วันนี้ (24 ตุลาคม) พล.ร.อ. ปกครอง มนธาตุผลิน โฆษกกองทัพเรือ ชี้แจงข่าวกรณี สื่อสังคมออนไลน์ ได้มีการเผยแพร่ภาพข่าว กรณี พลทหาร วิศรุต เยาว์ดำ เสียชีวิตภายในหน่วยทหาร โดยระบุว่าขอให้มีการตรวจสอบสาเหตุของการเสียชีวิตว่ามาจากการถูกทำโทษจริงหรือไม่ ตามที่ได้มีการนำเสนอและเป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของสังคมอย่างกว้างขวางนั้น
พล.ร.อ. ปกครองกล่าวว่า กองทัพเรือขอแสดงความเสียใจกับการเสียชีวิตของ พลทหาร วิศรุต และขอชี้แจงข้อเท็จจริงว่า พลทหาร วิศรุต ประจำการอยู่ที่กองร้อยปืนเล็กที่ 1 หน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินกองทัพเรือที่ 33 ฐานปฏิบัติการบ้านบือราเป๊ะ ตำบลโคกเคียน อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส
โดยเมื่อวันที่ 20 ตุลาคม 2565 พลทหาร วิศรุต มีอาการปวดเมื่อยร่างกาย หน่วยได้นำตัวส่งเข้ารับการพยาบาล ณ โรงพยาบาลกัลยาณิวัฒนาการุณย์ อำเภอเมืองนราธิวาส จังหวัดนราธิวาส และได้ยามารับประทาน
ต่อมาเมื่อวันที่ 22 ตุลาคม 2565 พลทหาร วิศรุต อาการไม่ดีขึ้น โดยมีอาการแน่นหน้าอก หายใจไม่สะดวก ทางหน่วยต้นสังกัดจึงได้นำตัวส่งเข้ารับการรักษา ณ หมวดพยาบาล ค่ายจุฬาภรณ์ โดยแพทย์ได้ฉีดยารักษาและให้พักดูอาการ ณ หมวดพยาบาล ค่ายจุฬาภรณ์
ขณะพักอยู่นั้น พลทหาร วิศรุต มีอาการดีขึ้นและขอกลับไปพักที่ฐานปฏิบัติการฯ ซึ่งแพทย์ได้อนุญาตให้กลับไปพักได้ เมื่อถึงฐานปฏิบัติการ พลทหาร วิศรุต ได้ปฏิบัติงานตามปกติ พร้อมทั้งนั่งคุยและรับประทานอาหารร่วมกับเพื่อนๆ รวมถึงผู้บังคับบัญชา โดยไม่มีอาการผิดปกติ จนกระทั่งเข้านอน
ต่อมาเมื่อวันที่ 23 ตุลาคม 2565 เวลาประมาณ 04.30 น. เพื่อนทหารที่เข้าเวรยามเห็น พลทหาร วิศรุต ตื่นมาเข้าห้องน้ำทำภารกิจส่วนตัว จนกระทั่งเวลาผ่านไปประมาณ 10 นาที ทหารยามคนดังกล่าวได้ไปเข้าห้องน้ำ และได้ยินเสียงของ พลทหาร วิศรุต ฟังไม่ได้ศัพท์ น้ำเสียงผิดปกติ จึงไปเปิดประตู พบว่า พลทหาร วิศรุต มีอาการผิดปกติ จึงได้วิ่งไปตามกำลังพลมาช่วย ได้ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและรีบนำส่งโรงพยาบาลนราธิวาสราชนครินทร์อย่างเร่งด่วน แต่พลทหาร วิศรุตได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา
พล.ร.อ. ปกครองกล่าวว่า จากผลชันสูตรของแพทย์ลงความเห็นว่าพลทหาร วิศรุต เสียชีวิตด้วยสภาวะหัวใจหยุดเต้นเฉียบพลัน แต่ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด เนื่องจากตรวจสอบสภาพร่างกายแล้วไม่มีร่องรอยการได้รับบาดเจ็บ และผู้ป่วยไม่มีประวัติโรคประจำตัว
ทั้งนี้ กองทัพเรือไม่เคยมีนโยบายในการใช้ความรุนแรงหรือให้กระทำการใดๆ ในการลงโทษอันเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนในทุกรูปแบบ โดยคำนึงถึงการใช้อำนาจตามขอบเขตของกฎหมายตามหลักสิทธิมนุษยชน และกำหนดเฉพาะบทลงโทษตามวินัยทหาร ซึ่ง พล.ร.อ. เชิงชาย ชมเชิงแพทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ ได้สั่งการให้หน่วยต่างๆ ของกองทัพเรือ เข้มงวดและดำเนินการในเรื่องนี้อย่างจริงจัง การลงโทษให้เป็นไปตามขอบเขตโดยให้อยู่บนพื้นฐานของความปรารถนาดีต่อกัน และใช้การลงโทษเฉพาะเท่าที่จำเป็นเท่านั้น
และที่สำคัญคือได้ให้นโยบายโดยเน้นย้ำอยู่เสมอให้ปกครองและปฏิบัติต่อทหารกองประจำการโดยห้ามไม่ให้มีการกระทำใดๆ ที่รุนแรงโดยเด็ดขาด เพื่อที่จะให้กำลังพลมีระเบียบวินัย มีขวัญกำลังใจที่ดี ด้วยการปกครองบังคับบัญชาอย่างเป็นธรรม มีความรักความสามัคคี รู้หน้าที่มีความรับผิดชอบ ประกอบด้วยคุณธรรมจริยธรรม และมีความภาคภูมิใจในการเป็นทหารเรือ