Dow Jones รูดต่ออีกกว่า 900 จุด ปิดต่ำสุดรอบ 4 เดือนนับจากมิถุนายน หวั่นโควิด-19 ระลอกสองระบาดทั่วโลก ด้านราคาน้ำมัน WTI ขยับลง กังวลสต็อกน้ำมันดิบพุ่ง สวนทางความต้องการที่จะชะลอตัวเพราะโควิด-19 ด้านสัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดหลุด 1,900 ดอลลาร์ แรงกดดันจากดอลลาร์แข็งค่า
Dow Jones ปรับตัวลดลงมากกว่า 900 จุดวานนี้ (28 ตุลาคม) และปิดการซื้อขายที่ระดับดัชนีต่ำสุดรอบ 4 เดือนนับจากมิถุนายนที่ผ่านมา เนื่องจากวิตกกังวลเรื่องการแพร่ระบาดระลอกสองของโควิด-19 ทั่วโลก โดยตัวเลขผู้ติดเชื้อต่างเพิ่มขึ้นทั่วโลก สร้างแรงกดดันไปถึงความสามารถในการเติบโตทางเศรษฐกิจ
เมื่อวานนี้ Dow Jones ปรับตัวลดลง 943.24 จุด หรือ 3.4% ปิดการซื้อขายที่ 26,519.95 จุด
- S&P 500 ลดลง 119.65 จุด หรือ 3.5% ปิดที่ 3,271.03 จุด
- Nasdaq ลดลง 426.48 จุด หรือ 3.7% ปิดที่ด 11,004.87 จุด
- German Dax ลดลง 4.2% และปิดการซื้อขายที่ระดับต่ำสุดตั้งแต่เดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา
- CAC 40 ลดลง 3.4%
- FTSE 100 in London ลดลง 2.6%
ข้อมูลจากมหาวิทยาลัย Johns Hopkins ผู้ทำการรวบรวมข้อมูลผู้ติดเชื้อโควิด-19 ในสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ยอดผู้ติดเชื้อดังกล่าวของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นเป็นประวัติการณ์ โดยเฉลี่ยต่อวันที่ 71,832 รายในช่วงสัปดาห์ ในขณะที่การรักษาในโรงพยาบาลที่เกี่ยวข้องกับไวรัสโคโรนาเพิ่มขึ้น 5% หรือมากกว่านั้นใน 3 รัฐ นอกจากนี้ตัวเลขการติดเชื้อก็เพิ่มขึ้นทั่วยุโรปเช่นเดียวกัน
การเพิ่มขึ้นล่าสุดของตัวเลขผู้ติดเชื้อทำให้บางประเทศต้องกลับมาใช้มาตรการรักษาระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) อีกครั้ง โดยล่าสุดรัฐอิลลินอยส์ได้สั่งให้ชิคาโกปิดให้บริการภายในร้านอาหาร ส่วนในยุโรปเจ้าหน้าที่ของเยอรมนีตกลงที่จะปิดตัวบางส่วนเป็นเวลา 4 สัปดาห์ ในขณะที่รัฐบาลฝรั่งเศสยกระดับมาตรการป้องกันการแพร่ระบาดทั่วประเทศจนถึงวันที่ 1 ธันวาคมนี้
หุ้นเอี่ยวท่องเที่ยวร่วง
หุ้นกลุ่มสายการบิน กลุ่มโรงแรม และกลุ่มเรือสำราญต่างพากันร่วงลงเนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดรอบใหม่ โดยหุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ ดิ่งลง 4.59% หุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ร่วงลง 2.49% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน์ ดิ่งลง 3.42% หุ้นรอยัล แคริบเบียน ครูซ ร่วงลง 7.42% หุ้นคาร์นิวัล คอร์ป ทรุดลง 10.61% หุ้นแมริออท อินเตอร์เนชั่นแนล ร่วงลง 3.7% หุ้นไฮแอท โฮเทลส์ คอร์ปอเรชั่น ร่วงลง 3.1% หุ้นฮิลตัน เวิลด์ไวด์ โฮลดิงส์ ร่วงลง 4.16%
หวังภาครัฐหลีกเลี่ยงการยกระดับมาตรการ
โจเซฟ เอ็บบาซี นักกลยุทธ์ตลาดโลกจาก StoneX ระบุว่า นักลงทุนหวังว่าการระบาดของโรคโควิด-19 ครั้งนี้จะไม่ส่งผลให้ต้องใช้มาตรการที่เข้มงวดมากขึ้น หรือต้องปิดกั้นกิจกรรมการค้าต่างๆ ซึ่งจะผลักดันให้เศรษฐกิจโลกกลับเข้าสู่โหมดการบริโภคต่ำอีกครั้ง
“การหลีกเลี่ยงมาตรการที่เข้มงวดเหล่านี้ถือเป็นความท้าทายหลัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่ต้องการหามูลค่าหุ้นและแสดงหาอัตราผลตอบแทนที่สูงขึ้น”
เริ่มเข้าฤดูประกาศผลประกอบการ
Wall Street ได้สำรวจผลประกอบการไตรมาส 3 ที่เพิ่งผ่านไป และไตรมาสก่อนหน้า ของบริษัทต่างๆ รวมถึงเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของ Microsoft ด้วย
โดยหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีร่วงลง ก่อนที่บริษัทยักษ์ใหญ่อย่าง Apple และ Facebook จะเปิดเผยผลประกอบการในวันนี้ โดยหุ้น Amazon ดิ่งลง 3.76% หุ้น Apple ร่วงลง 4.63% หุ้น Facebook ร่วงลง 5.5% หุ้น Alphabet ร่วงลง 5.5%
หุ้น Microsoft ร่วงลง 4.96% เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มผลประกอบการของ Microsoft หลังจากบริษัทเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์ผลประกอบการประจำไตรมาส 2/2564 ที่ต่ำกว่าการคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ แม้ว่ากำไรและรายได้ในไตรมาส 1/2564 ซึ่งสิ้นสุด ณ วันที่ 30 กกันยายน 2563 จะออกมาสูงกว่าคาดก็ตาม
หุ้น Boeing ร่วงลง 4.57% หลังจากบริษัทประสบภาวะขาดทุนติดต่อกัน 4 ไตรมาส เนื่องจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่งผลให้การผลิตเครื่องบินชะลอตัวลง รวมทั้งการที่เครื่องบินรุ่น 737 MAX ยังคงถูกสั่งห้ามบิน หลังจากที่เครื่องบิน 2 ลำของรุ่นดังกล่าวได้ประสบอุบัติเหตุในปี 2561 จนทำให้มีผู้เสียชีวิตรวม 346 คน
“โดยรวมแล้วผลประกอบการไตรมาสนี้ดีขึ้นกว่าที่คาดการณ์ไว้ อย่างไรก็ตาม ในรายงานจากบริษัทต่างๆ ยังคงมีปัจจัยที่น่ากังวลอยู่เช่นเดียวกัน” เมแกน ฮอร์นแมน ผู้อำนวยการฝ่ายกลยุทธ์การลงทุน จาก Verdence Capital Advisors กล่าว
‘น้ำมัน WTI’ ร่วง วิตกสต็อกพุ่ง โควิด-19 ฉุดดีมานด์
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงกว่า 5% เมื่อคืนนี้ (28 ตุลาคม) เนื่องจากความกังวลเกี่ยวกับภาวะน้ำมันล้นตลาด หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยสต็อกน้ำมันดิบพุ่งขึ้นเกินคาดในสัปดาห์ที่แล้ว นอกจากนี้นักลงทุนยังกังวลว่า การแพร่ระบาดของโควิด-19 จะทำให้ประเทศต่างๆ ประกาศมาตรการล็อกดาวน์ ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจโลกและความต้องการใช้น้ำมัน
นอกจากนี้นักลงทุนจับตาผลกระทบของพายุเฮอริเคนซีต้า ที่กำลังเคลื่อนตัวเข้าสู่อ่าวเม็กซิโก ขณะที่สำนักงานนิรภัยและการบังคับใช้สิ่งแวดล้อมของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ (Bureau of Safety and Environmental Enforcement: BSEE) ระบุว่า ณ วันพุธที่ 28 ตุลาคม บริษัทพลังงานที่ดำเนินการในอ่าวเม็กซิโกได้ระงับการผลิตน้ำมันดิบลงราว 66.6% และระงับการผลิตก๊าซธรรมชาติลง 44.5% เพื่อเตรียมรับมือกับพายุเฮอริเคนซีต้า
ทองคำรับแรงกดดันดอลลาร์แข็งค่า
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงหลุดจากระดับ 1,900 ดอลลาร์เมื่อคืนนี้ (28 ตุลาคม) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐได้สร้างแรงกดดันต่อราคาทองคำ ขณะที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ความวิตกกังวลเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐฯ และยุโรปเป็นสาเหตุสำคัญที่ทำให้นักลงทุนแห่เข้าซื้อสกุลเงินดอลลาร์ในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ โดยดัชนีดอลลาร์ ซึ่งเป็นดัชนีวัดความเคลื่อนไหวของดอลลาร์เมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก 6 สกุลในตะกร้าเงินเพิ่มขึ้น 0.50% แตะที่ระดับ 93.4036 เมื่อคืนนี้
นักวิเคราะห์จากบริษัท Metals Daily กล่าวว่า ดอลลาร์สหรัฐได้กลายเป็นสินทรัพย์ปลอดภัยในช่วงเวลาที่สถานการณ์การแพร่ระบาดทั้งในสหรัฐฯ และยุโรปย่ำแย่ลง นอกจากนี้นักลงทุนยังพากันระดมทุนด้วยการเทขายทองคำเพื่อรับมือกับการถูกเรียกหลักประกันเพิ่ม (Margin Call)
ขณะที่นักวิเคราะห์อีกรายหนึ่งกล่าวว่า การที่นักลงทุนผิดหวังต่อมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่ของสหรัฐฯ ที่อาจจะไม่สามารถบังคับใช้ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีนั้น ยังเป็นอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้เกิดแรงขายอย่างตื่นตระหนกในตลาดทองคำ
ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยอมรับว่า สหรัฐฯ อาจไม่สามารถออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจรอบใหม่เพื่อเยียวยาผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พฤศจิกายนนี้ เนื่องจากทำเนียบขาวไม่สามารถประสานความคิดเห็นที่แตกต่างกับบรรดาสมาชิกพรรครีพับลิกันในวุฒิสภา และสมาชิกพรรคเดโมแครตในสภาคองเกรส
พิสูจน์อักษร: พรนภัส ชำนาญค้า
อ้างอิง:
- https://www.cnbc.com/2020/10/27/stock-market-futures-open-to-close-news.html
- https://www.reuters.com/article/us-global-oil/oil-plunges-over-5-to-four-month-low-as-pandemic-surges-u-s-crude-output-soars-idUSKBN27D03U
