สำนักข่าว BBC รายงานสถานการณ์อพยพชาวต่างชาติในกรุงพอร์ตซูดาน เมืองท่าสำคัญของประเทศซูดาน ที่กำลังเป็นไปอย่างวุ่นวายและโกลาหล โดยมีชาวต่างชาตินับพันชีวิตรอความหวังที่จะได้อพยพออกจากซูดาน ท่ามกลางวิกฤตสู้รบระหว่างกองทัพและกองกำลังกึ่งทหาร Rapid Support Forces (RSF) ที่ยังดำเนินต่อไปอย่างดุเดือด แม้จะมีการประกาศขยายระยะเวลาหยุดยิงแล้วก็ตาม
บรรยากาศที่ท่าเรือใหญ่สุดของเมือง ซึ่งตอนนี้กลายเป็นศูนย์กลางการอพยพ มีเรืออย่างน้อย 2 ลำทอดสมออยู่นอกชายฝั่ง เพื่อรอเข้าเทียบท่าในภารกิจช่วยเหลือระหว่างประเทศครั้งใหญ่ โดยซาอุดีอาระเบียได้ส่งเรือรบ HMS Al-Diriyah มาช่วยในการอพยพเช่นกัน
กลุ่มชาวต่างชาติหลายพันคนที่ต้องการเดินทางออกจากซูดานพากันต่อแถวยาวที่ท่าเรือ เพื่อรอตรวจสอบหนังสือเดินทาง และเทียบรายชื่อผู้อพยพของซาอุ ซึ่งชาวต่างชาติจำนวนหนึ่งที่เป็นกลุ่มแรงงานจากประเทศแถบเอเชียใต้ เช่น ปากีสถาน เผยว่ารอที่จะได้อพยพมานานกว่า 3 วัน
นอกจากนี้มีกลุ่มชาวเยเมน ซีเรีย รวมถึงชาวซูดานที่ต้องการอพยพจำนวนมากติดค้างอยู่ที่ท่าเรือในพอร์ตซูดานเช่นกัน โดยกลุ่มชาวเยเมนซึ่งมีจำนวนกว่า 3,000 คน และส่วนใหญ่เป็นนักศึกษา รอการอพยพมานานนับสัปดาห์ แต่เรือของซาอุรับผู้อพยพชาวเยเมนแค่บางคน ซึ่งที่ปรึกษาด้านความมั่นคงกำลังพยายามหาหนทางเพื่อช่วยให้พวกเขาได้อพยพกลับประเทศ
ทั้งนี้ การสู้รบที่ปะทุในกรุงคาร์ทูมและหลายเมืองทั่วประเทศมานานกว่า 3 สัปดาห์ ยังคงไม่สงบลง แม้จะมีการขยายระยะเวลาหยุดยิงออกไปอีก 72 ชั่วโมง เริ่มตั้งแต่ช่วงเที่ยงคืนวานนี้ (30 เมษายน) โดยกองกำลังของทั้งฝ่ายกองทัพและกองกำลัง RSF ต่างกล่าวหาอีกฝ่ายว่าละเมิดข้อตกลง ซึ่งผลจากการสู้รบจนถึงตอนนี้คาดว่าทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วหลายร้อยคนและบาดเจ็บหลายพันคน
อย่างไรก็ตาม บรรยากาศในคาร์ทูมมีรายงานว่าประชาชนภายในเมืองไม่ได้สนใจเรื่องการประกาศขยายระยะเวลาหยุดยิงมากนัก เนื่องจากในการหยุดยิงรอบที่ผ่านมายังเกิดการปะทะกันอย่างต่อเนื่อง ทั้งการโจมตีทางอากาศจากฝ่ายกองทัพ และการโจมตีด้วยกระสุนปืนใหญ่จากฝ่าย RSF
ภาพ: Fayez Nureldine / AFP
อ้างอิง:
