สิงคโปร์ เสนอขายพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน หรือ Green Bond ที่มีอายุ 50 ปี เป็นครั้งแรก มูลค่าระดมทุน 2.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อนำเงินระดมทุนมาใช้ต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
ประเทศสิงคโปร์เป็นประเทศล่าสุดในอาเซียนที่ให้ความสำคัญกับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ หรือ Climate Change โดยล่าสุดรัฐบาลสิงคโปร์ได้ระดมทุนครั้งใหญ่ด้วยการเปิดเสนอขายพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน หรือ Green Bond อายุ 50 ปี มูลค่าระดมทุน 2.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ (ประมาณ 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
โดยเมื่อวันที่ 4 สิงหาคมที่ผ่านมา ธนาคารกลางสิงคโปร์ (MAS) ได้ประกาศอย่างเป็นทางการว่า Green Bond มูลค่า 2.4 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์นี้ กำหนดอัตราผลตอบแทนเริ่มต้นที่ 3.04% โดยเสนอขายแก่นักลงทุนสถาบัน มูลค่า 2.35 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์ และอีก 50 ล้านดอลลาร์สิงคโปร์ เสนอขายแก่นักลงทุนทั่วไป โดยได้เริ่มเปิดขายไปตั้งแต่วันที่ 5-10 สิงหาคมที่ผ่านมา และได้รับความสนใจจองซื้อมากกว่า 5.3 พันล้านดอลลาร์สิงคโปร์
ทั้งนี้ Bloomberg รายงานว่า ก่อนหน้านี้สิงคโปร์ไม่มีพันธบัตรรัฐบาลอายุ 50 ปี จึงไม่สามารถมีตราสารหนี้มาเปรียบเทียบได้ แต่ผลตอบแทนพันธบัตรอายุ 30 ปี อยู่ที่ 2.8%
Winson Phoon หัวหน้าฝ่ายวิจัยตราสารหนี้ของ Maybank Securities กล่าวว่า นี่เป็นโอกาสดีในการเข้าลงทุน แม้ว่าส่วนต่างอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรอายุ 30 ปี และ 50 ปี จะไม่มากนัก และแม้ว่าธนบัตรที่มีอายุยาวได้รับผลกระทบเนื่องจากอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น แต่ตลาดก็จะค่อยๆ ฟื้นตัวขึ้นเพราะดอกเบี้ยน่าจะปรับขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป เพราะมีปัจจัยกังวลเรื่องภาวะถดถอยของสหรัฐฯ
Leong Sing Chiong รองกรรมการผู้จัดการ MAS กล่าวในแถลงการณ์ว่า การเสนอขายพันธบัตรระยะยาวถึง 50 ปี จะช่วยพัฒนาตลาดตราสารหนี้ของสิงคโปร์ และสนับสนุนการออกหุ้นกู้ในองค์กรที่มีอายุยาว
สิงคโปร์เป็นประเทศที่ค่อนข้างล้าหลังในตลาดตราสารหนี้เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ทั่วโลกที่ตลาดตราสารหนี้เฟื่องฟูไปมากแล้ว โดยยุโรปเป็นภูมิภาคที่ตลาดตราสารหนี้มีขนาดใหญ่ ส่วนในภูมิภาคเอเชียนั้น ฮ่องกงจัดเป็นศูนย์กลางทางการเงิน และเพิ่งเสนอขายพันธบัตรเพื่อความยั่งยืน (Green Bond) ไปเมื่อต้นปีที่ผ่านมา ด้วยมูลค่าระดมทุน 2 หมื่นล้านดอลลาร์ฮ่องกง (ราว 2.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ)
โดย Green Bond ของสิงคโปร์ครั้งนี้เป็นการระดมทุนเพื่อสนับสนุนการขยายเครือข่ายรางไฟฟ้า และเป็นส่วนหนึ่งของแผนงานรัฐบาลด้านการดูแลด้านสิ่งแวดล้อม ประมาณ 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์สิงคโปร์ ภายในปี 2030
ตามรายงานของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งเอเชีย (ADB) ตลาดพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนในอาเซียนและเอเชียตะวันออกมีมูลค่าถึง 478.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นเดือนมีนาคม ซึ่งมีการขยายตัว 51.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี และคิดเป็น 18.1% ของตลาดพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนทั่วโลก เท่ากับมีขนาดใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากยุโรปเท่านั้น
โดยประเทศจีนมีตลาดพันธบัตรเพื่อความยั่งยืนใหญ่ที่สุดในภูมิภาค มูลค่า Green Bond ของจีนคิดเป็น 66% ของภูมิภาค ณ สิ้นไตรมาสแรก และมีมูลค่าคงค้าง 2.388 แสนล้านดอลลาร์
ทั้งนี้ แม้ส่วนแบ่งของอาเซียนอาจน้อยกว่าเมื่อเปรียบเทียบ แต่ ADB ตั้งข้อสังเกตว่าภูมิภาคนี้ยังมีแนวโน้มในการเติบโตอีกมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งท่ามกลางแนวโน้มทั่วโลกที่กำลังเปลี่ยนผ่านด้านพลังงานไปสู่ Low Carbon
อ้างอิง:
- https://www.bloomberg.com/news/articles/2022-08-04/singapore-joins-green-finance-bonanza-with-50-year-bond
- https://www.mas.gov.sg/news/media-releases/2022/singapore-prices-2-4-billion-50-year-inaugural-sovereign-green-bond-public-offer-now-open-for-individual-investors
- https://asia.nikkei.com/Business/Markets/Bonds/ASEAN-governments-rush-to-issue-green-bonds