×

ศุภมาสจี้ ม.สยาม ดำเนินคดีผู้บริหารชาวจีนจัดหลักสูตรอาสาตำรวจ ภายใน 1-2 วัน เตรียมเอาผิดมหาวิทยาลัยหากไม่ดำเนินการ

โดย THE STANDARD TEAM
07.01.2025
  • LOADING...
ศุภมาส ม.สยาม

วันนี้ (7 มกราคม) ศุภมาส อิศรภักดี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) กล่าวถึงกรณีที่อธิการบดีมหาวิทยาลัยสยามแถลงข่าวว่ามีส่วนเกี่ยวข้องกับการเปิดหลักสูตรอบรมอาสาตำรวจจีน โดยระบุว่า เป็นไปตามที่ปรากฏในข่าวว่าทางมหาวิทยาลัยไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แต่เป็นผู้บริหารคนหนึ่งของมหาวิทยาลัยซึ่งเป็นชาวจีนจัดอบรมเองโดยพลการ ไม่มีการขออนุญาตใช้ตราสัญลักษณ์มหาวิทยาลัย 

 

ดังนั้นหนึ่งในผู้เสียหายคือมหาวิทยาลัย จึงเป็นหน้าที่ของมหาวิทยาลัยที่จะไปแจ้งความร้องทุกข์เพื่อดำเนินคดีกับผู้บริหารท่านนี้ หลังจากมหาวิทยาลัยยืนยันว่าไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง ไม่มีส่วนรู้เห็น และไม่มีการเก็บเงิน แต่มีการใช้ตราสัญลักษณ์ของมหาวิทยาลัย ถือเป็นการฝ่าฝืน พ.ร.บ.สถาบันอุดมศึกษาเอกชน พ.ศ. 2546 ซึ่งผู้บริหารชาวจีนร่วมจัดอบรมกับหน่วยงานเอกชนข้างนอก เก็บเงินผู้เข้าร่วมคนละ 38,000 บาท กว่า 20 คน 

 

ศุภมาสกล่าวอีกว่า หากมหาวิทยาลัยไม่ไปแจ้งความร้องทุกข์ กระทรวง อว. ก็จะเข้าไปกำกับดูแลและดำเนินคดีกับมหาวิทยาลัย แม้ไม่ได้กำหนดเวลา แต่มหาวิทยาลัยควรเร่งดำเนินการให้เร็วที่สุด คาดว่าน่าจะใช้เวลาภายใน 1-2 วัน เพราะสังคมรอคำตอบอยู่

 

ศุภมาสย้ำว่า ส่วนตัวสอบถามกับมหาวิทยาลัยถึงความเป็นไปได้ที่จะไม่ทราบเรื่องการจัดอบรมดังกล่าว ซึ่งมหาวิทยาลัยชี้แจงว่า การจัดอบรมเพิ่งมีแค่ครั้งเดียวและมีคนเข้าร่วมน้อย ไม่ได้ผ่านกระบวนการของมหาวิทยาลัย จึงต้องรอดูต่อไปว่ามหาวิทยาลัยซึ่งเป็นหน่วยงานที่เป็นเจ้าทุกข์จะไปแจ้งความดำเนินคดีหรือไม่ รวมถึงต้องตั้งกรรมการสอบวินัยของผู้บริหารจีนเช่นเดียวกัน ไม่ว่าจะเป็นการหักเงินเดือน ตักเตือน ไปจนถึงการไล่ออก 

 

ศุภมาสกล่าวว่า ในอดีตมีหลักสูตรการจัดอบรมและให้ใบประกาศนียบัตร หรือที่เรียกว่า Non-Degree หรือหลักสูตรที่ไม่ได้รับปริญญา ซึ่งหลักสูตรอบรมดังกล่าวก็เป็นหนึ่งในหลักสูตร Non-Degree ซึ่งไม่มีระเบียบที่จะเข้าไปกำกับดูแลในส่วนนี้ได้ แต่ในระยะหลังเริ่มมีปัญหาเกี่ยวกับการจัดหลักสูตรอบรมมากขึ้น ทำให้ต้องมาทบทวน รวมถึงแก้ระเบียบที่จะเข้าไปกำกับดูแลหลักสูตร Non-Degree ให้เกิดความเรียบร้อยและไม่ให้เกิดความเสียหายด้วย

  • LOADING...

READ MORE





Latest Stories

Close Advertising
X