×

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ร้องศาลสอบหมายค้นบ้าน ปกปิดข้อเท็จจริงในคำร้องขอศาลออกหมาย ชี้ต้องรักษาศักดิ์ศรี ไม่ถูกตั้งข้อหาแต่เสียชื่อเสียงแล้ว

โดย THE STANDARD TEAM
26.09.2023
  • LOADING...
ร้องศาล หลังถูกออกหมายค้นบ้าน

วันที่ (26 กันยายน) พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ เดินทางมายังศาลอาญา เพื่อมาร้องขอความเป็นธรรม กรณีตำรวจชุด PCT สนธิกำลังชุดปฏิบัติการคอมมานโด บุกเข้าตรวจค้นบ้านพักเมื่อวานนี้ (25 กันยายน) กรณีอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยขอให้ศาลตรวจสอบว่าการบุกค้นดังกล่าวละเมิดอำนาจศาลหรือไม่

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า การขอหมายค้นดังกล่าวเป็นการปกปิดข้อเท็จจริงต่อศาล เพราะรู้อยู่แล้วว่าเป็นบ้านของตน แต่ไม่ได้บอกศาลว่าเป็นบ้านของตน แม้บ้านจะเป็นชื่อญาติ แต่การขอหมายค้นจากศาลเพื่อไปจับกุม พ.ต.ต. ชานนท์ อ่วมทร นายตำรวจติดตาม รอง ผบ.ตร. หรือ สารวัตรนนท์ ลูกน้องของตน ซึ่งรู้อยู่แล้วว่าสารวัตรนนท์อยู่บ้านหลังนั้น เมื่อบอกข้อเท็จจริงให้ศาลทราบ ศาลก็จะรู้ว่าเป็นบ้านของใครและให้ความเป็นธรรม อาจไม่ออกหมายค้น ตอนนี้ตนเองยังไม่มีคดี การยกโขยงมาค้นบ้านแบบนี้เป็นการปกปิดข้อเท็จจริง หลอกให้ศาลไม่รู้ข้อเท็จจริง เพราะการขอหมายค้นต้องมีคำร้องนำเรียนไปถึงศาล

 

“วันนี้มายื่นคำร้องขอความเป็นธรรมต่อศาล เพื่อให้ศาลพิจารณามีคำสั่งไต่สวน เรื่องการละเมิดอำนาจศาลในการออกหมายค้น โดยวันพรุ่งนี้ (27 กันยายน) ลูกน้องของผมจะมีการไปยื่นคำร้องต่อศาลอาญากรุงเทพใต้ เพื่อให้ศาลมีคำสั่งไต่สวนในทางละเมิดคำสั่งศาล หลอกศาลให้มีการออกหมายจับและหมายค้นในบ้านผม” พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าว

 

ส่วนเรื่องจะเดินทางไปศาลอาญาคดีทุจริตฯ จะเป็นเรื่องของการให้การเท็จและแจ้งความเท็จ วันนี้ตนขอใช้สิทธิทางกฎหมายน้อมรับในการตรวจสอบ แต่การตรวจสอบต้องเป็นธรรมและถูกต้อง หากไม่เป็นธรรมและส่อพิรุธหรือมีวาระซ่อนเร้น ขออนุญาตใช้สิทธิเพื่อให้เกิดความเป็นธรรมต่อตนเอง เพราะหากตนเป็น รอง ผบ.ตร. ยังไม่ได้รับความเป็นธรรม แล้วประชาชนจะไปหาความเป็นธรรมได้จากที่ไหน

 

ส่วนเรื่องเส้นทางการเงินของลูกน้องที่มีความพัวพันกับเจ้าของเว็บพนันรายใหญ่ก็เป็นเรื่องของลูกน้อง ไม่ใช่เรื่องของตน เมื่อลูกน้องได้ประกันตัวก็จะต้องมาสอบถามว่ามีความเป็นมาอย่างไร ซึ่งเมื่อตนสั่งลูกน้องไปทำงานก็คือให้ไปทำงาน จะมีบัญชีม้าหรือเส้นทางการเงินเกี่ยวกับใครก็เป็นเรื่องเฉพาะตัว เงินที่ให้ลูกน้องไปให้ไปทำงาน ส่วนลูกน้องจะไปหมุนอย่างไรเราไม่รู้ เมื่อลูกน้องได้ประกันตัวต้องเอาทนายมานั่งถามว่าวันๆ ทำอะไรกัน

 

ทั้งนี้ การบุกค้นดังกล่าวต้องดูว่ามีเจตนาทำให้ตนเสื่อมเสียชื่อเสียงหรือไม่ การบุกไปค้นบ้านและแถลงข่าวใหญ่โตว่าตนเองเอี่ยวเว็บพนัน การที่ลูกน้องทำผิดไม่ใช่ว่าตนต้องทำผิดด้วย ภาพที่ปรากฏร่วมร้องเพลงกับ มินนี่ เจ้าของเว็บพนันออนไลน์ ลูกน้องพามาร้องเพลง เจอกันครั้งเดียว ตนไม่ได้รู้จักเป็นการส่วนตัว

 

ส่วนบ้านทั้งหมด 5 หลัง เป็นชื่อ เฮียแต๋ม ซึ่งเป็นญาติคนละนามสกุล ทำธุรกิจอยู่ที่จังหวัดอุดรธานี โดยตนมาเช่าอยู่ มีสัญญาเช่า จ่ายค่าเช่าเดือนละ 50,000 บาท แต่ตนพักอยู่แค่ 2 หลัง โดยเสนอจะจ่ายมากกว่านี้แต่เขาไม่เอา บ้านหลังอื่นใช้เก็บของ ไม่ได้อยู่ ทั้งนี้ นำตัวเฮียแต๋มมาสอบปากคำได้เลย เพราะเฮียแต๋มไม่ได้ทำสิ่งผิดกฎหมาย 

 

ส่วนที่ อัจฉริยะ เรืองรัตนพงศ์ จะแฉว่ามีนักข่าวและทนายชื่อดังเกี่ยวข้องกับเครือข่ายเว็บพนัน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ใครจะทำเว็บพนันไม่ใช่เรื่องของตน ค่าเช่าบ้านทั้งหมดเป็นเงินที่ต้องจ่ายทุกเดือน ผบ.ตร. ให้งบลับมาใช้ ก็ใช้งบลับทำงาน หากมีส่วนเกินตนจ่ายเอง 

 

ส่วนหลังจากนี้จะเอาคืนหรือไม่นั้น พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่ได้เอาคืน แต่ใครผิดก็ดำเนินคดีอาญาและฟ้องไป วันนี้ยังไม่ได้เริ่มฟ้อง มาขอความเป็นธรรมกับศาลอย่างเดียว ทั้งนี้ รู้หมดว่ามีคนสั่งการเรื่องนี้ ส่วนจะดำเนินคดีหรือไม่ก็ต้องอยู่ที่พยานหลักฐาน 

 

พร้อมย้ำว่าเป็นการเมืองภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ ยังระบุด้วยว่า ได้พูดคุยกับ พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ว่าทำไมถึงมาค้นบ้านของตน โดย พล.ต.อ. ดำรงศักดิ์ ชี้แจงว่าก่อนหน้านี้ได้รับเพียงรายงานว่าจะมีการตรวจค้น ซึ่งได้บอกกับผู้ที่รายงานว่าหากจะค้นให้มาบอกก่อน แต่ตำรวจกลับเข้าไปค้นและมารายงานทีหลัง 

 

พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตนเองต้องรักษาสิทธิและศักดิ์ศรี อาจไม่มีข้อหาถึงตนเองก็จริง แต่ทำให้เสียชื่อเสียง ส่วนจะเกี่ยวข้องกับการเลือก ผบ.ตร. คนใหม่หรือไม่นั้น ขอไม่ออกความคิดเห็น ให้สื่อมวลชนไปคิดเอาเอง

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising