หลายคนมักบอกว่าการล่องเรือสำราญเป็นเรื่องของคนแก่และน่าเบื่อ วันๆ ไม่ค่อยมีกิจกรรมอะไรทำยกเว้นเสียแต่นอนอาบแดด ว่ายน้ำในสระ อ่านหนังสือ ฟังเพลงไปวันๆ เพื่อรอเวลาเทียบท่า หรือไม่ก็แก้เบื่อด้วยการเล่นเกมท้าทายจำนวนเงินในกระเป๋าในคาสิโน เราขอให้คุณลบความคิดนั้น เพราะ Spectrum of the Seas เรือสำราญลำที่เรากำลังพาคุณไปชมนั้น มีทุกอย่างอยู่ในเรือชนิดที่คุณก็คาดไม่ถึง ไม่ว่าจะเป็น ผับ บาร์ ร้านอาหาร ห้างสรรพสินค้า คาสิโน สนามกีฬา รวมไปถึงเครื่องเล่นมากมายราวกับสวนสนุกลอยน้ำ
Spectrum of the Seas เป็นเรือสำราญในตระกูล Quantum Ultra-Class ที่ Royal Caribbean บริษัทผู้ให้บริการเรือสำราญระดับโลก เปิดตัวและนำมาให้บริการก่อนการแพร่ระบาดของโควิดได้ไม่นาน ตัวเรือมีน้ำหนักมากถึง 168,666 ตัน ระยะทางรอบเรือรวมกันเกือบ 3 กิโลเมตร ด้านในประกอบด้วยห้องพักทั้งหมด 2,137 ห้อง ลิฟต์โดยสาร 17 ตัว สูง 347 เมตร สามารถจุผู้โดยสารได้ทั้งหมด 5,622 คน (รวมลูกเรือ) ใหญ่โตกว้างขวางจนได้รับสมญานามว่าเป็น ‘เรือสำราญที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย’ ไปครอง
Spectrum of the Seas ถ่ายจากท่าที่ปีนัง
บรรยากาศบาร์น้ำบนเรือ
บรรยากาศของเรือ เหมือนโรงแรมลอยน้ำเลยทีเดียว
สำหรับคนที่ไม่เคยนั่งเรือสำราญมาก่อน วิธีการเช็กอินเข้าเรือมีขั้นตอนคล้ายกับการเช็กอินเพื่อโดยสารเครื่องบิน หากแต่กระเป๋าเดินทางของคุณจะไปโผล่ยัง Stateroom หรือหน้าห้องนอนในเรือเลย คล้ายกับบริการในโรงแรม ผู้โดยสารทุกคนต้องผ่านด่านตรวจคนเข้าเมือง และพาสปอร์ตจะถูกเก็บไว้กับเจ้าหน้าที่เรือจนกว่าทริปจะสิ้นสุด เพื่อป้องกันการหนีเข้าเมือง ไม่กลับเรือ ยามเมื่อเรือเทียบท่ายังประเทศต่างๆ
ทริปที่เราเดินทางเป็นเส้นทาง 5 วัน 4 คืน จากสิงคโปร์สู่มาเลเซีย แต่แวะเทียบท่ายัง 2 เมืองใหญ่ของมาเลเซีย ได้แก่ พอร์ตกลัง และปีนัง แน่นอนว่าผู้โดยสารทุกคนสามารถเลือกได้ว่าจะใช้ชีวิตอยู่บนเรืออย่างเดียว หรือว่าจะลงไปเที่ยวในเมืองด้วย ซึ่งหากเลือกอย่างหลัง ข้อควรระวังเดียวคือ กลับให้ทันเวลาที่ทางเรือกำหนด เพราะไม่เช่นนั้นคุณจะกลายเป็นคนตกเรือ และเข้าเมืองอย่างผิดกฎหมาย
สำหรับใครที่ไม่คิดลงเที่ยวเมือง คุณสามารถหาความสำราญได้บนเรือชนิดที่ว่าร่วมอย่างไรกิจกรรมก็ยังไม่หมดเสียที ด้วยความที่ Spectrum of the Seas มีขนาดใหญ่มาก ที่นี่จึงมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก เริ่มตั้งแต่ดาดฟ้าเรือ นอกจากสระว่ายน้ำกลางแจ้ง 1 สระ พร้อมกับสวนน้ำสำหรับเด็ก ที่นี่ยังมีสระว่ายน้ำในร่มอีก 1 สระ และสระว่ายน้ำบริเวณหน้าเรืออีก 1 สระที่ต้อนรับเฉพาะผู้ใหญ่เท่านั้น สระบริเวณนี้จึงค่อนข้างสงบ และเต็มไปด้วยผู้ใหญ่ที่ต้องการมาพักผ่อน นอนอาบแดด แช่น้ำร้อนในอ่างจากุซซี จิบเครื่องดื่มแก้วโปรดที่สั่งได้ทุกเมื่อจากบาร์น้ำที่ตั้งอยู่ใกล้กัน
Sky Pad
หากเดินมาบริเวณท้ายเรือ ก็มีเครื่องเล่นมากมายให้ลอง ไม่ว่าจะเป็น ผาจำลองขนาดใหญ่ไว้ปีนป่าย, Sky Pad ลานแทรมโพลีนที่ใช้เทคโนโลยี Virtual Reality มาช่วยเพิ่มความนุก, คนที่ชอบกีฬาเซิร์ฟหรืออยากเล่นแต่ไม่ได้ลองเสียทีให้มุ่งไปที่ The FlowRider ฝึกทักษะเซิร์ฟพร้อมครูฝึกมืออาชีพ แต่ถ้าใครอยากลองอะไรใหม่ๆ แนะนำให้ปักหมุดยัง RipCord by iFLY ห้องดิ่งพสุธาจำลองที่ให้คุณลองความรู้สึกเหมือนบินอยู่บนฟากฟ้า ไม่ต้องกลัวหวาดเสียวหรือเล่นยาก เพราะมีครูฝึกดูแลทุกขั้นตอน และคนต่อคิวเล่นกันเยอะมาก
ใครที่เป็นสายชิล ชอบดูวิวในมุมสูง ห้ามพลาดกับ North Star กระเช้าลอยฟ้าที่พาคุณไปชมวิวทะเลแบบ 360 องศาในมุมสูง มองเห็นเรือทั้งลำลอยอยู่บนท้องทะเลอันกว้างใหญ่ แนะนำให้เล่นช่วงเย็นย่ำ จะเห็นดวงอาทิตย์ตกลงน้ำ สวยงามมากจริงๆ นอกจากนี้ในช่วงค่ำคืนยังมีโชว์แสงสีตระการตาผลัดเปลี่ยนมาให้ดูใหม่ทุกวัน กลางดึกมีฉายหนังกลางแปลง หรือถ้ายังไม่พอ ที่นี่ก็มีห้างสรรพสินค้า พร้อมช็อปสินค้าแบรนด์ให้เลือกซื้อหากันจุใจจนกระเป๋าเงินขาดไปข้าง
RipCord by iFLY
ผาจำลอง
North Star
สำหรับเรื่องอาหารการกิน มาบนเรือไม่ต้องกลัวหิวแม้แต่นิด บนเรือมีห้องอาหารบริการคุณตลอดทั้งวันแทบจะ 24 ชั่วโมง ตั้งแต่ห้องอาหารหลัก Windjammer, Two70, Main Dining และบาร์น้ำในทุกส่วนของเรือ คนที่เบื่ออาหารง่าย ยังมีของกินสนุกๆ จากร้านอาหารชื่อดังให้ลิ้มลองด้วย เช่น Jamie’s Italian, Izumi Japanese Cuisine หรือ Sichuan Red เป็นอาทิ
นั่นยังไม่รวมถึงสนามกีฬา ลู่วิ่ง รถบั๊ม และอีกสารพัดกิจกรรมจากทางลูกเรือ เล่ามาถึงตอนนี้ เรายังอธิบายความเจ๋งของเรือได้ไม่หมดเลย เอาเป็นว่าให้ภาพเล่าเรื่องดีกว่า ตามไปดูบรรยากาศของเรือ และประสบการณ์เที่ยวของเรากัน
กิจกรรมโปรดอย่างหนึ่งบนเรือของเราเลยคือ การแช่น้ำอุ่นในอ่างจากุซซี
ดีมากกก ก ไก่ล้านตัว
Main Dining ห้องอาหารที่เราฝากท้องมากที่สุด
ไวน์บาร์บนชั้น 5 ของเรือ เราแนะนำให้มานั่งช่วงเย็นๆ
สั่งแชมเปญจิบรอพระอาทิตย์ตก ถ้าเห็นดวงอาทิตย์เริ่มหล่นน้ำ
ให้หาที่นั่งแถวกาบเรือได้เลย สวยมาก
พระอาทิตย์ตกยามเย็น มองพระอาทิตย์ตกกลางทะเลก็สวยไปอีกแบบ
ในทริปนี้มีเรือจอดเทียบท่าลง 2 แห่ง คือ พอร์ตกลัง และปีนัง เราเลือกลงเที่ยวที่ปีนัง และสถานที่ในภาพก็คือ Clan Jetties Floating Village
สุดสะพานในหมู่บ้านยังมองเห็นวิวสะพานและวิวเมืองสวยมาก
พอตกเย็นก็ขึ้นเรือเตรียมออก อันนี้วิวปีนังถ่ายจากบนเรือ
Bionic Bar ไฮไลต์หนึ่งของเรือ บาร์น้ำที่ปรุงขึ้นจากหุ่นยนต์
บอกเลยบาร์นี้อร่อยไม่เท่าสนุก เปิดประสบการณ์มาก
สนามกีฬาไว้ตีปิงปอง ที่นี่มีทั้งสนามบาสเกตบอล สนามแบดมินตัน สนามยิงธนู เยอะไปหมด
อีกหนึ่งแหล่งของกินที่เราชอบมาก Dog House อยู่ชั้นเดียวกับสนามกีฬา
เปิดช่วงบ่าย ฮอตด็อกอร่อยดี ต้องมากิน
ห้องพักมีหลายระดับ ภาพนี้เป็นห้อง Suite ด้านในตกแต่งสวยงามเหมือนโรงแรมเป๊ะๆ
ภาพนี้เป็นห้องนอนของเรา เป็นห้อง Balcony Stateroom
สำหรับนักเดินทางท่านใดสนใจสัมผัสประการณ์การล่องเรือสำราญ Spectrum of the Seas สามารถเข้าไปดูเส้นทางได้ที่ habocruise.com หรือติดต่อตัวแทนการขายในประเทศไทย Travel Elements โทร. 0 2634 8080 อีเมล [email protected]