเข้มข้นกันให้สุดกับ Double Chocolate Chips Cookie (155 บาท) ส่วนใครที่ติดใจมาร์ชเมลโลว์ทำเองของทางร้านก็เลือกเป็น Oatmeal Marshmallows Cookie (135 บาท) ได้เลย
Chocolate Sable Breton (155 บาท) และ Sable Breton (135 บาท)
ด้วยคุกกี้ของทางร้านที่มีหลากหลายแบบให้เลือก แต่ว่าคุกกี้ของทางร้านนั้นค่อนข้างหนึบหนับ จึงมีขนมเท็กซ์เจอร์กรอบๆ ร่วนๆ อย่าง Sable Breton (135 บาท) และ Chocolate Sable Breton (155 บาท) ที่ตรงข้ามกับคุ้กกี้ด้วยสัมผัสที่กรอบ ไม่เหนียว กระจายอยู่ในปาก และยังมีการเพิ่มผิวมะนาวให้สัมผัสที่เบาและสดชื่นกว่าคุกกี้
Katie Chocolaterie เป็นร้านตัวจริงด้านเมนูช็อกโกแลตที่คนรักช็อกโกแลตควรมาเยือนสักครั้ง ไม่ว่าจะเป็นเมนูเครื่องดื่มที่อัดแน่นไปด้วยช็อกโกแลตหนานุ่มแน่น หรือเมนูขนมที่ทำจากช็อกโกแลตแบบจัดเต็ม เรียกได้ว่าเป็นสวรรค์ของคนรักช็อกโกแลตเลยทีเดียว
Katie Chocolaterie
Open: ทุกวัน 08.00-18.00 น.
Address: ซอยอารีย์ 2 ถนนพหลโยธิน กรุงเทพฯ
Budget: 200-500 บาท
Contact: 06 1401 9141
Website: https://www.facebook.com/Katie-Chocolaterie-240465381248848/
Map: https://goo.gl/maps/wG8w1pRRPADyKa6H6