วันนี้ (9 มิถุนายน) ที่อุทยานแห่งชาติแจ้ซ้อน จังหวัดลำปาง เศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงผลสำรวจของนิด้าโพลที่ระบุว่า ประชาชนไม่พอใจการทำงานของรัฐบาลในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมา โดยระบุว่า ตรงนี้ก็น่าคิดอยู่เหมือนกัน เพราะทางสำนักงานสถิติแห่งชาติก็เพิ่งเผยผลสำรวจออกมาว่าตัวเลขออกมาใช้ได้ แต่อีกหนึ่งสัปดาห์ให้หลัง นิด้าโพลก็มีผลสำรวจออกมาในลักษณะย้อนแย้ง
อย่างไรก็ตาม นายกรัฐมนตรีระบุว่า แต่ก็ยินดีว่าเสียงที่เราควรได้ยิน ไม่ใช่เฉพาะเสียงชื่นชมอย่างเดียว ควรจะเป็นเสียงที่มีการติด้วย แต่เราก็ต้องดูว่าวิธีการทำสถิติและการไปเก็บตัวเลขเป็นอย่างไร ครบทุกหมวด ทุกเหล่า หรือเปล่า ถามเกษตรกรหรือเปล่า คิดว่าก็ต้องลงในรายละเอียดด้วย
“สมมติว่ามีความรู้สึกว่าไม่พอใจ ผมก็คิดว่าทุกคนที่ยืนอยู่กับผมตรงนี้ เรามีความเข้าใจถึงความเดือดร้อนของประชาชนและเราก็น้อมรับในผลโพลที่ออกมา เราเองก็ต้องพยายามทำให้ดีขึ้น”
นายกรัฐมนตรียังยืนยันด้วยว่ามีความมั่นใจไตรมาสที่ 4 ตัวเลขเศรษฐกิจและ GDP ของประเทศจะดีขึ้น ส่วนที่ภาคเอกชนกังวลว่าภาคการเมืองจะส่งผลกระทบต่อภาพรวมทางเศรษฐกิจ เศรษฐากล่าวว่า เรื่องการเมืองก็อยู่ควบคู่กันไปกับเศรษฐกิจไทย รวมทั้งชีวิตความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนคนไทยทั้งหมด แต่หน้าที่ของผู้หลักผู้ใหญ่ในบ้านเมืองที่เป็นฝ่ายบริหารก็ต้องทำหน้าที่บริหารต่อไป และพยายามลดทอนในเรื่องของความขัดแย้งหรือการใช้คำพูดอะไรที่เป็นการท้าทาย
“ผมเชื่อว่าทุกคนทราบดีว่าการเมืองคืออะไร แต่ก็ต้องไม่ให้เรื่องเหล่านี้มาบั่นทอน แต่ละคนมีหน้าที่อะไรก็ขอให้ทำกันไป แต่เหนือสิ่งอื่นใดถ้าเราเอาชีวิตความเป็นอยู่ของประชาชนเป็นที่ตั้ง เชื่อว่าถนนการเมืองทุกเส้นก็วิ่งสู่ความต้องการของพี่น้องประชาชน ใครจะมีวิธีการอย่างไรก็น้อมรับและยินดีรับฟัง” เศรษฐากล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันเดียวกันศูนย์สำรวจความคิดเห็น ‘นิด้าโพล’ สถาบันบัณฑิตพัฒนบริหารศาสตร์ (นิด้า) เปิดเผยผลการสำรวจของประชาชน เรื่อง ‘ขอถามบ้าง 9 เดือนรัฐบาลนายกฯ เศรษฐา’ สำรวจระหว่างวันที่ 4-5 มิถุนายน 2567 จากประชาชนที่มีอายุ 18 ปีขึ้นไป กระจายทุกภูมิภาค ระดับการศึกษา อาชีพ และรายได้ ทั่วประเทศ รวมทั้งสิ้นจำนวน 1,310 หน่วยตัวอย่าง เกี่ยวกับการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในรอบ 9 เดือน
จากการสำรวจเมื่อถามถึงความพึงพอใจของประชาชนต่อการทำงานของรัฐบาลนายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน ในรอบ 9 เดือน พบว่า ตัวอย่างร้อยละ 34.35 ระบุว่า ไม่ค่อยพอใจ เพราะการบริหารจัดการในเรื่องต่างๆ มีความล่าช้า และยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงที่แตกต่างไปจากเดิม รองลงมา ร้อยละ 31.69 ระบุว่า ไม่พอใจเลย เพราะไม่มีความก้าวหน้าในการทำงานและไม่สามารถทำตามนโยบายที่ได้หาเสียงไว้ ส่วนร้อยละ 25.19 ระบุว่า ค่อนข้างพอใจ เพราะมีความพยายามผลักดันนโยบายต่างๆ ทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และเห็นผลงานที่ชัดเจนในการแก้ไขปัญหา ร้อยละ 7.40 ระบุว่า พอใจมาก เพราะมีความตั้งใจในการทำงาน ช่วยเหลือประชาชน และทำให้ความเป็นอยู่ของประชาชนดีขึ้น และร้อยละ 1.37 ระบุว่า ไม่ตอบ / ไม่สนใจ