×

“การใส่เงินลงไปไม่สำคัญเท่าการใส่ใจ” เศรษฐาลุย ยะลา-ปัตตานี ขอไว้ใจรัฐบาล ชี้หากเปิดสนามบินเบตงต้องไม่ขาดทุน

โดย THE STANDARD TEAM
28.02.2024
  • LOADING...

วันนี้ (28 กุมภาพันธ์) เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง พร้อมคณะ ลงพื้นที่ตรวจราชการในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ คือ จังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส ระหว่างวันที่ 27-29 กุมภาพันธ์ 

 

โดยนายกรัฐมนตรีและคณะใส่เสื้อมัดย้อมสีมายา ลายดอกพิกุล แซมด้วยใบศรียะลา สัญลักษณ์ต้นไม้ประจำจังหวัดยะลา เดินทางไปสักการะศาลเจ้าพ่อหลักเมืองยะลา และร่วมให้อาหารปลา

 

จากนั้นคณะเดินทางไปอุทยานการเรียนรู้ยะลา (TK Park) โดยแวะทักทายนักเรียนในห้องการเรียนรู้ต่างๆ พร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้สอบถามการต่อยอดงานวิจัยต่างๆ พร้อมให้กำลังใจให้ทำต่อให้สำเร็จ และเชื่อมั่นว่าเรามีของดี ขอให้ทะเยอทะยาน อย่าถ่อมตน เด็กทำมาแล้วผู้ใหญ่ก็ต้องสนับสนุนให้ต่อยอด ไม่เช่นนั้นสิ่งที่ทำมาดีจะสูญเปล่า 

 

วันที่ 1 มีนาคม ประกาศข่าวดีสนามบิน

 

นายกรัฐมนตรียังได้ร่วมรับฟังเวที ‘My Dream ฉันฝัน ฉันเห็น ฉันอยากเป็น’ ของนักเรียนจังหวัดยะลา ซึ่งขอสนามบินให้กับชาวยะลา พร้อมสอบถามเศรษฐาว่า พวกเราที่อยู่ในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้จะได้รับโอกาสทางการศึกษาเหมือนกับพื้นที่อื่นหรือไม่

 

ด้านเศรษฐาระบุว่า จริงๆ แล้วพวกหนูที่อยู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ไม่ได้หมายความว่าจะไม่ได้รับสิทธิ ไม่ได้รับโอกาสเท่าเทียมกับจังหวัดอื่น เป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องให้ประชาชนทุกคน เด็กนักเรียนทุกคน ที่อยู่ทุกภูมิภาคมีสิทธิ มีความเท่าเทียม มีความเสมอภาค และสามารถเข้าถึงโอกาส หลายอย่างที่บอกมาอยู่ในแผนงานของรัฐบาลอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเรื่องการสร้างสนามบิน ซึ่งจะมีการประกาศใหญ่ในวันที่ 1 มีนาคมนี้ รวมถึงการสนับสนุนเรื่องการท่องเที่ยว และการเข้าถึงการศึกษา

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวต่อว่า โอกาสสำคัญคือ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีศักยภาพ ถ้าผู้ใหญ่มาแล้วไม่เห็น มาแล้วไม่ทำผู้ใหญ่ก็ผิด แต่วันนี้ตนเชื่อว่าตนไม่ได้มาคนเดียว เราพยายามเข้ามาจัดการให้ได้ และเชื่อว่า 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีทั้งสันติภาพ สันติสุข ความสุข ที่ประชาชนในพื้นที่พึงจะได้รับ การทะนุถนอมและนำไปสู่ศักยภาพที่ทุกท่านสามารถเป็นได้ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ตนอยากเห็นและอยากกลับมาอีก มาดูความคืบหน้าของทุกโครงการที่ได้ทำกันไว้ในวันนี้

 

จากนั้นนายกฯ ได้ถ่ายภาพร่วมกับเยาวชน และรับชมการแสดงดนตรีจากวงออร์เคสตราเยาวชนเทศบาลนครยะลา 

 

เจ้าอาวาสวัดช้างให้ฯ แนะฟื้น ‘ลังกาสุกะ’

 

ก่อนจะเดินทางไปยังวัดช้างให้ราษฎร์บูรณาราม จังหวัดปัตตานี เพื่อสักการะหลวงปู่ทวด และสนทนาธรรมกับพระสุนทรปริยัติวิธาน เจ้าอาวาสวัดช้างให้ฯ ซึ่งฝากนายกรัฐมนตรีให้ดูแลเรื่องความปลอดภัยและความสงบ พร้อมฝากถึงการสนับสนุนอาหารฮาลาลว่าอยากให้ช่วยฟื้นฟูอาชีพประมงของชาวปัตตานีและลังกาสุกะ ซึ่งเป็นสถานที่โบราณของ 3 จังหวัดชายแดนใต้ด้วย

 

พร้อมกันนี้นายกรัฐมนตรีและคณะได้เยี่ยมชมและรับฟังการบรรยายวิธีการเลี้ยงปลานิลสายน้ำไหลเบตง และปลาพลวงชมพูฮาลาบาลา สู่ GI ไทย และรับประทานอาหารกลางวันที่ร้านอาหารบ่อปลานิลสายน้ำไหล (โกหงิ่ว) ตำบลตาเนาะแมเราะ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา โดย ชุมพล แจ้งไพร หรือเชฟชุมพล มาทำอาหารจากปลานิลสายน้ำไหลด้วย

 

แนะสร้างหอคอย ชมความงามผังเมืองยะลา

 

จากนั้นช่วงบ่ายนายกรัฐมนตรีและคณะเดินทางไปยังอำเภอเบตง จังหวัดยะลา เพื่อเยี่ยมชมกิจกรรมภายในสวนไม้ดอกเมืองหนาวเบตง (สวนหมื่นบุปผา) ทดลองทำเทียนหอมจากดอกไม้สด พร้อมให้สัมภาษณ์ระบุว่า รัฐบาลนี้มายกเลิกใบ ตม.6 นักท่องเที่ยวมาเลเซียเข้ามาท่องเที่ยว จากสัปดาห์ละประมาณ 10,000 คน กลายเป็น 30,000 กว่าคน ฉะนั้นเรื่องการท่องเที่ยว การจับจ่ายใช้สอยดีขึ้นเยอะมาก ตนจึงนำตรงนี้เป็นไอเดีย หากเรามาสร้างเศรษฐกิจให้ดีขึ้น โดยนำสิ่งที่ซ่อนอยู่ดีๆ เอาขึ้นมาให้ชาวโลกรู้ ส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว รวมถึงสินค้าผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ เพื่อให้คนพื้นเมืองมีรายได้มากขึ้น ซึ่งจะทำให้ลืมเรื่องการทะเลาะเบาะแว้ง หวังว่าเรื่องนี้จะเป็นจุดเริ่มต้นในการที่จะทำอะไรดีๆ ต่อไป

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของมัสยิดกรือเซะ ขอยอมรับว่าเป็นการเข้ามัสยิดครั้งแรก ประทับใจในรอยยิ้มไมตรีจิตที่พี่น้องให้การต้อนรับอย่างดี เห็นสันติภาพและสันติสุขในแววตาของพี่น้องทุกคนที่มา ส่วนเรื่องผลิตภัณฑ์ทองเหลืองที่เริ่มหายไปได้สั่งให้กระทรวงวัฒนธรรมฟื้นฟูเพื่อสร้างรายได้เพิ่มเติมให้กับประชาชน 

 

สำหรับผังเมืองยะลา วันนี้ทราบว่าเป็นเบอร์ 23 ของโลก อยากให้มีคนมาท่องเที่ยวเยอะมากขึ้น และน่าชื่นใจมีคนพื้นเมืองไปเรียนต่อเมืองนอกและกลับมาทำงานในประเทศ ขณะเดียวกันอยากส่งเสริมเรื่องการท่องเที่ยว อยากจะสร้างหอชมเมืองเพื่อได้มองลงมาและเห็นความสวยของผังเมือง 

 

นายกรัฐมนตรีกล่าวอีกว่า นอกจากนี้ยังได้มารับประทานปลานิลสายน้ำไหลกับปลาพวงชมพู ซึ่งมาเลเซียมีความต้องการ ตอนนี้พยายามให้เลี้ยงมากยิ่งขึ้นเพราะเป็นอาชีพที่ชัดเจน มีตลาดชัดเจน และสำหรับสวนดอกไม้ตรงนี้มีพืชพันธุ์หลากหลาย เหมาะสำหรับเป็นแหล่งเช็กอินการท่องเที่ยว ส่งออกต่างประเทศ และหากทำเนียบรัฐบาลมีอีเวนต์ ดอกไม้ตรงนี้จะสามารถนำไปทำอะไรได้บ้างก็จะดู 

 

ขอชาว 3 จังหวัดชายแดนใต้ไว้วางใจรัฐบาล 

 

“จริงๆ แล้วผมมาที่นี่มาดูเรื่องโอกาส ไม่อยากพูดถึงเรื่องปัญหา แต่เราเห็นโอกาสเยอะแล้ว จริงๆ แล้วปัญหาส่วนหนึ่งที่เกิดขึ้นในอดีตคือความห่างเหินระหว่างประชาชนกับข้าราชการ ซึ่งอาจมีความไม่เข้าใจกัน แต่ไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้ให้งบประมาณ เรื่องงบประมาณที่นี่เยอะ แม้จะมีการใส่งบประมาณไปแล้ว มีโครงการไปแล้ว แต่การใส่เงินลงไปไม่สำคัญเท่าการใส่ใจ การที่ผมลงมาที่นี่ด้วยตัวเอง และมาค้าง 2 คืน ถือเป็นนายกรัฐมนตรีในรอบ 10 ปีที่มาค้างที่นี่ ถือเป็นการแสดงเจตจำนงชัดเจนว่าเราจะนำความเสมอภาค ความเท่าเทียม และโอกาสมาสู่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้นี้” เศรษฐากล่าว

 

เศรษฐากล่าวอีกว่า “ผมอยากให้พี่น้อง 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้มีความไว้วางใจรัฐบาลนี้ เหตุการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในอดีต และจะเข้าเดือนรอมฎอนหรือพิธีถือศีลอด ซึ่งเป็นพิธีทางศาสนาอิสลาม มีการยกโทษให้กันและกัน เป็นเรื่องที่เราจะต้องเดินไปข้างหน้า วันนี้รัฐบาลพร้อมที่จะเป็นตัวเชื่อมระหว่างประชาชนกับประชาชนในทุกเขต ทุกประเทศ เพื่อให้เราลืมความทุกข์ ขอให้เราโฟกัสในเรื่องของโอกาสจะดีกว่า เพราะตอนนี้กำลังเห็นโอกาสอีกเยอะ พรุ่งนี้ไปจังหวัดนราธิวาสก็คงได้เห็นโอกาสอีกเยอะ” 

 

เมื่อถามถึงเรื่องการพูดคุยเรื่องสันติภาพ ที่รัฐบาลสมัยยิ่งลักษณ์  ชินวัตร ริเริ่ม ซึ่งวันนี้จะครบรอบ 11 ปี รัฐบาลจะมีการต่อยอดหรือไม่ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า แน่นอนว่าจะต้องดำเนินการต่อ แต่ในการพูดคุยกันอยากให้พูดคุยเรื่องของโอกาส เรื่องของอนาคตที่ดี ที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญกับ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งยืนยันว่าจะไม่มีการล้มแน่นอน

 

ส่วนจะมีการยกเลิก พ.ร.ก.ฉุกเฉินในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของฝ่ายความมั่นคงที่จะต้องพูดคุยกัน วันนี้อย่างที่ตนขอร้องไว้ การลงมาครั้งนี้ไม่อยากพูดถึงเรื่องพวกนี้ เราไม่อยากพูดถึงความขัดแย้ง ความไม่มั่นคง เราขอพูดถึงเรื่องโอกาสและศักยภาพดีกว่า ตนเชื่อว่าทุกคนรักและอยากทำให้ประเทศไทยเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน  

 

หากเปิดสนามบินเบตง ต้องไม่ขาดทุน

 

ส่วนสนามบินเบตงมีสิทธิ์ที่จะพัฒนากลับมาให้ใช้ใหม่ได้หรือไม่ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เรื่องนี้ต้องเห็นใจภาคเอกชนเช่นกัน เพราะเป็นเรื่องเชิงพาณิชย์ ซึ่งต้องมีเรื่องผลกำไร หรืออย่างน้อยต้องไม่ขาดทุน หรือขาดทุนน้อย หากอยู่ดีๆ ไปบังคับให้เอกชนมาให้บริการ ต้องนึกถึงใจเขาใจเราด้วย แต่ถ้าเกิดมีความต้องการเข้ามา สามารถที่จะพาคนเข้ามาได้ เขาก็เข้ามาเอง อย่างการบินไทยเองก็อยู่ในสภาพที่เรียกว่ารัฐบาลไม่ได้เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ แต่หากปลายปีนี้กระทรวงการคลังสามารถเข้าไปถือหุ้นใหญ่ก็อาจมีนโยบายดูว่าจะเข้าไปสนับสนุนตรงนี้ได้หรือไม่ 

 

“เราไม่อยากบังคับใคร เราอยากให้เป็นไปตามกลไกการตลาดมากกว่า และมีหลายอย่างที่เราต้องคำนึงถึง ไม่ต้องห่วงครับถ้ามีดีมานด์ ผมคุยหมดทุกอย่าง เช่นเดียวกับสนามบินที่ปัตตานี ยะลา ก็อาจคุยกับกองทัพได้ ทั้งกองทัพอากาศและกองทัพบก เรื่องความมั่นคงก็เป็นเรื่องสำคัญ แต่ความมั่นคงทางเศรษฐกิจก็ต้องส่งเสริมให้มีความมั่นคงทางทหารด้วย“ เศรษฐากล่าว

 

รับปาก ขยายถนน 410 ให้เสร็จภายใน 4 ปี

 

ก่อนนายกรัฐมนตรีและคณะจะเดินไปตรวจติดตามผลการดำเนินงานที่ด่านศุลกากรเบตง เพื่อรับฟังการบรรยายเรื่องการบริหารงานและปัญหาการดำเนินงาน พบว่าสถิติในปัจจุบันมีการใช้บริการเพิ่มมากขึ้น รวมถึงข้อเสนอที่ขอให้มีการขยายทางหลวงหมายเลข 410 ยะลา-เบตง เป็น 4 ช่องทางจราจร และการเจาะอุโมงค์ 

 

โดยนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของการขยายถนนสาย 410 จะทำให้แล้วเสร็จก่อน 4 ปี ส่วนการสร้างอุโมงค์จะให้กระทรวงคมนาคมทำการศึกษาเพื่อหาข้อมูลก่อน ไม่อยากให้คาดหวังเกินไป ส่วนเรื่องผังเมืองเป็นเรื่องระยะยาวที่ตนได้สั่งการให้กระทรวงอุตสาหกรรมและกระทรวงมหาดไทยไปประสานงาน เพื่อดูผังเมืองยะลาใหม่ทั้งหมด เพื่อให้เหมาะสมกับบริบทสังคมที่เปลี่ยนแปลงไปในปัจจุบัน

 

จากนั้นเดินทางไปเยี่ยมชมอุโมงค์เบตงมงคลฤทธิ์ อุโมงค์ลอดภูเขาแห่งแรกในประเทศไทยที่ตำบลเบตง อำเภอเบตง ก่อนพักค้างคืน 1 คืน และเดินทางไปปฏิบัติภารกิจที่จังหวัดนราธิวาสในวันพรุ่งนี้

 

  • LOADING...

READ MORE




Latest Stories

Close Advertising
X
Close Advertising