วันนี้ (19 มีนาคม) ทวีชัย วงศ์ไพโรจน์กุล รองโฆษกพรรคไทยสร้างไทย ชวนสังคมทบทวนการมีอยู่ของผู้ให้บริการทางเพศ หรือ Sex Worker รวมถึงผู้ผลิตสินค้าและให้บริการความบันเทิงทางเพศ อย่าง Sex Toy และ Sex Creator โดยเสนอให้แก้ไขกฎหมายเพื่อผู้ให้บริการทางเพศไม่ต้องหลบซ่อน อยู่ในสถานะที่สามารถแจ้งความกับตำรวจได้อย่างเปิดเผยเมื่อถูกละเมิดสิทธิ โดยไม่ต้องหวาดกลัวโทษทางอาญา ซึ่งเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาอาชญากรรมและการค้ามนุษย์ได้จริง พร้อมย้ำด้วยว่า “การกำหนดให้สินค้าและบริการทางเพศเป็นเรื่องต้องกำจัดทิ้ง ซุกซ่อน ปกปิด แทนที่จะควบคุม จัดระเบียบ ไม่ทำให้สังคมก้าวไปข้างหน้าได้”
ทวีชัยกล่าวถึงปัญหาจากการตีความและใช้ตัวบทกฎหมายต่างๆ ในเรื่องเพศ เช่น พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ศุลกากร พ.ศ. 2560 รวมถึงประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 287 ที่ว่าด้วยการนำเข้า เผยแพร่ ประกอบการค้าหรือมีส่วนเกี่ยวข้องกับสิ่งลามกอนาจาร ที่ตีความ ‘Sex Toy’ ให้เป็นวัตถุลามก อนาจาร ซึ่งขัดขวางประชาชนไม่ให้เข้าถึงสินค้าทางเพศที่ปลอดภัย มีคุณภาพ เป็นปัญหาให้ประชาชนลักลอบนำเข้าสินค้าเถื่อนอันตราย เสนอแนวทางปรับนิยามใหม่ จากวัตถุลามกอนาจาร สู่สินค้าควบคุมภายใต้รัฐกำกับดูแล ให้มีการนำเข้า ผลิตซื้อขายได้ภายใต้การขอใบอนุญาต จำกัดอายุผู้ซื้อ กำหนดพื้นที่ขาย จึงขอเชิญชวนสาธารณสุขตรวจสอบคุณภาพให้ความรู้เรื่องสุขอนามัยและการใช้งาน มองไทยมีศักยภาพผลักดันวัสดุในประเทศผลิต Sex Toy ส่งออก แนะรัฐต้องเอื้อให้มนุษย์มีความสุขโดยไม่รู้สึกเป็นผู้ร้าย
ขณะที่ในส่วนของผู้ผลิตสื่อบันเทิงทางเพศ Sex Creator ซึ่งก่อนหน้านี้ ทวีชัยได้ให้ความเห็นในกรณีพนักงานบริษัทเอกชนถูกไล่ออกหลังจากนายจ้างรู้ว่าเคยทำคลิปแนว OnlyFans จึงขอเรียกร้องให้สังคมยุติการตีตรา เลือกปฏิบัติ ซึ่งเป็นอีกทางเลือกที่ประชาชนใช้สร้างรายได้ บริการจัดการความเสี่ยงบนเนื้อตัวร่างกายของตัวเองผ่านกล้อง ในขณะที่ Sex Worker ต้องออกไปเจอกับความเสี่ยงข้างนอกในรูปแบบอาชญากรรม ความรุนแรงต่างๆ มากมาย ซึ่งมีทั้งผู้ที่ถูกบังคับล่อลวงเข้ามาทำงาน ผู้ที่ไร้ทางเลือก รวมถึงบุคคลที่สมัครใจ ปัญหาจึงไม่ใช่อยู่ที่ว่าผิดถูกกฎหมายอย่างไร แต่จะทำอย่างไรให้บุคคลเหล่านี้ได้รับการคุ้มครอง ปกป้องศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ และมีสิทธิในการประกอบอาชีพเช่นอาชีพอื่นๆ
ทวีชัยยังได้ตั้งคำถามไปยังรัฐบาลว่า จะทำอย่างไรที่จะสร้างโอกาสและทางเลือกให้ประชาชนแทนการออกกฎหมายต่อต้าน โดยไม่ลืมความสำคัญคือ ต้องยุติการตีตรา Sex Worker ว่าเป็นอาชีพบ่อนทำลายศีลธรรม ผิดกฎหมาย รณรงค์ปฏิบัติกับ Sex Worker ในความเป็นมนุษย์โดยเสมอหน้า ไม่ใช่เพียงแรงงานไร้ใบหน้าที่มีผลประโยชน์เพียงให้ตำรวจได้เรียกเก็บส่วย เป็นแหล่งฟอกเงินผิดกฎหมายเท่านั้น