หากให้ยกตัวอย่างบริษัทในประเทศไทยที่เติบโตอย่างยั่งยืนด้วยคุณภาพของสินค้าและบริการตั้งแต่วันแรกที่ดำเนินการ แม้ว่าจะผ่านวิกฤตเศรษฐกิจเดียวกันกับคนไทยทั้งประเทศ ก็ยังนำพาองค์กรให้เติบโตอย่างต่อเนื่อง คงต้องยกให้บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) หรือที่รู้จักในนาม ‘ปูนอินทรี’ เป็นหนึ่งในองค์กรที่ธุรกิจไหนๆ ก็สามารถเรียนรู้แนวคิดที่ทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืนตลอด 50 ปีที่ผ่านมา

 

 

บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) มีวิสัยทัศน์ที่แข็งแกร่งและชัดเจนว่า จะเป็นบริษัทที่ผลิตสินค้าที่ได้มาตรฐานสูงสุด และให้บริการด้านวัสดุก่อสร้าง ซึ่งมีความสำคัญต่อการเติบโตทางเศรษฐกิจของประเทศไทยและภูมิภาคใกล้เคียง โดยผสานแนวคิดด้านความยั่งยืนและการสร้างสรรค์นวัตกรรม

 

50 ปีของการดำเนินธุรกิจ ปูนอินทรียังคงเดินตามแนวทางที่วางรากฐานไว้อย่างหนักแน่นว่า จะเป็นบริษัทที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจโดยยึดหลักธรรมาภิบาล คำนึงถึงความรับผิดชอบต่อสิ่งแวดล้อมและสังคม พร้อมก้าวไปข้างหน้าอย่างต่อเนื่อง สู่เป้าหมายในการเจริญเติบโตของธุรกิจอย่างยั่งยืน 

 

หนึ่งในเสาหลักที่แข็งแกร่งของบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงคือ การผสมผสานความแข็งแกร่งขององค์กรหลายด้านเข้าด้วยกัน ทั้งในการปฏิบัติการที่เป็นเลิศ การคำนึงถึงความปลอดภัย และการพัฒนาอย่างยั่งยืน ตลอดจนการสร้างสรรค์นวัตกรรมต่างๆ ส่งผลให้ตลอด 50 ปีของการดำเนินธุรกิจ คุณภาพสินค้าและบริการของบริษัทฯ ยังคงได้รับความไว้วางใจจนถึงทุกวันนี้ โดยได้สอดแทรกทัศนคติให้กับพนักงานทุกคนที่จะต้องทุ่มเทความสามารถ และให้ความเคารพต่อชุมชน ภายใต้ความตั้งใจที่จะสร้างมาตรฐานใหม่ให้แก่อุตสาหกรรมในอนาคต

 

 

นอกจากนี้กลุ่มบริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงยังมุ่งมั่นที่จะเป็นพลเมืองที่ดีของสังคม (Good Corporate Citizen) ด้วยการช่วยเหลือสังคม ทั้งในระดับชาติและระดับชุมชน สำหรับชุมชนที่ตั้งอยู่รอบๆ กิจการของบริษัทฯ 

 

ศิวะ มหาสันทนะ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “เราได้ศึกษาความต้องการและความคาดหวังของสังคมในเชิงลึก และนำผลการศึกษามาร่างกรอบโครงการด้านการพัฒนาอย่างยั่งยืน และความรับผิดชอบต่อสังคมของเรา โดยเราจะไม่ยอมหยุดความพยายามที่จะสร้างความยั่งยืน โครงการของเราทั้งหมดเป็นโครงการระยะยาว ภายใต้แนวคิด ‘หัวใจสีเขียว’ เช่น โครงการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก โครงการอนุรักษ์น้ำ ซึ่งรวมถึงโครงการโรงเรียนสีเขียวและโครงการหมู่บ้านสีเขียว เป็นต้น โดยมุ่งหวังที่จะสร้างความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน และความร่วมมือในหมู่พนักงาน ซึ่งพนักงานของเราจะร่วมเป็นอาสาสมัคร เพื่อดำเนินการโครงการเพื่อกิจกรรมเหล่านี้” 

 

หัวใจสีเขียว ขยายผลกลายเป็นโครงการต่างๆ มากมายตลอด 50 ปี เช่น โครงการชุมชนต้นแบบเพื่อโลกสีเขียว โดยทำร่วมกับมูลนิธิชัยพัฒนา ภายใต้แนวคิด ‘โลกน่าอยู่คู่หัวใจสีเขียว’ หรือโรงเรียนสีเขียวแบบบูรณาการ โดยร่วมกับกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน สร้างโรงเรียน และให้โอกาสเด็กด้อยโอกาสในชนบทห่างไกลตามแนวชายแดนได้รับการศึกษาควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิต โครงการ Green Village by อินทรี เป็นโครงการที่ก่อสร้างหมู่บ้านตัวอย่าง ออกแบบให้กับชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากน้ำท่วมใหญ่ปี 2554 ให้สามารถอาศัยอยู่กับน้ำได้อย่างปลอดภัยและยั่งยืน เป็นต้น 

 

ที่ผ่านมา บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวง ยังได้ลงนามบันทึกความร่วมมือกับ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (IUCN) ซึ่งเป็นองค์กรระหว่างประเทศที่ส่งเสริมการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพ ซึ่งสะท้อนความมุ่งมั่นของบริษัทในการอนุรักษ์ความหลากหลายทางชีวภาพของภูเขาหินปูนภายในเหมืองหินของบริษัทและพื้นที่โดยรอบในอำเภอแก่งคอย จังหวัดสระบุรี และในประเทศกัมพูชา ศรีลังกา และเวียดนาม เพื่อทำให้เป็นพื้นที่สีเขียวภายใต้โครงการการฟื้นฟูเหมืองหินของบริษัท ทั้งนี้ บริษัทปูนซีเมนต์นครหลวงยังเป็นบริษัทปูนซีเมนต์รายแรกของไทยที่ลงนามในบันทึกข้อตกลงกับ องค์กรระหว่างประเทศเพื่อการอนุรักษ์ธรรมชาติ (International Union for Conservation of Nature: IUCN) 

 

 

 

นอกจากความใส่ใจที่มีต่อสิ่งแวดล้อม การสร้างความไว้ใจและความผูกพันที่ดี เพื่อสร้างความมั่นใจและความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับพันธมิตรธุรกิจ พนักงาน และชุมชนของเรา เป็นอีกหนึ่งเสาหลักที่ทำให้องค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน จะเห็นได้จากการพัฒนานวัตกรรมต่างๆ เพื่อให้พันธมิตรทางธุรกิจเติบโตไปพร้อมกัน เช่น Supply Chain on Blockchain เป็นการนำเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุดของโลก ซึ่งได้แก่ Blockchain และ Artificial Intelligence (AI หรือปัญญาประดิษฐ์) มาพัฒนาเป็นโซลูชันให้ดีลเลอร์และซับดีลเลอร์ของปูนอินทรีได้ใช้งานง่าย 

 

ศิวะกล่าวว่า “การที่เราให้น้ำหนักกับการเติบโตทางธุรกิจ และความรับผิดชอบต่อสังคม จะทำให้ธุรกิจของเราทั่วทั้งภูมิภาคแข็งแกร่งและยั่งยืน ทั้งนี้ เราจะให้ความสำคัญกับการสร้างนวัตกรรมและการนำเอาเทคโนโลยีมาใช้ในการเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขัน และตอบสนองต่อความต้องการของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย เราตั้งใจมากที่จะสร้างผลกำไรและฐานะการเงินที่แข็งแกร่งไปพร้อมๆ กับความรับผิดชอบต่อสังคมในฐานะพลเมืองบรรษัทที่ดี ด้วยการสร้างสภาพแวดล้อมการทำงานที่ปลอดภัยและมีสุขลักษณะ การปกป้องสภาพแวดล้อม และการช่วยเหลือชุมชนและสังคมในทุกที่ที่เราดำเนินธุรกิจ” 

 

องค์กรใดหรือธุรกิจไหนที่ต้องการศึกษาแนวคิดการดำเนินธุรกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน และยังสามารถคืนสิ่งดีๆ ให้กับสังคมได้จริงๆ สิ่งที่บริษัท ปูนซีเมนต์นครหลวง จำกัด (มหาชน) ลงมือทำอย่างต่อเนื่องตลอด 50 ปี คงพิสูจน์ความแข็งแกร่งของวิสัยทัศน์องค์กรได้อย่างไร้ข้อกังขา