รู้หรือไม่? ธุรกิจขนาดเล็กและกลาง (SMEs) ไทยมีสัดส่วนถึง 99% ของธุรกิจทั้งหมดในประเทศ มีส่วนขับเคลื่อน GDP กว่า 35% และมีแรงงานในธุรกิจประเภทนี้กว่า 65% ของแรงงานคนไทย ตามการเก็บข้อมูลของ Amazon Web Service (AWS)
จากผลการวิจัยโดย AWS พบว่า บริษัท SMEs กว่า 40% กำลังสนใจที่จะลงทุนเพิ่มเติมเพื่อเพิ่มศักยภาพเทคโนโลยีคลาวด์ในการช่วยบริหารจัดการข้อมูลให้ดียิ่งขึ้น โดย 3 ส่วนหลักๆ ที่ธุรกิจกลุ่มนี้เล็งที่จะพัฒนาเป็นอันดับต้นๆ ได้แก่
- เทคโนโลยีที่จะช่วยอำนวยความสะดวกการบริการให้กับลูกค้า หรือ Customer-Centric Digital Solutions
- การเสริมแกร่งกระบวนการจัดการให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นทั้งหลังบ้านและหน้าบ้าน (Stronger Operations)
- การนำเทคโนโลยีอย่างเช่น Generative AI มาปรับใช้เพื่อสร้างความแตกต่าง และความสามารถในการแข่งขันที่สูงขึ้นแก่ SMEs
สำหรับเทรนด์ในโลกของ SMEs ทาง Gunish Chawla กรรมการผู้จัดการ AWS ประจำภูมิภาคอาเซียนมองว่า มี 2 เทรนด์หลักคือ การย้ายฟังก์ชันการทำงานของธุรกิจให้ไปอยู่ในรูปแบบที่เป็นดิจิทัลมากขึ้น ด้วยการสนับสนุนและให้สิทธิประโยชน์ต่างๆ แก่ SMEs จากภาครัฐ และอีกส่วนคือนวัตกรรมที่ตอบโจทย์และต้องพร้อมใช้งานทันที ซึ่งเป็นสิ่งที่ธุรกิจกลุ่มนี้ให้ความสำคัญมาก
แต่ถ้ามองให้เล็กลงมาในอุตสาหกรรมที่ SMEs ดำเนินธุรกิจอยู่ ไม่ว่าจะเป็นด้านการเงินที่ต้องการโซลูชันเพื่อพัฒนาความพึงพอใจของลูกค้าต่อบริการ (Customer Experience) ให้ดีขึ้น และจำเป็นต้องช่วยลดต้นทุน หรือจะเป็นภาคการผลิตที่จะได้ประโยชน์จากคลาวด์ในด้านของกลยุทธ์การวางแผนสต๊อกสินค้าให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และธุรกิจฝั่ง Retail ที่จะนำข้อมูลพฤติกรรมลูกค้ามาวิเคราะห์จนนำไปสู่กลยุทธ์การตลาดที่แม่นยำและตรงจุดมากขึ้น
เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร MC Group หนึ่งในธุรกิจขนาดกลางที่เป็นลูกค้ากับระบบคลาวด์ของ AWS แชร์ประสบการณ์กับ THE STANDARD WEALTH ว่า “ผมดีใจที่มีพาร์ตเนอร์อย่าง AWS สาเหตุหลักที่เราเลือกที่จะจับมือและย้ายฐานข้อมูลของเราขึ้นไปอยู่บนระบบคลาวด์ของ AWS เพราะว่าประสิทธิภาพสูง รวดเร็ว และทำให้ธุรกิจของเราคล่องตัวขึ้นอย่างมาก แต่สิ่งสำคัญที่สุดคือการใช้ประโยชน์จากข้อมูลลูกค้าสมาชิกเรากว่า 1.5 ล้านราย ทำให้เราสามารถเข้าถึงข้อมูลเพื่อจะเข้าใจลูกค้า และตอบโจทย์ความต้องการของพวกเขาที่เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา โดยเฉพาะกับวงการแฟชั่นได้ดีมากขึ้น”
อย่างไรก็ตาม การเปิดรับเทคโนโลยีคลาวด์กับธุรกิจ SMEs ยังคงมีความท้าทายอยู่ 2 มิติ คือ ต้นทุนและความรู้ ถึงแม้ SMEs เองจะทราบดีถึงข้อดีต่างๆ ที่คลาวด์มีให้ ทำให้ทาง AWS ตัดสินใจเก็บข้อมูล SMEs จำนวน 1000 รายที่ใช้คลาวด์ของ AWS เป็นเวลา 5 ปีขึ้นไป เทียบกับก่อนใช้คลาวด์ว่าต้นทุนมีความแตกต่างกันอย่างไร ผลปรากฏว่า SMEs กลุ่มดังกล่าวสามารถลดต้นทุนด้าน IT ต่อคนลงไปกว่า 27.4%
เหตุผลที่ต้นทุนลดเป็นเพราะว่าผู้ประกอบการไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าบริการที่เกินความจำเป็น แต่จ่ายเท่าที่ใช้ ตามความต้องการที่มีขึ้นมีลง ณ ช่วงเวลาที่ต่างกันไป เช่น แคมเปญ 8.8 มีผู้ใช้งานสูงกว่าวันปกติ ซึ่งคลาวด์ก็สามารถปรับเพื่อตอบสนองการเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้ธุรกิจประหยัดต้นทุนส่วนเกินไปได้
ในเชิงของความรู้ AWS เปิดคอร์สออนไลน์ฟรี ‘AWS Skill Builder’ เพื่อเสริมความรู้ด้านคลาวด์และเทคโนโลยีด้านอื่นๆ ให้กับคนทั่วไป โดยมีคนไทยกว่า 50,000 คนที่ได้เรียนรู้จากแพลตฟอร์มนี้แล้ว
มาถึงตอนนี้ เราน่าจะพอเห็นถึงบทบาทของคลาวด์เป็นหนึ่งในเครื่องจักรสำคัญในการใช้ประโยชน์จากข้อมูลเพื่อขับเคลื่อนและต่อยอดโอกาสทางธุรกิจ ‘ผมว่าการที่เราตัดสินใจใช้คลาวด์ไม่ได้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต้นทุนอย่างเดียว แต่หัวใจสำคัญคือความสบายใจ เพราะเราไม่ต้องมานั่งกังวลในสิ่งที่เราไม่รู้ แต่ให้พาร์ตเนอร์ที่เชี่ยวชาญทำส่วนนี้ไป และเราในฐานะผู้ประกอบการ SMEs มีหน้าที่แยกให้ออกว่าควรให้ความสำคัญกับงานแบบไหน และอะไรที่เราควรให้คนอื่นที่มีความรู้มากกว่าเป็นผู้ดูแล’ เจมส์ ริชาร์ด อมตวิวัฒน์ กล่าวทิ้งท้าย
อ้างอิง:
- AWS Cloud Day Thailand: 8 สิงหาคม 2566
