×

“นี่คือสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไร” ศุภลักษณ์ อัมพุช แห่งเดอะมอลล์ ร่วมออก 4 มาตรการช่วยฝ่าวิกฤตโควิด-19

31.05.2021
  • LOADING...
ศุภลักษณ์ อัมพุช

“นี่คือสงครามโลกครั้งที่ 3 ที่ไม่รู้จะจบลงเมื่อไร” คือคำกล่าวของ ศุภลักษณ์ อัมพุช ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะมอลล์ กรุ๊ป จำกัด เมื่อพูดถึงโรคที่ชื่อ ‘โควิด-19’ ซึ่งระบาดเข้ามาในไทยตั้งแต่ต้นปี 2563 จนส่งผลกระทบต่อสุขภาพและเศรฐกิจของประเทศ

 

เพื่อร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการฝ่าวิกฤตโควิด-19 ทางเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ออกมาตรการความช่วยเหลือในทุกมิติอย่างต่อเนื่องนับแต่การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโควิด-19 ตั้งแต่ปี 2563 เป็นต้นมา ประกอบด้วย 4 มาตรการ ได้แก่

 

1. มาตรการรณรงค์ฉีดวัคซีนเพื่อชาติโดยเดอะมอลล์ กรุ๊ป ได้ผนึกความร่วมมือเอกชนทุกภาคส่วน สนับสนุนภาครัฐเพื่อให้การฉีดวัคซีนโควิด-19 เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมและเร่งด่วน โดยได้มีการจัดตั้งหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ด้วยงบประมาณกว่า 200 ล้านบาท สนับสนุนพื้นที่ 6 สาขา 

 

แบ่งเป็นพื้นที่กรุงเทพมหานคร ได้แก่ เดอะมอลล์ บางกะปิ, เดอะมอลล์ บางแค, ดิ เอ็มโพเรียม และสยามพารากอน, พื้นที่จังหวัดนนทบุรี ได้แก่ เดอะมอลล์ไลฟ์สโตร์ งามวงศ์วาน และพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ได้แก่ เดอะมอลล์ โคราช รวมกว่า 16,800 ตารางเมตร โดยจะดำเนินการระหว่างเดือนพฤษภาคมถึงธันวาคม 2564 ร่วมกับกรุงเทพมหานคร จังหวัดนนทบุรี และจังหวัดนครราชสีมา 

 

โดยคาดว่าจะบริการฉีดวัคซีนได้วันละ 2,000-5,000 คนต่อสาขา รวมทุกสาขา 12,000 คนต่อวัน หรือ 400,000 คนต่อเดือน

 

นอกจากนี้เดอะมอลล์ กรุ๊ปยังได้จัดหาเจ้าหน้าที่อาสาสมัครเพื่อช่วยดูแลความเรียบร้อยระหว่างดำเนินงาน พร้อมสนับสนุนชุดอาหาร-เครื่องดื่ม สำหรับบุคลากรทางการแพทย์ และจัดหาอุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดการดำเนินงาน

 

2. มาตรการบริจาค ฟันฝ่าวิกฤตการณ์โควิด-19 โดยได้บริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์ให้กับ 5 โรงพยาบาล ได้แก่ โรงพยาบาลศิริราช โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์ โรงพยาบาลรามาธิบดี โรงพยาบาลราชวิถี และสถาบันบำราศนราดูร 

 

ในปี 2563 ได้ร่วมบริจาคเงินและอุปกรณ์ทางการแพทย์รวมมูลค่า 20 ล้านบาท และปี 2564 อยู่ระหว่างดำเนินการบริจาคอุปกรณ์ทางการแพทย์และเครื่องช่วยหายใจ รวมมูลค่า 10 ล้านบาท และรวมมูลค่าทั้งโครงการทั้งสิ้น 30 ล้านบาท

 

นอกจากนี้ยังมีบริการจัดส่งอาหารกล่องถึงบุคลากรทางการแพทย์ในโรงพยาบาล รวมกว่า 30,000 ชุด, ชุดกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์จำนวน 10,000 ชุด, ถุงน้ำใจช่วยชุมชน 10,000 ชุด, โครงการบริจาคโลหิตผ่านห้องรับบริจาคโลหิตที่เดอะมอลล์ทุกสาขา และ ดิ เอ็มโพเรียม รวมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 450 ล้านซีซีในช่วง 15 ปีที่ผ่านมา

 

3. มาตรการสนับสนุน SMEs และเกษตรกรไทย โดยมีมาตรการช่วยเหลือภาคเกษตรกรรม ผ่านการเปิดพื้นที่เดอะมอลล์ทุกสาขาตลอดทั้งปี เป็นช่องทางการจำหน่ายสินค้าเพื่อช่วยระบายสินค้าภาคเกษตรกรรม ภาคอุตสาหกรรมแปรรูป ภาควิสาหกิจชุมชน OTOP ตลอดจน SMEs ซึ่งได้นำร่องด้วยโครงการตลาดคัดไทย, ตลาดเดอะมอลล์รวมใจ, The Mall Together Market, เดอะมอลล์ บ้านของคนโคราช ฯลฯ

 

4. มาตรการประสานพลังเพื่อคู่ค้า เดินหน้าฟื้นฟูธุรกิจ ผ่านการร่วมกับสถาบันการเงินชั้นนำ ธนาคารกรุงไทย ธนาคารกรุงเทพ ธนาคารไทยพาณิชย์ ธนาคารกสิกรไทย ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และธนาคารออมสิน เพื่อสนับสนุนสินเชื่อฟื้นฟู Soft Loan และเพิ่มศักยภาพให้ผู้ประกอบการ ร้านค้า ซัพพลายเออร์ SMEs ผู้ประกอบการรายย่อยกว่า 6,000 รายได้เข้าถึงสินเชื่อฟื้นฟู เพื่อเสริมสภาพคล่องทางการเงิน แบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายและรักษาการจ้างงาน เพื่ออนาคตเศรษฐกิจของประเทศไทยอย่างยั่งยืน 

 

“ปีนี้เราไม่ได้กำไรเลย แต่เราตั้งใจทำเพื่อให้เศรษฐกิจรอดพ้น” ศุภลักษณ์ กล่าว

 

สำหรับกำลังซื้อช่วงที่เหลือของปีศุภลักษณ์ประเมินว่า ทิศทางจะปรับตัวดีขึ้นจากมีการกระจายฉีดวัคซีนอย่างทั่วถึง โดยเฉพาะในช่วงเดือนมิถุนายนและกรกฎาคม ซึ่งหากวัคซีนมาตามนัดเชื่อว่าจะทำให้อารมณ์การจับจ่ายของผู้บริโภคดีขึ้นอย่างแน่นอน

 

พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising