It’s Happened to be a closet
บ้านหลังเดิมในซอยสุขุมวิท 23 บรรยากาศดูขรึมขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อย
แต่พอรื้อรั้วหน้าบ้านออกแล้วดูอบอุ่นเชื้อเชิญให้แวะมากกว่าเดิม
โซนในบ้านยังเสิร์ฟเมนูอาหารอิตาเลียนที่ทุกคนติดใจ
ติดถนนด้านขวามือหน้าบ้านคือโซนใหม่ที่เป็นร้านเนื้อและขายของชำ
นี่คือพิกัดใหม่ที่คนรักเนื้อและคนช่างสรรกินควรมา
หลายๆ คนรู้จักกับ It’s Happened to be a closet กันดีในฐานะแฟชั่นเฮาส์ ก่อนจะต่อยอดมาเป็นไลฟ์สไตล์แบรนด์ จนมาเปิดร้านอาหาร It’s Happened to be a closet ที่เป็นร้านสแตนด์อโลนสาขาแรก ซึ่งทุกคนต่างคุ้นเคยและติดใจในรสชาติ หลังจากนั้นก็มีร้านอาหารน้องๆ ในเครือตามมาอีกหลายแบรนด์ เช่น ร้านอาหารไทยทีเด็ดอย่าง อี-กา, ร้านอาหารอิตาเลียนสไตล์แคชวลอย่าง A Fox Princess Kitchen, คาเฟ่เค้กแสนอร่อยอย่าง A Pink Rabbit + Bob หลังจากที่ร้านยานแม่ซึ่งอยู่ในซอยสุขุมวิท 23 คอยส่งพลังงานดีๆ ให้แบรนด์น้องๆ เหล่านี้ออกมาโลดแล่นให้บริการเสิร์ฟความอร่อยอยู่นาน ทางร้านก็เพิ่งรีโนเวตและเปิดโซนใหม่ ซึ่งมาพร้อมกับคอนเซปต์ใหม่ โดยเน้นที่เนื้อ Dry-Aged
ภายในโซนร้านเนื้อ
กะแจะ-ศิริวรรณ ธรณนิธิกุล ผู้เป็นเจ้าของร้านยังคงเต็มที่กับทุกๆ อย่างที่เธอทำ ไม่ว่าจะเป็นการดีไซน์เสื้อผ้า การทำร้านอาหารในแต่ละแบรนด์ ซึ่งแต่ละอย่างต่างก็ไปได้จนสุดทาง เช่นเดียวกับ It’s Happened to be a closet ในคอนเซปต์ของร้านเนื้อนี้ เธอเล่าให้ฟังว่า หลังจากที่สถานการณ์โควิดเริ่มดีขึ้น และแต่ละร้านในเครือเริ่มเติบโตจนอยู่ตัวแล้ว ก็ถึงคราวที่เธอจะหันกลับมาโฟกัสที่สาขาแม่ ซึ่งเมื่อคิดจะกลับมาทำอะไรบนพื้นที่ตรงนี้แล้วก็ไม่อยากจะคิดแค่เมนูอาหารใหม่ในแนวทางเดิมๆ แต่ต้องการที่จะพูดและนำเสนอเรื่องราวใหม่ๆ ซึ่งเป็นสิ่งที่เธอรู้สึกสนุกและกำลังสนใจอยู่ จึงมาลงตัวที่ร้านเนื้อ Dry-Aged ซึ่งนอกจากมีการรีโนเวตบ้าน It’s Happened to be a closet ให้ไฉไลกว่าเดิมแล้ว เธอยังได้ทำห้องใหม่ที่บริเวณติดถนนหน้าบ้าน สำหรับเสิร์ฟอาหารในคอนเซปต์สำหรับคนรักเนื้อโดยเฉพาะ
ตู้เนื้อดรายเอจคัตงามๆ ที่ตั้งโชว์อยู่หน้าร้านเนื้อ
มีเนื้อจากผู้ผลิตเนื้อชั้นดีหลายแหล่ง
ไม่ใช่เพียงแค่ลงทุนกับตู้ Dry Ager ที่แพงระยับ เพื่อให้เก็บรักษาเนื้อได้ในอุณหภูมิและความชื้นที่เหมาะสมเท่านั้น แต่ด้วยความที่เจ้าของร้านเป็นคนที่ทำอะไรแล้วทำจริง เธอจึงศึกษาเกี่ยวกับเรื่องเนื้อและการดรายเอจเนื้ออย่างลงลึก จนออกจะเป็นเนิร์ดในเรื่องนี้เลยก็ว่าได้ “เราต้องรู้สึกสนุกก่อน จะได้เล่าให้ลูกค้าฟังได้ นอกจากอ่านเรื่องเนื้อต่างๆ จากทั่วโลกอย่างละเอียดแล้ว เรายังลองเทสต์ชิมเนื้อเยอะมาก” กะแจะเล่า และเราเชื่อตามนั้น เพราะสัมผัสได้ถึงความทุ่มเทเอาจริงของเธอ
นอกจากเนื้อชั้นดีแล้ว หัวใจสำคัญของการย่างเนื้ออยู่ที่การใช้ไฟ
คนครัวของร้านรู้วิธีย่างเนื้ออย่างเชี่ยวชาญ
สารพัดเนื้อ Dry-Aged จากหลายแหล่งผลิตชื่อดังของโลกถูกรวมเอาไว้ที่นี่ ไม่ว่าจะเป็น Margaret River Wagyu Aus, St. Helens USA USDA, Iwate Japan F-1, EBony Aus Black Angus, Jack’s Creek, Bass Strait AUS, 2GR AUS Wagyu และ Harvey AUS Tajima Wagyu ซึ่งล้วนเป็นเนื้อคุณภาพระดับเยี่ยมที่เจ้าของร้านเฟ้นมาด้วยตัวเอง เราสามารถเลือกว่าจะสั่งเป็นเนื้อ Chill ปกติ หรือจะบ่ม Dry-Aged นาน 14, 21, 28, 32 และ 45 วันก็ได้ และสำหรับเนื้อที่ Dry-Aged นั้นก็แน่นอนว่าจะมีราคาที่แพงขึ้นตามลำดับ แต่ทางร้านก็ได้คิดเมนูและราคาให้สมเหตุสมผล เพราะอยากให้คนรักเนื้อมาเอ็นจอยกันได้บ่อยๆ
Bruchetta
เราเริ่มต้นเรียกน้ำย่อยมื้อนี้กันก่อนด้วยขนมปัง Bruchetta (250บาท) เนื้อนุ่มหน้าแฮมชีส กับ 21 Days Beef Carpaccio (850 บาท) ตามปกติแล้วเมนูเนื้อจานเบาๆ อย่างคาร์ปาชิโอ สดชื่นและกินง่ายดีอยู่แล้ว ส่วนจานนี้ของที่ร้าน It’s Happened to be a Closet พิเศษกว่าทั่วไปตรงที่ใช้เนื้อ Dry-Aged มาทำ ให้ผลลัพธ์คือเนื้ออันแสนนุ่ม รับประทานคู่กับชีสทอดที่ช่วยเพิ่มความหอมและสัมผัสกรุบ มะกอกดำกับผักร็อกเก็ตก็เข้ากันได้ดีมาก ส่วนอีกจานเหมาะสำหรับคนที่อยากจะลองชิมเนื้อหลายๆ แบบ Dry-Aged Medley Hang Out (เริ่มต้นที่ 1,750 บาท) เราสามารถเลือกเนื้อ Dry-Aged ที่มีอยู่ในลิสต์มาได้ 4 ชิ้น ตกชิ้นละประมาณ 40 กรัม ส่วนวิธีเสิร์ฟก็ว้าวด้วยถาดที่ทำจากก้อนเกลือ ด้วยคุณภาพของเนื้อ Dry-Aged ชิ้นเยี่ยม แค่โรยเกลือชูรสสักหน่อยก็อร่อยได้รสเนื้อโดยไม่ต้องกินกับซอสหรืออะไรอย่างอื่นเพิ่มเติมแล้ว และนอกจากนี้เรายังสามารถเลือกเนื้อส่วนที่ไม่ใช้ Prime Cut อย่าง Oyster Blade (เนื้อใบพาย) หรือ Flank (เนื้อส่วนท้อง) ซึ่งอร่อยไม่แพ้กัน
Dry-Aged Beef Carpaccio
คาร์ปาชิโอจานนี้เด็ดตรงใช้เนื้อ Dry-Aged สุดนุ่ม
กินกับชีสทอดหอมกรุบคือยิ่งดี
Dry-Aged Medley Hang Out
จานนี้ให้เราได้เลือกอร่อยชิมเนื้อได้หลากหลาย
จะกินแต่เนื้ออย่างเดียวก็อาจดูออกจะหนักไปสักหน่อย ทางร้านเองก็มี Side Dish ให้เลือกหลากหลาย เป็น Dr.Salad ที่คิดมาอย่างดีแล้วว่าเหมาะสำหรับเป็นจานเคียงเมื่อรับประทานสเต๊ก เช่น Grilled Broccoli + Avocado Salad (590 บาท) สลัดบรอกโคลีย่างและอะโวคาโด กับน้ำสลัดสีเขียวเข้ากัน ได้รสสไปซีหน่อยๆ เพราะเป็น Jalapeño Tahini Dressing กับอีกจานที่เราแอบเทใจให้มากกว่านิดหน่อยคือ Grilled Red Cabbage & Pink Dressing (590 บาท) ผักกะหล่ำม่วงย่างมาดีมาก ยิ่งมีเดรสซิ่งสีชมพูที่ทำจากบีตรูตและซาวครีมรสเปรี้ยวละมุนยิ่งเด็ด
Grilled Broccoli + Avocado Salad กับ Grilled Red Cabbage & Pink Dressing
สอง Side Dish เหมาะรับประทานคู่กับสเต๊ก
ต่อกันที่เมนูเนื้อจานหลักอย่าง Strip Loin (ที่มีราคาหลากหลายตั้งแต่ 1,850, 2,750, 3,450, 3,950 และ 4,950 บาท) เนื้อสันนอกย่างมาแบบมีเดียมแรร์ ส่งกลิ่นหอม สำหรับคัตที่เราได้ชิมในวันนี้คือเนื้อวากิว Dry-Aged จาก Margaret River ออสเตรเลีย มาร์เบิล สกอร์ 8/9 ชิ้นหนานุ่มเต็มปากเต็มคำ กับรสชาติที่เข้มข้นและมันแทรกสวยนุ่มกำลังดี เสิร์ฟกระเทียมและหัวหอมย่างให้กินเคียง จิบคู่กับไวน์แดงที่ทางร้านคัดสรรมาคือยิ่งฟิน
Strip Loin ชิ้นหนานุ่ม
Filet Mignon
เนื้อนุ่มราดซอส เพิ่มความอร่อยกับมันบดเนื้อเนียน
Filet Mignon (เริ่มต้นที่ 1,550 บาท) เนื้อสันในเทนเดอร์ลอยด์ที่ปรุงด้วยการตะล่อมเนยให้หอม สุกกำลังดี รับประทานคู่กับซอสเกรวีและชีส 3 ชนิด พร้อมมันบดเนื้อละเมียด ยิ่งทำให้จานนี้เป็นอีกจานที่ได้ใจคนรักเนื้ออย่างเราไปเต็มๆ
ไม่ใช่เพียงแค่เนื้อเท่านั้นที่ได้รับการคัดสรรและแสดงให้เห็นถึงความเนิร์ดในเรื่องอาหารการกินของกะแจะผู้เป็นเจ้าของร้าน เพราะนอกจากเนื้อ Dry-Aged ดีๆ แล้ว คนรักเนื้อหลายๆ คนย่อมอยากจะจิบไวน์ที่คู่ควรไปด้วย ซึ่งทางร้านก็มีตัวเลือกของไวน์ดีๆ เตรียมเอาไว้ให้ โดยเน้นไวน์คุณภาพที่ได้สกอร์ดีๆ ในราคาระดับซูเปอร์มาร์เก็ต
นอกจากนั้นในโซนใหม่นี้ยังเป็นร้านขายของชำที่เพียบไปด้วยวัตถุดิบคัดสรรมาแล้วว่าเป็นของดี ทั้งเส้นพาสต้า น้ำมันมะกอก ชีส ซอส น้ำส้มสายชู เกลือชั้นดี ฯลฯ ให้เราสามารถช้อปกลับไปเป็นเสบียงไว้ปรุงเองที่บ้าน หรือจะซื้อแล้วแบ่งให้เชฟของทางร้านปรุงเดี๋ยวนั้นเลยก็ย่อมได้ ซึ่งเราว่าถ้าคุณเป็นคนรักเนื้อหรือเนิร์ดในเรื่องอาหารการกินจะต้องถูกใจมากแน่ๆ
- It’s Happened to be a closet ตั้งอยู่ที่ 124 /1 ซอยสุขุมวิท 23 แขวงคลองเตยเหนือ เขตวัฒนา กรุงเทพมหานคร
- เปิดให้บริการ: ทุกวัน เวลา 10.00-23.00 น. (ปิดวันจันทร์)
- สำรองที่นั่งและข้อมูลเพิ่มเติม: โทร. 08 1565 2028 หรือ LINE: @itshappened
- Facebook: It’s Happened to be a closet
- Instagram: It’s Happened to be a Closet
- Budget: เริ่มต้น 300-4,000 บาท
- Map: