สปีกอีซี่บาร์แห่งใหม่ใน Anantara Siam Bangkok ที่ไม่ว่าจะเป็นตัวดริงก์ หรือการตกแต่ง ล้วนได้แรงบันดาลใจมาจากดอกไม้ เพียงแค่เดินผ่าน Aqua Bar เข้าไปยังประตูสีน้ำตาลที่มีคำว่า Siam Flowers ขนาดใหญ่ คุณจะได้หลีกหนีความวุ่นวายจากโลกภายนอก เพื่อดื่มด่ำกับบรรยากาศและค็อกเทลจากฝีมือ แบงค์-วัชรพงษ์ สุริยพันธุ์ หัวหน้าบาร์เทนเดอร์ ผู้รังสรรค์เมนูในบาร์แห่งนี้ด้วยความใส่ใจ เต็มอิ่มด้วยรายละเอียด และเรื่องราวที่ให้ชวนนั่งและจิบกันยาวๆ
The Vibe
ทันทีที่เดินเข้าไป คุณจะพบกับม่านคริสตัล ซึ่งถือเป็นปราการด่านที่ 2 ก่อนพบกับบาร์ด้านซ้ายมือ ที่มีบาร์เทนเดอร์ยืนรอต้อนรับลูกค้าอย่างสุภาพ การตกแต่งของ Siam Flowers เน้นสีโทนดำแดง ประดับประดาไปด้วยเหล่าบุปผาและแมกไม้ต่างๆ เน้นการผสมผสานระหว่างความลักชัวรีและรัสติกนิดๆ ด้วยโต๊ะไม้รูปทรงออร์แกนิกและเก้าอี้นั่งกำมะหยี่ นอกจากนี้ยังใช้ไฟส้ม ซึ่งให้ความสว่างที่เหมาะเจาะสำหรับการทำงานของบาร์เทนเดอร์ แต่ในขณะเดียวกันก็ให้ความเป็นส่วนตัวกับลูกค้าได้
The Drinks
ราชาวดี (400 บาท) คือดริงก์ตัวแรกที่นำมาเสิร์ฟ แก้วนี้แบงค์เชื่อมโยงคลาสสิกค็อกเทลที่มีชื่อว่า Crimson King ก่อนปรับโครงสร้างของค็อกเทลคลาสสิกตัวนี้ขึ้นใหม่ โดยมีเบสเป็นรัมที่เขานำไปอินฟิวส์กับกาแฟ ทำให้มีกลิ่นและรสชาติของกาแฟเจืออยู่ในดริงก์ เติมความหอมอบอวลด้วย Crème de Violette เติมโน้ตสมุนไพรและซิตรัสด้วย Bitter Bianco ตกแต่งด้วยส้มและดอกกุหลาบ นับเป็นสปิริตฟอร์เวิร์ดที่เข้าถึงทุกคนได้ ไม่มีแบ่งแยกเพศ
ราชาวดี
ตามมาด้วย Flowery Speech (400 บาท) นำด้วยจินที่ถูกนำไปอินฟิวส์กับชาคาโมมายล์มาเป็นเบส ทำให้เหล้าตัวนี้มีความหอมแบบโบทานิคัล โดยมีคาโมมายล์เป็นกลิ่นหลัก เติม St.Germaine ที่ทำจากดอกเอลเดอร์ ไวต์สวีตเวอร์มูธ และ Bitter Bianco ถือเป็นดริงก์ที่ดื่มได้ลื่นไหล สบายคอ อีกทั้งยังมีกลิ่นหอมราวกับเดินอยู่ในสวนพฤกษศาสตร์
Flowery Speech
ดื่มดริงก์สไตล์สปิริตฟอร์เวิร์ดกันไปแล้ว ลองชิมดริงก์สายสดชื่นกันบ้างดีกว่า เริ่มด้วยแก้วนี้ A Good Riddance (400 บาท) ที่ชื่ออาจฟังไม่ดอกไม้สักเท่าไรนัก แต่ดริงก์นี้มีกลิ่นและรสชาติที่หอมหวาน ขมหน่อยๆ เหมือนความรู้สึกของคนที่กำลังอยู่ในโหมด Friend Zone ตัวนี้เบสด้วยจิน ตามด้วยไซรัปที่ทำจากสตรอว์เบอร์รีและดอกซากุระ White Crème de Cacao ที่ให้โน้ตแบบช็อกโกแลตนม ตัดความเลี่ยนด้วยความเป็นซิตรัสของเลมอน ตบท้ายด้วยการ์นิชแผ่นๆ หน้าตาละม้ายคล้ายข้าวเกรียบที่ทำจากช็อกโกแลต ซึ่งเราต้องทานไป จิบไป ถือเป็นการตีความความรู้สึกของคนที่มักตกอยู่ในสถานการณ์แอบรัก หรือรักคนที่เขาไม่ได้รักตอบ ว่าจะมีรสชาติอย่างไร และทำไมมันถึงมีคนที่เสพติดความรู้สึกแบบนี้
A Good Riddance
ตัวสุดท้ายแต่ไม่ท้ายสุดคือ ซ่อนกลิ่น (400 บาท) หน้าตาไม่ต่างอะไรกับจินโทนิก แต่กลับมีอะไรหลบซ่อนให้ค้นหา ชื่อดริงก์เป็นชื่อเดียวกับดอกซ่อนกลิ่น ดอกไม้ที่สมัยก่อนเอาไว้ใช้โรยบนศพ เพื่อกลบกลิ่นเน่า แก้วนี้แบงค์ได้แรงบันดาลใจมาจากคลาสสิกอีกตัวที่ชื่อ Corpse Riviver No.2 แปลเป็นไทยได้ว่า ดริงก์ที่คืนชีพให้ศพนั่นเอง
แบงค์ได้เชื่อมโยงความเกี่ยวข้องของตัวดอกไม้และคลาสสิกค็อกเทลได้เป็นอย่างดี โดยใช้วัตถุดิบของดริงก์คลาสสิกบางอย่าง เช่น จิน แอบซินธ์ แต่แทนที่จะใช้เป็นซิตรัสสด กลับแทนที่วัตถุดิบด้วย Oleo Saccharum ที่ทำให้ได้ความเป็นซิตรัสที่แตกต่าง ถูกส่งผ่านในรูปแบบของน้ำมันหวานๆ นับเป็นค่ำคืนที่เราได้ดื่มด่ำกับดอกไม้มิติต่างๆ ผ่านทางรูป รส กลิ่น เว้นอยู่อย่างเดียวคือ เสียง ซึ่งถ้ามันพูดกับเราได้ เราคงได้แลกเปลี่ยนบทสนทนากันตลอดทั้งคืน
ซ่อนกลิ่น
Siam Flowers
Open: เปิดบริการทุกวัน 18.00-02.00 น.
Address: Anantara Siam Bangkok
Budget: 400 บาท
Contact: 0 2365 9110
Page: web.facebook.com/siamflowersbangkok
Map:
พิสูจน์อักษร: ภาวิกา ขันติศรีสกุล
- Oleo Saccharum คืออะไร? หาอ่านได้ที่ thestandard.co/a-bar
- Corpse Reviver เป็นดริงก์ที่มีหลายเวอร์ชันมาก ไม่ว่าจะเป็น No.1, No.2 บ้างก็อ้างว่ามีถึง No.2A หรือเรียกตัวนี้ว่า No.3 แต่ Corpse Reviver No.2 เป็นที่รู้จักแพร่หลายมากกว่า ส่วนผสมนอกจากจะมีจินและแอบซินธ์แล้ว ยังมี Kina Lillet ซึ่งเลิกผลิตไปแล้ว บาร์เทนเดอร์สมัยนี้จึงหันไปใช้ Lillet Blanc หรือเวอร์มูธตัวอื่นแทน