×

‘ศุภาลัย’ โชว์ยอดขาย-รายได้ตามเป้า ครึ่งหลังปีนี้เตรียมเปิดเพิ่ม 22 โครงการ เจาะตลาดระดับกลาง กำลังซื้อยังดี

14.08.2021
  • LOADING...
ศุภาลัย

โควิดลากยาวไม่สะเทือนศุภาลัย ผู้บริหารมั่นใจปีนี้โชว์ตัวเลขยอดขาย-รายได้นิวไฮตามแผน พร้อมเดินหน้าเปิด 22 โครงการใหม่ รวมมูลค่ากว่า 2.48 หมื่นล้านบาท ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ เพื่อให้มีสินค้าครอบคลุมทั้งกรุงเทพฯ ปริมณฑล และภูมิภาค โดยมุ่งเจาะตลาดระดับกลาง ราคา 3-6 ล้านบาทที่ยังมีกำลังซื้อดีอยู่

 

ไตรเตชะ ตั้งมติธรรม กรรมการผู้จัดการ บมจ.ศุภาลัย (SPALI) กล่าวว่า แผนงานของบริษัทในครึ่งหลังปี 2564 นี้ ยังมุ่งมั่นการเปิดตัวโครงการใหม่อย่างต่อเนื่อง ทั้งโครงการแนวราบและคอนโดมิเนียม รวม 22 โครงการ มีมูลค่า 24,820 ล้านบาท แบ่งเป็นโครงการแนวราบ จำนวน 18 โครงการ และคอนโดมิเนียม 4 โครงการ จากในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ที่มีการเปิดโครงการใหม่แล้วทั้งสิ้น 9 โครงการ ซึ่งเป็นโครงการแนวราบในพื้นที่กรุงเทพฯ และภูมิภาค รวมมูลค่า 9,180 ล้านบาท ซึ่งลูกค้ากลุ่มเป้าหมายจะเป็นเซกเมนต์ระดับราคา 3-6 ล้านบาทเป็นหลัก

 

โดยบริษัทจะใช้กลยุทธ์การขายในสถานการณ์โควิด ด้วยการสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ เพื่อให้ทันสถานการณ์ในปัจจุบัน โดยมีการออกแบบผลิตภัณฑ์ใหม่ และเพิ่มช่องทางการตลาดในรูปแบบ Virtual Tour ให้ลูกค้ารับชมโครงการเสมือนจริง และ Online Booking จองยูนิตที่สนใจ เพื่อเพิ่มความสะดวก สบาย ปลอดภัย และรูปแบบ Supalai Private Tours ซึ่งจะเป็นการสื่อสารและชมโครงการได้ทุกที่ทุกเวลา เพื่อลดการสัมผัสให้เหมาะสมกับเหตุการณ์โควิด 

 

“ในรอบครึ่งปีแรก บริษัทได้ก้าวผ่านเหตุการณ์ต่างๆ ที่สำคัญที่เกิดขึ้นและมีความท้าทายเป็นอย่างมาก ท่ามกลางวิกฤตโควิดอันยาวนาน ซึ่งบริษัทมีการวางแผนและปรับตัวอย่างรวดเร็วให้ทันต่อสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงไป ควบคู่การมีมาตรการความปลอดภัยด้านชีวอนามัยให้ลูกค้า และดูแลคนงานด้วยมาตรการควบคุมโรคในแคมป์คนงานอย่างเข้มงวด แม้กระทั่งการงดเว้นหรือลดค่าเช่าให้ผู้เช่าของศุภาลัยที่ได้รับผลกระทบอย่างหนัก นอกจากนี้ยังมีการช่วยเหลือลูกค้าโครงการที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์โรงงานระเบิด ซึ่งเรื่องราวต่างๆ นี้ถือเป็นสิ่งท้าทายของบริษัท”

 

ไตรเตชะกล่าวว่า ทั้งปีนี้บริษัทยังคงเป้าหมายการทำนิวไฮด้านยอดขายที่ 2.7 หมื่นล้านบาท และด้านรายได้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท เช่นเดิม ซึ่งเป็นเป้าหมายที่ตั้งไว้เมื่อต้นปี 2564 โดยในช่วงครึ่งปีแรกที่ผ่านมาบริษัททำยอดขายได้แล้ว 13,005 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% และมีรายได้รวม 11,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 60% ขณะที่สามารถทำกำไรสุทธิได้ถึง 2,472 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 111% จากช่วงเดียวกันปีก่อนแล้ว

 

ทั้งนี้ ยอดขายส่วนใหญ่ของ SPALI จะมาจากโครงการแนวราบ 78% โครงการคอนโดมิเนียม 22% โดยยอดขายในช่วง 6 เดือนแรกของปีนี้คิดเป็นสัดส่วน 48% ของเป้าหมายยอดขายที่ตั้งไว้ทั้งปีนี้แล้ว รวมทั้งยังมียอดขายรอการส่งมอบอีกกว่า 3.6 หมื่นล้านบาท ซึ่งจะทยอยรับรู้ในปีนี้ 1.42 หมื่นล้านบาท ส่วนที่เหลือ 2.18 หมื่นล้านบาทจะทยอยรับรู้ต่อเนื่องในช่วง 2-3 ปีข้างหน้า

 

หุ้น SPALI นับเป็นหุ้นปันผล โดยล่าสุดที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท มีมติอนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลสำหรับผลประกอบการงวดครึ่งปีแรกให้แก่ผู้ถือหุ้น ในอัตราหุ้นละ 0.50 บาท กำหนดวันที่ไม่ได้รับสิทธิปันผล (XD) 24 สิงหาคม 2564 และจ่ายปันผลในวันที่ 8 กันยายน 2564

 

ไตรเตชะยังกล่าวด้วยว่า แม้ภาครัฐจะมีการผ่อนคลายให้แคมป์คนงานที่ไม่มีปัญหาสามารถกลับมาดำเนินการก่อสร้างได้ แต่พบว่าในขั้นตอนปฏิบัติยังไม่สามารถกลับมาดำเนินการได้ทั้ง 100% เนื่องจากติดขัดปัญหาแรงงานเดินทางกลับบ้านและไม่พร้อมที่จะกลับมาทำงาน เพราะกังวลปัญหาการแพร่ระบาดรุนแรงในพื้นที่กรุงเทพฯ และพื้นที่เสี่ยงสูง ซึ่งโดยเบี้องต้นประเมินว่าสถานการณ์โควิดอาจจะยืดเยื้อใช้เวลา 6 เดือนถึง 1 ปี

 

อย่างไรก็ตามบริษัทได้รับผลบวกจากโครงการ Phuket Sandbox โดย 12 โครงการที่เปิดขายในจังหวัดนี้ มียอดขายเพิ่มขึ้นในช่วง 4-5 เดือนที่ผ่านมา นับตั้งแต่มีการประกาศนโยบายดังกล่าว

 

“ในเดือนกรกฎาคม 2564 ที่ผ่านมา บริษัทได้เปิดขาย 1 โครงการใหม่ที่ภูเก็ต ซึ่งเป็นโครงการที่คิดว่าจะเลื่อนการขายออกไปเพราะสถานการณ์ไม่ดี แต่ลูกค้าบอกว่าอยากซื้อบ้าน กลุ่มนี้เป็นกำลังซื้อจริง ไม่ใช่การเก็งกำไร เรามียอดจองเข้ามาเกือบ 100 ล้านบาท โครงการ Phuket Sandbox ทำให้เรามองเห็นแสงสว่างที่ปลายอุโมงค์ เราคิดว่าถ้าในพื้นที่กรุงเทพฯ บริหารจัดการได้ดีเหมือนภูเก็ต ธุรกิจของเราน่าจะกลับมาเดินหน้าต่อได้”

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising