×

พรรคฝ่ายค้านศรีลังกาจ่อจัดตั้ง ‘รัฐบาลเอกภาพ’ รับมือสถานการณ์ฉุกเฉินหลังประธานาธิบดีเตรียมลาออก 13 ก.ค. นี้

11.07.2022
  • LOADING...
รัฐบาลเอกภาพ

พรรคฝ่ายค้านหลักของศรีลังกาจ่อผนึกกำลังกันจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพ (Unity Government) ซึ่งจะเป็นรัฐบาลผสมที่เกิดจากการรวมตัวกันของทุกพรรคการเมือง หลังจาก รานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีโกตาบายา ราชปักษา ประกาศเตรียมลาออกจากตำแหน่ง ท่ามกลางแรงกดดันจากประชาชนที่โกรธแค้นการบริหารงานที่ล้มเหลวของรัฐบาล จนนำไปสู่การลุกฮือบุกเข้าบ้านพักของผู้นำศรีลังกาเมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม

 

วานนี้ (10 กรกฎาคม) บรรดาผู้นำจากพรรคฝ่ายค้านหลักของศรีลังกาได้ร่วมประชุมกันเพื่อหารือเกี่ยวกับการเปลี่ยนผ่านอำนาจอย่างมีประสิทธิภาพ หลังจากประธานาธิบดีราชปักษาลาออกในวันที่ 13 กรกฎาคม

 

ด้าน รานิล วิกรมสิงเห นายกรัฐมนตรี ซึ่งเพิ่งเข้าดำรงตำแหน่งเมื่อเดือนพฤษภาคม ก็ประกาศเต็มใจที่จะลาออกเช่นกันหากศรีลังกาสามารถจัดตั้งรัฐบาลใหม่ขึ้นมาเพื่อเดินหน้าการบริหารประเทศต่อได้ โดยย้ำว่าประเทศกำลังเผชิญกับช่วงเวลาวิกฤตและต้องการรัฐบาลที่มีเสถียรภาพ

 

“เราเห็นพ้องในหลักการที่จะจัดตั้งรัฐบาลเอกภาพร่วมกับทุกพรรคการเมืองเพื่อรักษาการณ์ชั่วคราว” วิมาล วีระวรรณสา (Wimal Weerawansa) จากพรรคศรีลังกา โพดูจานา เปรามูนา (Sri Lanka Podujana Peramuna) กล่าว “นี่จะเป็นรัฐบาลที่มีผู้แทนมาจากทุกพรรค” โดยขณะนี้ยังคงอยู่ในระหว่างหารือว่าใครที่จะเหมาะสมก้าวขึ้นครองตำแหน่งประธานาธิบดีและนายกรัฐมนตรีคนใหม่

 

ด้านผู้ประท้วงยังคงปักหลัก ณ บ้านพักของประธานาธิบดีและบ้านของนายกรัฐมนตรี โดยยืนยันว่าจะขออยู่ที่นี่จนกว่ารัฐบาลของราชปักษาจะลาออกจากตำแหน่งอย่างเป็นทางการ

 

ทั้งนี้ รัฐบาลเอกภาพที่เตรียมจัดตั้งขึ้นใหม่คาดว่าจะดำรงตำแหน่งชั่วคราวจนกว่าศรีลังกาจะสามารถจัดการเลือกตั้งได้ แต่ถึงเช่นนั้น ไม่ว่าผู้ใดจะได้รับโอกาสเข้ามาบริหารประเทศต่อจากนี้ ก็นับว่าเป็นเส้นทางที่ยากลำบากอย่างยิ่ง เพราะปัญหาเศรษฐกิจยังไม่มีวี่แววว่าจะคลี่คลาย ประกอบกับปัญหาการขาดแคลนเชื้อเพลิงและวิกฤตอาหารอาจเลวร้ายลงอีกด้วย อีกทั้งผู้นำคนใหม่ยังต้องมีบทบาทสำคัญในการเรียกคืนความเชื่อมั่นของประชาชนที่กำลังสั่นคลอนจากวิกฤตเศรษฐกิจที่เลวร้ายที่สุดในรอบกว่า 70 ปี

 

แฟ้มภาพ: Tharaka Basnayaka / NurPhoto via Getty Images

อ้างอิง:

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising